We were promised supersonic flights

We were promised supersonic flights. Today, we stay well below the speed of sound. We were promised transatlantic flights from New York to London in 3 and a half hours. Today, that flight takes us 7 hours. We were promised the future of flying. That future hasn't existed for 10 years. The last flight of the Concorde was on October 24, 2003, we've been flying on slow-haul planes since.

It's not as simple as this, obviously, but the appearance and disappearance of the Concorde could be thought of as follows: Imagine that starting today, you couldn't use your phone anymore. Instead, you suddenly have to go back to your flip phone. The transatlantic flights you take today? They're Razrs.

The Concorde was created by Britain's British Aircraft Corporation and France's Aérospatiale in the early 1960s. Its first commercial flight wasn't until 1976, but it stayed in service for 27 years for Air France and British Airways, the only two airlines who ever flew Concordes. In fact, in its entire history, only 20 Concordes were ever built.

Because the Concorde was only profitable for long distance flights, the fleet typically only flew between Paris or London and New York. But who cares about profits, it's the technology of the jet that made it special. The Concorde used afterburners to get to supersonic speeds, reaching 1,350mph (commercial planes today cruise under 600mph), the intake was able to hit Mach 2.0 airspeed (jet engines can only take in Mach 0.5 air), it had a drooping nose that would change its angle depending on takeoff or landing and the ogival delta-wing design was just stunning.

It wasn't, of course, without its issues. If it were problem-free we'd still be flying them today. The Concorde was notoriously high maintenance, at times it was an engineering nightmare, it sucked down fuel like a flying Hummer with a gas leak would, its cockpit was complicated with knobs and dials of every kind, the outside of the plane would get hot because of air friction, there were radiation concerns because it flew so high and, worst of all, a Concorde jet suffered a horrific crash on July 25, 2000, where 113 people died, 109 being inside the aircraft.

The crash—the only fatal accident in Concorde's history—marked the beginning of the end for the Concorde and still stains the memory of one of the world's greatest technological marvels. Which is unfortunate because before the accident, the Concorde was considered one of the safest planes in the world. But after that fateful day, all Concordes were grounded pending the investigation of Air France Flight 4590 and the Concorde would never recover.

