OverviewThe link between the use of

Overview
The link between the use of personal devices and increases in productivity gets stronger each passing year as more organizations adopt BYOD policies. The integration of personal smartphones, tablets, and PCs into the workflow supports an on-the-go mentality, changing the nature of work and learning activities so that they can happen anywhere, at anytime. Employers and schools are finding that when given the opportunity to choose their device, users are saved from the effort and time needed to get accustomed to new devices and can therefore accomplish tasks with ease and efficiency. A recent study by Gartner predicted that by 2018, twice as many employee-owned devices will be used for work purposes than enterprise-owned devices. The success of BYOD aligns with global trends toward mobility as more people, from children to adults, own mobile devices and are accessing the Internet in increasingly different environments for learning. Gartner projected that the worldwide total of PC, tablet, ultramobile, and mobile phone sales would reach 2.4 billion units in 2014 and that by 2018 over fifty percent of users will access the Internet via tablet or smartphone. Internationally, the United States was the largest mobile learning buying country in 2014, but by 2019 China is projected to overtake the United States due to a number of factors including adoption of tablets and digital content in Pre-K through 12 schools. A number of reports are showing that BYOD is gaining acceptance in schools all over the world. Research from the nonprofit Mobile Future in the US highlighted that 43% of Pre-K through 12th-grade students use a smartphone and 73% of middle and high school teachers use cellphones for classroom activities. In Canada, “Digital Learning in Ontario Schools” noted that 58% of schools reported that students were using their own devices. The report “ICT Trends in Australia” revealed that in 2014 there was a 77% rise in the adoption of 1:1 compared to 2013, and that an increasing number of schools are structuring their programs around student/parent-owned devices. In Europe, a 2014 survey of over 500 teachers, department heads, and school heads across the United Kingdom found that two-thirds of respondents claimed that BYOD has had an impact on their organization.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาพรวมเชื่อมโยงระหว่างการใช้งานของอุปกรณ์ส่วนบุคคลและเพิ่มประสิทธิภาพได้รับแข็งแกร่งในแต่ละปีโตหลายองค์กรนำนโยบาย BYOD รวมส่วนบุคคลมาร์ทโฟน เม็ด และชิ้นลงในลำดับงานสนับสนุนมีบนไปความคิด การเปลี่ยนแปลงลักษณะของงาน และกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้พวกเขาสามารถเกิดขึ้นที่ใด ตลอด นายจ้างและโรงเรียนจะหาว่า เมื่อได้รับโอกาสในการเลือกอุปกรณ์ของพวกเขา ผู้บันทึกจากความพยายามและเวลาที่ต้องการได้คุ้นเคยกับอุปกรณ์ใหม่ และดังนั้นการดำเนินงาน มีความสะดวกและมีประสิทธิภาพ การศึกษาล่าสุด โดย Gartner ทำนายว่า โดย 2018 