Anti-corrosion performance studies

Anti-corrosion performance studies of organic coatings have been normally carried out by accelerated
weathering (saltspray, humidity cabinet, Kesternich,
etc.) or outdoor exposure of coated panels. Both
methods do not provide information about the
failure mechanism of the coatings and the former
methods can give unpredictable results which cannot
very well be compared with the actual outdoor performance of the coatings. Electrochemical Impedance Spectroscopy (EIS) has been used for some
years now in the study of the performance of organic
coatings. It was observed that the technique has
promising possibilities in this field, however the
interpretation was mostly carried out in terms of
changes in the curves in the Nyquist plot of the
impedance (eg[l, 21) and the accuracy of the measurements was not very high. Nowadays it is possible to perform a computer aided analysis and
modelling of the impedance measurement results[3,
43. Also modem electronics increased the accuracy
of the equipment a great deal.
In literature the impedance of barrier coatings was
often evaluated by the visual or graphical evaluation
of the Nyquist plot[l], or by judging the dcresistance of the coating[5]. It was commonly considered that when the Nyquist or Bode plots of the

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ป้องกันการกัดกร่อนประสิทธิภาพการศึกษาของเคลือบสารอินทรีย์การโดยปกติดำเนินโดยเร่งสภาพอากาศ (saltspray ความชื้น ตู้ Kesternichฯลฯ) หรือภายนอกเคลือบแผง ทั้งสองวิธีให้ข้อมูลเกี่ยวกับการความล้มเหลวของกลไกของการเคลือบและอดีตวิธีสามารถให้ผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิดซึ่งไม่สามารถดี จะเปรียบเทียบกับประสิทธิภาพที่แท้จริงกลางแจ้งของเคลือบ มีการใช้สเปกโทรสโกความต้านทานไฟฟ้า (EIS) สำหรับบางคนปีนี้ในการศึกษาประสิทธิภาพของอินทรีย์เคลือบ พบว่า มีเทคนิคแนวโน้มความเป็นไปได้ในฟิลด์นี้ อย่างไรก็ตามการการตีความส่วนใหญ่ได้ดำเนินการในแง่ของการเปลี่ยนแปลงในเส้นโค้งในแผนนี้ยังของอิมพีแดนซ์ (เช่น [l, 21) และความถูกต้องของการวัดไม่ได้สูงมาก ในปัจจุบันจำเป็นต้องทำการวิเคราะห์คอมพิวเตอร์ช่วย และสร้างแบบจำลองของผลการวัดอิมพีแดนซ์ [343. โมเด็มอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นความแม่นยำอุปกรณ์ดีในวรรณกรรม เป็นความต้านทานอุปสรรคเคลือบมักจะประเมิน โดยการประเมินภาพ หรือกราฟิกพล็อตยัง [l], หรือ โดยการตัดสิน dcresistance ของการเคลือบ [5] โดยทั่วไปเป็นที่เมื่อยังหรือ Bode แปลงของการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาประสิทธิภาพการป้องกันการกัดกร่อนของสารเคลือบอินทรีย์ได้รับการดำเนินการตามปกติโดยเร่ง
สภาพดินฟ้าอากาศ (saltspray ตู้ความชื้น Kesternich,
ฯลฯ ) หรือการสัมผัสน้ำกลางแจ้งของแผงเคลือบ ทั้งสอง
วิธีการไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ
กลไกความล้มเหลวของการเคลือบและอดีต
วิธีการสามารถให้ผลลัพธ์ที่คาดเดาไม่ได้ซึ่งไม่สามารถ
เป็นอย่างดีนำมาเปรียบเทียบกับผลการดำเนินงานกลางแจ้งที่แท้จริงของการเคลือบ Electrochemical ต้านทานสเปก (EIS) ได้ถูกนำมาใช้สำหรับบาง
ปีในขณะนี้ในการศึกษาประสิทธิภาพการทำงานของอินทรีย์
สารเคลือบ มันถูกตั้งข้อสังเกตว่าเทคนิคที่มี
ความเป็นไปได้ที่มีแนวโน้มในด้านนี้ แต่
ตีความได้ดำเนินการส่วนใหญ่ออกในแง่ของ
การเปลี่ยนแปลงในเส้นโค้งในพล็อต Nyquist ของ
ความต้านทาน (เช่น [L, 21) และความถูกต้องของการวัดที่ไม่ได้มาก สูง. ทุกวันนี้มันเป็นไปได้ที่จะดำเนินการวิเคราะห์และคอมพิวเตอร์ช่วย
การสร้างแบบจำลองของผลการวัดความต้านทาน [3,
43 นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โมเด็มเพิ่มขึ้นความถูกต้อง
ของอุปกรณ์การจัดการที่ดี.
ในวรรณคดีสมรรถภาพของการเคลือบอุปสรรคก็
มักจะได้รับการประเมินโดยการประเมินผลภาพหรือกราฟิก
ของ Nyquist พล็อต [L] หรือโดยการตัดสิน dcresistance ของสารเคลือบผิว [5] มันได้รับการพิจารณาโดยทั่วไปว่าเมื่อ Nyquist หรือเป็นลางบอกเหตุของการแปลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาประสิทธิภาพของการป้องกันการกัดกร่อนเคลือบอินทรีย์ที่ได้รับตามปกติที่ดำเนินการโดยเร่งสภาพดินฟ้าอากาศ ( saltspray ความชื้น kesternich , คณะรัฐมนตรี ,ฯลฯ ) หรือกลางแจ้งแสงของแผ่นเคลือบ ทั้งวิธีการที่ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความล้มเหลวของกลไกของเคลือบและอดีตวิธีสามารถให้ทายผล ซึ่งไม่สามารถดีมากเมื่อเทียบกับการแสดงกลางแจ้งจริงของเคลือบ ไฟฟ้าเคมีอิมพีแดนซ์สเปกโทรสโกปี ( EIS ) ได้ถูกใช้สำหรับปี ในการศึกษาสมรรถนะของอินทรีย์ไม้แปรรูป พบว่า เทคนิคมีแนวโน้มความเป็นไปได้ในด้านนี้ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่คือการตีความในแง่ของการเปลี่ยนแปลงในโค้งในพล็อตของไนควิสต์ความต้านทาน ( เช่น [ L , 21 ) และความถูกต้องของการวัด ไม่สูงมาก ทุกวันนี้มันเป็นไปได้ที่จะดําเนินการใช้คอมพิวเตอร์ช่วยวิเคราะห์ และการสร้างหุ่นจำลองของค่าการวัดผล [ 343 . นอกจากนี้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โมเด็มเพิ่มความถูกต้องของอุปกรณ์มากในวรรณคดีอิมพีแดนซ์ของอุปสรรคคือเคลือบมักจะประเมิน โดยการประเมินภาพหรือกราฟิกของไนควิสต์แปลง [ L ] หรือโดยการตัดสิน dcresistance ของผิวเคลือบ [ 5 ] มันเป็นโดยทั่วไปถือว่า เมื่อไนควิสต์หรือลางแปลงของ