The Concorde had legitimate issues, enough that it makes sense that we've put them in mothballs. But it's sad that we don't fly them anymore because it feels a bit like the dark ages every time we step onto any other airplane.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เรามีสัญญาเที่ยวบินความเร็วเหนือเสียง วันนี้ เราอยู่ต่ำกว่าความเร็วของเสียงดี เรามีสัญญามหาสมุทรแอตแลนติกบินจากนิวยอร์กสู่ลอนดอนใน 3 ชั่วโมงครึ่ง วันนี้ เที่ยวบินที่ใช้ให้เราเวลา 7 ชั่วโมง เราได้สัญญาว่า ในอนาคตของการบิน อนาคตที่ไม่มีอยู่แล้ว 10 ปี เที่ยวบินสุดท้ายของคองคอร์ดมีบน 24 ตุลาคม 2003 เราได้รับการบินบนเครื่องบินลากช้าตั้งแต่มันไม่ง่ายเช่นนี้ แน่นอน แต่ลักษณะปรากฏและหายตัวไปของคองคอร์ดสามารถคิดได้ดังนี้: สมมติว่า เริ่มต้นวันนี้ คุณไม่สามารถใช้โทรศัพท์ของคุณอีกต่อไป แทน ก็ได้ย้อนกลับไปยังโทรศัพท์ของคุณพลิก เที่ยวบินที่มหาสมุทรแอตแลนติกคุณมีวันนี้ พวกเขากำลัง Razrsคองคอร์ดถูกสร้างขึ้น โดย บริษัทเครื่องบินอังกฤษสหราชอาณาจักรและ Aérospatiale ของฝรั่งเศสในช่วงปี 1960 เที่ยวบินพาณิชย์ของแรกเลยจนถึง 1976 แต่มันอยู่ใน 27 ปีสำหรับ Air France และบริติชแอร์เวย์ สายการบินเพียงสองคนที่เคยบิน Concordes ในความเป็นจริง ในประวัติศาสตร์ของทั้งหมด Concordes 20 เท่าเคยสร้างเพราะคองคอร์ดเฉพาะกำไรสำหรับเที่ยวบินไกล เรือโดยทั่วไปเท่านั้นบินระหว่างปารีส หรือลอนดอน และนิวยอร์ก แต่ที่ใส่ใจผลกำไร เป็นเทคโนโลยีของเจ็ทที่ทำพิเศษ คองคอร์ดที่ใช้ afterburners สู่ความเร็วเหนือเสียง การเข้าถึงความเร็ว 1350 (เครื่องบินพาณิชย์วันนี้ล่องภายใต้ความเร็วที่ 600), การบริโภคได้ตี airspeed 2.0 เครื่องจักร (เครื่องยนต์สามารถนำอากาศ Mach 0.5), มันมีจมูก drooping ที่จะเปลี่ยนมุมตามสนามบินหรือขนย้ายสินค้า และแบบเดลต้าวิง ogival เป็นเพียงสวยงามมันไม่ได้ แน่นอน ไม่มีปัญหาของการ ถ้ามันมีปัญหา เราจะยังคงสามารถบินไปวันนี้ คองคอร์ดถูกบำรุงรักษาสูงฉาว บางครั้งก็เป็นฝันร้ายวิศวกรรม มันดูดลงน้ำมันเชื้อเพลิงเช่น Hummer บินกับแก๊สรั่วจะ ของส่วนควบคุมที่ซับซ้อนกับลูกบิดและเรียกทุกชนิด ด้านนอกของเครื่องบินจะได้ร้อนเนื่องจากแรงเสียดทานอากาศ มีรังสีความกังวลเนื่องจากในอดีตดังนั้นสูง และ มาก เจ็ทคองคอร์ดประสบล้ม horrific บน 25 กรกฎาคม 2000 ที่ 113 คนเสียชีวิต 109 ที่อยู่ในเครื่องบินชน – อุบัติเหตุร้ายแรงเฉพาะในประวัติของคองคอร์ด – ทำเครื่องหมายจุดเริ่มต้นของการสิ้นสุดสำหรับคองคอร์ด และคราบสกปรกยัง หน่วยความจำของสาเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งเป็นโชคร้ายเนื่องจากก่อนเกิดเหตุ คองคอร์ดถือเป็นหนึ่งในเครื่องบินปลอดภัยที่สุดในโลก แต่หลังจากวันนั้นทำให้ถึงตาย Concordes ทั้งหมดมีสูตรรอการตรวจสอบอากาศฝรั่งเศสเที่ยวบิน 4590 และคองคอร์ดจะกู้คืนไม่คองคอร์ดที่มีปัญหาถูกต้อง พอที่มันทำให้รู้สึกว่า เราได้ใส่ไว้ใน mothballs แต่ก็เศร้าที่เราไม่บินไปอีกเนื่องจากรู้สึกบิตเหมือนยุคมืดทุกครั้งที่เราเข้าไปยังเครื่องบินอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราได้ถูกสัญญาเที่ยวบินความเร็วเหนือเสียง วันนี้เราอยู่ต่ำกว่าความเร็วของเสียง เราได้ถูกสัญญาเที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกจากนิวยอร์กไปยังกรุงลอนดอนใน 3 ชั่วโมงครึ่ง วันนี้เที่ยวบินที่ใช้เวลา 7 ชั่วโมงเรา เราได้ถูกสัญญาในอนาคตของการบิน ในอนาคตที่ยังไม่ได้มีชีวิตอยู่เป็นเวลา 