As buyer-supplier relationships evo

As buyer-supplier relationships evolve from the initiation stage into the
establishment stage, mutual experience, learning and development of relational
norms open the gate for a stronger supplier involvement in the relationship. The
establishment of relational norms and trust should be effective for the purpose of
mitigating trading hazards, and provide a supportive safeguard on its own.


TCA has for a long time been extended by arguments from relational contracting
theory (e.g. Heide and John, 1992). Relational contracting theory (RCT) states that the
history of the relationship creates certain relational features (including commitment
and reputation) and development of trust and norms, which will influence on how
business transactions in ongoing buyer-seller relationships will be organized. Based on
RCT arguments, it has been suggested that as relationships develop over time, the need
for a hierarchical governance structure should be reduced due to the emergence of
relational norms and trust (Bradach and Eccles, 1989; Granovetter, 1985).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นผู้จำหน่ายผู้ซื้อ ความสัมพันธ์พัฒนาจากขั้นเริ่มต้นในการจัดตั้ง ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน การเรียนรู้ และการพัฒนาเชิงบรรทัดฐานเปิดประตูสำหรับการมีส่วนร่วมผู้จัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งในความสัมพันธ์ ที่ตั้งเชิงบรรทัดฐานและความน่าเชื่อถือควรมีประสิทธิภาพเพื่อบรรเทาการค้าอันตราย และให้ป้องกันสนับสนุนนั้นTCA ได้เป็นเวลานานการขยาย โดยอาร์กิวเมนต์จากสัญญาเชิงทฤษฎี (เช่น Heide และจอห์น 1992) เชิงทฤษฎีสัญญา (RCT) ระบุว่า การคุณลักษณะบางอย่างสัมพันธ์กัน (รวมถึงความมุ่งมั่นสร้างประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์และชื่อเสียง) และความน่าเชื่อถือและบรรทัดฐาน ซึ่งจะมีผลต่อการพัฒนาจะจัดการธุรกรรมทางธุรกิจในความสัมพันธ์ของผู้ซื้อผู้ขายอย่างต่อเนื่อง ขึ้นอยู่กับRCT อาร์กิวเมนต์ มันได้ถูกแนะนำที่เป็นความสัมพันธ์ที่พัฒนาช่วงเวลา ต้องการกำกับดูแลตามลำดับชั้น โครงสร้างควรจะลดลงเนื่องจากเกิดเชิงบรรทัดฐานและความน่าเชื่อถือ (Bradach และ Eccles, 1989 Granovetter, 1985)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสัมพันธ์ในฐานะที่เป็นผู้ซื้อผู้จัดจำหน่ายที่วิวัฒนาการมาจากขั้นตอนการเริ่มต้นเข้าสู่ขั้นตอนการจัดตั้งประสบการณ์การเรียนรู้ร่วมกันและการพัฒนาของความสัมพันธ์บรรทัดฐานเปิดประตูสำหรับการมีส่วนร่วมจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งในความสัมพันธ์ จัดตั้งบรรทัดฐานสัมพันธ์และความไว้วางใจที่มีประสิทธิภาพควรจะเพื่อวัตถุประสงค์ในการบรรเทาอันตรายจากการค้าและการให้การสนับสนุนการป้องกันตัวของมันเองTCA ได้เป็นเวลานานโดยการขยายการขัดแย้งจากการทำสัญญาสัมพันธ์ทฤษฎี( ทฤษฎีการทำสัญญาสัมพันธ์ กล่าวว่าประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์เชิงสัมพันธ์สร้างคุณลักษณะบางอย่าง( และการพัฒนาของความไว้วางใจและบรรทัดฐานซึ่งจะมีผลต่อเกี่ยวกับวิธีการทำธุรกรรมทางธุรกิจในความสัมพันธ์ของผู้ซื้อผู้ขายอย่างต่อเนื่องจะได้รับการจัด As buyer-supplier relationships evolve from the initiation stage into the
establishment stage, mutual experience, learning and development of relational
norms open the gate for a stronger supplier involvement in the relationship. The
establishment of relational norms and trust should be effective for the purpose of
mitigating trading hazards, and provide a supportive safeguard on its own.


TCA has for a long time been extended by arguments from relational contracting
theory (e.g. Heide and John, 1992). Relational contracting theory (RCT) states that the
history of the relationship creates certain relational features (including commitment
and reputation) and development of trust and norms, which will influence on how
business transactions in ongoing buyer-seller relationships will be organized. Based on
RCT arguments, it has been suggested that as relationships develop over time, the need
for a hierarchical governance structure should be reduced due to the emergence of
relational norms and trust (Bradach and Eccles, 1989; Granovetter, 1985).

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสัมพันธ์ผู้ซื้อเป็นผู้ผลิตพัฒนาริเริ่มในการจัดตั้งเวที
ประสบการณ์ซึ่งกันและกัน มีการเรียนรู้และการพัฒนาเกณฑ์สัมพันธ์
เปิดประตูสำหรับแข็งแกร่งผู้มีส่วนร่วมในความสัมพันธ์
ตั้งบรรทัดฐานความสัมพันธ์และความไว้วางใจของควรจะมีประสิทธิภาพเพื่อ
อันตรายการซื้อขายบรรเทา และให้การปกป้องเกื้อกูลเอง

.TCA ได้นานถูกขยายโดยอาร์กิวเมนต์จากทฤษฎีความสัมพันธ์สัญญา
( เช่น ไฮด์และจอห์น , 1992 ) ทฤษฎีสัญญาเชิงสัมพันธ์ ( Razorflame ) ระบุว่า
ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์สร้างคุณสมบัติเชิงสัมพันธ์บางอย่าง ( รวมถึงความมุ่งมั่น
และชื่อเสียง ) และการพัฒนาความไว้วางใจและบรรทัดฐานของ ซึ่งจะมีผลต่อวิธีการ
ธุรกรรมทางธุรกิจในความสัมพันธ์ของผู้ขายผู้ซื้ออย่างต่อเนื่องจะได้รับการจัด โดย
Razorflame อาร์กิวเมนต์จะได้รับการชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์พัฒนาตลอดเวลา ต้องการ
สำหรับโครงสร้างการปกครองแบบลำดับชั้นควรจะลดลง เนื่องจากการเกิดบรรทัดฐานความสัมพันธ์และความไว้วางใจ
( และ bradach Eccles , 1989 ; granovetter , 1985 )