สองเป็นจำนวนมากพนักงานเป็นเจ้าของอุปกรณ์ที่จะใช้สำหรับทำงานมากกว่าอุปกรณ์ที่เป็นเจ้าขององค์กร ความสำเร็จของ BYOD จัดกับแนวโน้มโลกเคลื่อนคนเพิ่มขึ้น จากเด็กกับผู้ใหญ่ อุปกรณ์มือถือของตัวเอง และเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ มากขึ้นเพื่อเรียนรู้ Gartner คาดการณ์ว่า พีซี แท็บ เล็ต ultramobile และขายโทรศัพท์มือถือรวมทั่วโลกจะถึง 2.4 พันล้านหน่วยในปี 2014 และ โดยมากกว่า 2018 ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้จะเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต นานาชาติ สหรัฐอเมริกาถูกเรียนรู้เคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดที่ซื้อคันในปี 2014 แต่ โดย 2019 คาดว่าจีนจะแซงสหรัฐอเมริกาเนื่องจากปัจจัยที่รวมของเม็ดและเนื้อหาดิจิตอลใน Pre-K ผ่านโรงเรียน 12 มีการแสดงรายงานจำนวนหนึ่ง BYOD จะดึงดูดให้มีการยอมรับในโรงเรียนทั่วโลก วิจัยจากอนาคตมือถือต่าง ๆ ในสหรัฐอเมริกาเน้นว่า 43% ของ K ก่อนผ่านนักเรียนเกรด 12 ที่ใช้สมาร์ทโฟน และ 73% ของครูกลางและโรงเรียนสูงใช้ cellphones ในกิจกรรมของห้องเรียน แคนาดา "ดิจิตอลเรียนในออนตาริโอโรงเรียน" ไว้ว่า 58% ของโรงเรียนรายงานว่า นักเรียนได้ใช้อุปกรณ์ของตนเอง รายงาน "ICT แนวโน้มในออสเตรเลีย" เปิดเผยว่า ในปี 2557 มีขึ้น 77% ของ 1:1 เทียบกับ 2013 และว่า การเพิ่มจำนวนโรงเรียนจัดโครงสร้างโปรแกรมของสถานศึกษา/หลักเป็นเจ้าของอุปกรณ์ ในยุโรป การสำรวจ 2014 ครู 500 หัวหน้าแผนก และโรงเรียนหัวทั่วสหราชอาณาจักรพบว่า สองในสามของผู้ตอบอ้างว่า BYOD ได้มีผลกระทบกับองค์กรของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาพรวมการเชื่อมโยงระหว่างการใช้งานของอุปกรณ์ส่วนบุคคลและการเพิ่มขึ้นในการผลิตที่แข็งแกร่งได้รับแต่ละปีที่ผ่านกับองค์กรอื่น ๆ ใช้นโยบาย BYOD
การรวมกลุ่มของมาร์ทโฟนส่วนบุคคลแท็บเล็ตและพีซีลงในเวิร์กโฟลว์สนับสนุน on-the-go คิดเปลี่ยนลักษณะของการทำงานและการเรียนรู้กิจกรรมเพื่อให้พวกเขาสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา นายจ้างและโรงเรียนจะพบว่าเมื่อได้รับโอกาสที่จะเลือกอุปกรณ์ของผู้ใช้จะถูกบันทึกไว้จากความพยายามและเวลาที่จำเป็นในการได้รับคุ้นเคยกับอุปกรณ์ใหม่และดังนั้นจึงสามารถบรรลุผลงานได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ ผลการศึกษาล่าสุดโดย Gartner คาดการณ์ว่าภายในปี 2018 อุปกรณ์พนักงานที่เป็นเจ้าของสองเท่าจะถูกนำมาใช้เพื่อการทำงานกว่าอุปกรณ์ขององค์กรที่เป็นเจ้าของ ความสำเร็จของ BYOD สอดคล้องกับแนวโน้มทั่วโลกที่มีต่อการเคลื่อนไหวเป็นคนมากขึ้นจากเด็กถึงผู้ใหญ่เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือและมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันมากขึ้นสำหรับการเรียนรู้ Gartner คาดการณ์ว่าทั่วโลกรวมของเครื่องคอมพิวเตอร์แท็บเล็ต ultramobile และการขายโทรศัพท์มือถือจะถึง 2400000000 หน่วยในปี 2014 และ 2018 โดยกว่าร้อยละห้าสิบของผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านทางแท็บเล็ตหรือมาร์ทโฟน นานาชาติที่สหรัฐอเมริกาเป็นเรียนรู้มือถือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศซื้อในปี 2014 แต่ 2019 ประเทศจีนคาดว่าจะแซงสหรัฐอเมริกาเนื่องจากจำนวนของปัจจัยรวมทั้งการยอมรับของแท็บเล็ตและเนื้อหาดิจิตอลใน Pre-K ผ่าน 12 โรงเรียน จำนวนของรายงานจะแสดงให้เห็นว่า BYOD เป็นที่ได้รับการยอมรับในโรงเรียนทั่วทุกมุมโลก การวิจัยจากอนาคตมือถือที่ไม่แสวงหากำไรในสหรัฐอเมริกาเน้นว่า 