10 ปี เที่ยวบินสุดท้ายของ Concorde เป็นที่ 24 ตุลาคมปี 2003 เราได้รับการบินบนเครื่องบินช้าไกลตั้งแต่. มันไม่ได้เป็นง่ายๆเช่นนี้เห็นได้ชัด แต่ลักษณะและการหายตัวไปของ Concorde อาจจะคิดว่าเป็นดังต่อไปนี้: จินตนาการ เริ่มต้นที่วันนี้คุณไม่สามารถใช้โทรศัพท์ของคุณอีกต่อไป แต่คุณก็ต้องกลับไปยังโทรศัพท์ของคุณพลิก เที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกที่คุณจะใช้ในวันนี้ พวกเขากำลัง RAZRs. คองคอร์ดถูกสร้างขึ้นโดยสหราชอาณาจักรอังกฤษอากาศยานคอร์ปอเรชั่นและฝรั่งเศสAérospatialeในต้นปี 1960 เที่ยวบินเชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรกก็ไม่มีอะไรจนกระทั่งปี 1976 แต่ก็ยังคงอยู่ในการให้บริการสำหรับ 27 ปีแอร์ฟรานซ์และบริติชแอร์เวย์เพียงสองสายการบินที่เคยบิน Concordes ในความเป็นจริงในประวัติศาสตร์ทั้งหมดเพียง 20 Concordes เคยถูกสร้างขึ้น. เพราะ Concorde เป็นเพียงผลกำไรสำหรับเที่ยวบินทางไกลอย่างรวดเร็วมักจะบินระหว่างปารีสหรือลอนดอนและนิวยอร์ก แต่ผู้ที่ใส่ใจเกี่ยวกับผลกำไรก็เทคโนโลยีของเจ็ทที่ทำให้มันพิเศษ คองคอร์ดใช้ afterburners ที่จะได้รับความเร็วเหนือเสียงถึง 1,350mph (เครื่องบินเชิงพาณิชย์วันนี้ล่องเรือภายใต้ 600mph) การบริโภคก็สามารถที่จะตี Mach 2.0 เครื่องบิน (เครื่องยนต์เจ็ทเท่านั้นที่สามารถใช้เวลาในการ Mach 0.5 อากาศ) มันมีจมูกที่จะหลบตา เปลี่ยนมุมของมันขึ้นอยู่กับการบินขึ้นหรือลงจอดและการออกแบบเดลต้าปีก ogival ได้สวยงามเพียง. มันไม่ได้แน่นอนไม่มีปัญหาของตน ถ้ามันเป็นปัญหาฟรีเรายังคงต้องการจะบินวันนี้ คองคอร์ดคือการบำรุงรักษาสูงฉาวโฉ่ในช่วงเวลาที่มันเป็นฝันร้ายวิศวกรรมมันดูดลงน้ำมันเชื้อเพลิงเหมือนบินฮัมเมอร์ที่มีการรั่วไหลของก๊าซจะนักบินที่ซับซ้อนด้วยลูกบิดและหมุนทุกชนิดนอกของเครื่องบินจะได้รับความร้อนเพราะ ของแรงเสียดทานอากาศมีความกังวลรังสีเพราะมันบินสูงมากและที่เลวร้ายที่สุดของทุกเจ็ท Concorde รับความเดือดร้อนความผิดพลาดที่น่ากลัว 25 กรกฏาคม 2000 ที่ 113 คนเสียชีวิต 109 เป็นภายในเครื่องบิน. ความผิดพลาดที่เพียงอุบัติเหตุร้ายแรง ของ Concorde ในประวัติศาสตร์เป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบสำหรับ Concorde และยังคงคราบหน่วยความจำของหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ทางเทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นโชคร้ายเพราะก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุคองคอร์ดถือเป็นหนึ่งในเครื่องบินที่ปลอดภัยที่สุดในโลก แต่หลังจากวันนั้นเป็นเวรเป็นกรรม, Concordes ทุกคนมีเหตุผลที่รอการสอบสวนของแอร์ฟรานซ์เที่ยวบินที่ 4590 และคองคอร์ดจะไม่กู้คืน. คองคอร์ดมีปัญหาถูกต้องตามกฎหมายพอที่จะทำให้รู้สึกว่าเราได้ใส่ไว้ในลูกเหม็น แต่มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่เราไม่ได้บินพวกเขาอีกต่อไปเพราะมันรู้สึกบิตเช่นทุกเพศทุกวัยที่มืดเวลาที่เราก้าวไปบนเครื่องบินอื่น ๆ ทุกคน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราสัญญากับเที่ยวบินเหนือเสียง วันนี้เราอยู่ด้านล่างความเร็วของเสียง เราสัญญากับข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกเที่ยวบินจากนิวยอร์กไปลอนดอนใน 3 ชั่วโมงครึ่ง วันนี้เที่ยวบินนั้นต้องใช้เวลา 7 ชั่วโมง เราสัญญากับอนาคตของการบิน ที่ยังไม่เกิดขึ้นในอนาคตอีก 10 ปี เที่ยวบินสุดท้ายของคองคอร์ดบน 24 ตุลาคม 2003 เราได้บินบนเครื่องบินลากช้า

ตั้งแต่ .มันไม่ได้ง่าย เหมือนนี้ เห็นได้ชัด แต่ลักษณะที่ปรากฏและหายไปของ Concorde สามารถคิดดังนี้ สมมติว่า วันนี้ คุณไม่สามารถใช้โทรศัพท์อีกต่อไป แทน คุณก็ต้องกลับไปที่โทรศัพท์ของคุณพลิก เที่ยวบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกที่ใช้วันนี้ พวกเขา razrs .

ที่ถูกสร้างขึ้นโดย บริษัท คอนคอร์ด สหราชอาณาจักรอังกฤษ และฝรั่งเศส เป็น rospatiale อากาศยาน โดยในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 . เที่ยวบินพาณิชย์ครั้งแรกไม่ได้จนกว่าปี 1976 แต่มันอยู่ในบริการสำหรับ 27 ปี ฝรั่งเศส อากาศ และ บริติช แอร์เวย์ , เพียงสองสายการบินที่เคยบิน concordes . ในความเป็นจริงในประวัติศาสตร์ทั้งหมดของ เพียง 20 concordes

เคยสร้างเนื่องจาก Concorde คือกำไรเท่านั้นสำหรับเที่ยวบินระยะทางไกล เรือโดยทั่วไปเพียง แต่บินระหว่างปารีสหรือลอนดอน และนิวยอร์ก แต่ใครจะสนเรื่องกำไร มันเป็นเทคโนโลยีของเครื่องบินที่ทำให้มันพิเศษ ในคองคอร์ดที่ใช้อาฟเตอร์เบอร์เนอร์จะได้รับความเร็วเหนือ ถึง 1350mph ( เครื่องบินวันนี้ล่องเรือภายใต้ 600mph พาณิชย์ ) การบริโภคก็สามารถกดปุ่มเครื่องจักร 2 .0 ความเร็วของเครื่องบิน ( Jet เครื่องยนต์สามารถใช้ในอากาศ Mach 0.5 ) ก็มีห้อย จมูกจะเปลี่ยนมุมของมันขึ้นอยู่กับบินขึ้นหรือลงจอด และ ogival Delta Wing การออกแบบก็สวยงาม

ไม่ใช่แน่นอน โดยไม่มีประเด็นของ ถ้ามันเป็นปัญหาฟรีเรายังต้องบินวันนี้ ที่ Concorde คือการบำรุงรักษาสูงฉาวโฉ่ ในบางครั้งมันเป็นวิศวกรรม ฝันร้ายมันดูดลงเหมือนบินด้วยเชื้อเพลิงรถแก๊สรั่วจะของห้องนักบิน ยุ่งยากกับลูกบิดและหน้าปัด ทุกชนิด ด้านนอกของเครื่องบินจะร้อนเพราะแรงเสียดทานอากาศ มีความกังวลรังสีเพราะมันบินสูงมาก และที่เลวร้ายที่สุดของทั้งหมด คองคอร์ดเจ็ทได้รับความล้มเหลวที่น่ากลัวเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2000 ที่ 113 คนเสียชีวิต , มี

ภายในอากาศยานความผิดพลาดเพียงอุบัติเหตุร้ายแรงในประวัติศาสตร์ดู ก็เป็นจุดเริ่มต้นของจุดสิ้นสุดสำหรับ Concorde และยังทำให้หน่วยความจำของโลก marvels เทคโนโลยีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นโชคร้าย เพราะก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ , คองคอร์ดเป็นหนึ่งในเครื่องบินที่ปลอดภัยที่สุดในโลก แต่หลังจากนั้นมันวันทั้งหมด concordes ถูกกักบริเวณอยู่ระหว่างการสืบสวนของแอร์ฟรานซ์เที่ยวบินที่ 4590 และคองคอร์ดไม่เคยหาย

Concorde มีปัญหาถูกต้องตามกฎหมาย พอว่ามันสมเหตุสมผล ที่เราวางไว้ในลูกเหม็น . แต่มันน่าเศร้าที่เราไม่บินมันอีกแล้ว เพราะมันรู้สึกเหมือนยุคมืดทุกครั้งที่เราก้าวลงบนใด ๆอื่น ๆเครื่องบิน