43% ของ pre-k ผ่าน 12 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีใช้มาร์ทโฟนและ 73% ของกลางและครูโรงเรียนมัธยมใช้โทรศัพท์มือถือสำหรับกิจกรรมในชั้นเรียน ในแคนาดา "การเรียนรู้ดิจิตอลใน Ontario โรงเรียน" ตั้งข้อสังเกตว่า 58% ของโรงเรียนรายงานว่านักเรียนได้ใช้อุปกรณ์ของตัวเอง รายงาน "แนวโน้มด้านไอซีทีในประเทศออสเตรเลีย" เปิดเผยว่าในปี 2014 มีการปรับตัวสูงขึ้น 77% ในการยอมรับของ 1: 1 เมื่อเทียบกับปี 2013 และการเพิ่มจำนวนของโรงเรียนที่มีการจัดโครงสร้างโปรแกรมของพวกเขาไปรอบ ๆ นักเรียน / อุปกรณ์ผู้ปกครองที่เป็นเจ้าของ ในยุโรปการสำรวจ 2,014 กว่า 500 ครูหัวหน้าแผนกและหัวโรงเรียนทั่วสหราชอาณาจักรพบว่าสองในสามของผู้ตอบแบบสอบถามอ้างว่า BYOD ได้มีผลกระทบต่อองค์กรของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาพรวม
การเชื่อมโยงระหว่างการใช้อุปกรณ์ส่วนบุคคลและเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้นในแต่ละปีผ่านเป็นองค์กรมากขึ้นรับนโยบาย BYOD . บูรณาการของมาร์ทโฟน , แท็บเล็ตพีซีส่วนบุคคล และลงในเวิร์กโฟลว์สนับสนุนไป จิต เปลี่ยนธรรมชาติของงาน และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อให้พวกเขาสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา .นายจ้าง และโรงเรียนจะพบว่าเมื่อได้รับโอกาสที่จะเลือกอุปกรณ์ของพวกเขา ผู้ใช้จะถูกบันทึกไว้จากความพยายามและเวลาที่จำเป็นที่จะได้รับคุ้นเคยกับอุปกรณ์ใหม่และดังนั้นจึงสามารถทำงานได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพ การศึกษาล่าสุดโดย Gartner คาดการณ์ว่าโดย 2018 , สองครั้งที่พนักงานหลายคนที่เป็นเจ้าของอุปกรณ์จะถูกใช้เพื่อวัตถุประสงค์การทํางานมากกว่าองค์กรที่เป็นเจ้าของอุปกรณ์ความสำเร็จของ BYOD สอดคล้องกับกระแสของโลกที่มีต่อความคล่องตัวเป็นคนมากขึ้น จากเด็กกับผู้ใหญ่ , โทรศัพท์มือถือและการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันมากขึ้นสำหรับการเรียนรู้ Gartner คาดการณ์ว่าทั่วโลกรวมของพีซี แท็บเล็ต ultramobile และการขายโทรศัพท์มือถือจะถึง 24 ล้านหน่วยในปี 2014 และที่โดย 2018 มากกว่าห้าสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้จะสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านแท็บเล็ตหรือมาร์ทโฟน ต่างประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นมือถือที่ใหญ่ที่สุดเรียนรู้ประเทศที่ซื้อในปี 2014 แต่โดย 2019 จีนคาดว่าจะแซงสหรัฐอเมริกา เนื่องจากจำนวนของปัจจัย ได้แก่ การใช้ยาเม็ดและเนื้อหาดิจิตอลใน Pre-K ถึง 12 โรงเรียนหมายเลขของรายงานจะแสดงให้เห็นว่า BYOD ที่ดึงดูดการยอมรับในโรงเรียนทั่วโลก การวิจัยอนาคตเคลื่อนที่แสวงในสหรัฐฯ เน้นว่า 80% ของ Pre - K ผ่านชั้นประถมศึกษาปีที่ 12 ใช้มาร์ทโฟนและร้อยละ 73 ของครูโรงเรียนมัธยมกลางและใช้โทรศัพท์มือถือสำหรับกิจกรรมในห้องเรียน ในแคนาดา" การเรียนรู้ดิจิทัลใน Ontario โรงเรียน " ระบุว่า ร้อยละ 58 ของโรงเรียนรายงานว่านักเรียนที่ใช้อุปกรณ์ของพวกเขาเอง รายงาน " แนวโน้มไอซีทีในออสเตรเลีย " เปิดเผยว่า ในปี 2014 มีเพิ่มขึ้น 77 % ในการยอมรับของ 1 : 1 เมื่อเทียบกับ ปี 2013 และการเพิ่มจำนวนของโรงเรียนจะจัดโปรแกรมของพวกเขาไปรอบ ๆ นักเรียน / ผู้ปกครองที่เป็นเจ้าของอุปกรณ์ ในยุโรป , 2014 การสำรวจ 500 กว่าครูหัวหน้าภาควิชา และหัวหน้าสถานศึกษาทั่วสหราชอาณาจักร พบว่าสองในสามของผู้ตอบแบบสอบถามอ้างว่า BYOD ได้มีผลกระทบต่อองค์กรของพวกเขา .