Despite U.S. declarations of neutra

Despite U.S. declarations of neutrality and German accountability for its unrestricted submarine warfare, in 1915 the British passenger liner Lusitania was sunk, leading to calls for war.[95] President Wilson forced the Germans to suspend unrestricted submarine warfare and after long debate Congress passes the Naval Act of 1916 that authorized a $500 million construction program over three years for 10 battleships, 6 battlecruisers, 10 scout cruisers, 50 destroyers and 67 submarines.[96] The idea was a balanced fleet, but in the event destroyers were much more important, because they had to handle uboats and convoys. By the end of the war 273 destroyers had been ordered; most were finished after World War I ended but many served in World War II.[97] There were few war plans beyond the defense of the main American harbors.[98]

Navy Secretary Josephus Daniels, a pacifistic journalist, had built up the educational resources of the Navy and made its Naval War College an essential experience for would-be admirals. However, he alienated the officer corps with his moralistic reforms, (no wine in the officers' mess, no hazing at Annapolis, more chaplains and YMCAs). Ignoring the nation's strategic needs, and disdaining the advice of its experts, Daniels suspended meetings of the Joint Army and Navy Board for two years because it was giving unwelcome advice. He chopped in half the General Board's recommendations for new ships, reduced the authority of officers in the Navy yards where ships were built and repaired, and ignored the administrative chaos in his department. Bradley Fiske, one of the most innovative admirals in American naval history, in 1914 was Daniels' top aide; he recommended a reorganization that would prepare for war, but Daniels refused. Instead he replaced Fiske in 1915 and brought in for the new post of Chief of Naval Operations an unknown captain, William S. Benson. Chosen for his compliance, Benson proved a wily bureaucrat who was more interested in preparing for an eventual showdown with Britain than an immediate one with Germany.

In 1915 Daniels set up the Naval Consulting Board headed by Thomas Edison to obtain the advice and expertise of leading scientists, engineers, and industrialists. It popularized technology, naval expansion, and military preparedness, and was well covered in the media.[99] Daniels and Benson rejected proposals to send observers to Europe, leaving the Navy in the dark about the success of the German submarine campaign.[100] Admiral William Sims charged after the war that in April, 1917, only ten percent of the Navy's warships were fully manned; the rest lacked 43% of their seamen. Only a third of the ships were fully ready. Light antisubmarine ships were few in number, as if no one had noticed the u-boat factor that had been the focus of foreign policy for two years. The Navy's only warfighting plan, the "Black Plan" assumed the Royal Navy did not exist and that German battleships were moving freely about the Atlantic and the Caribbean and threatening the Panama Canal.[101][102] His most recent biographer concludes that, "it is true that Daniels had not prepared the navy for the war it would have to fight."[103]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้จะมีการประกาศสหรัฐอเมริกาของความเป็นกลางและความรับผิดชอบเยอรมันสงครามเรือดำน้ำไม่ จำกัด ในปี 1915 ผู้โดยสารสายการบินบริติช Lusitania จมนำไปสู่การเรียกร้องให้มีสงคราม. [95] ประธานาธิบดีวิลสันบังคับเยอรมันที่จะระงับการ จำกัด ดำน้ำสงครามและหลังการอภิปรายในสภาคองเกรสผ่าน เรือพระราชบัญญัติ 1916 ที่ได้รับอนุญาตการก่อสร้างโครงการ $ 500 ล้านกว่าสามปี 10 เรือรบ, 6 เทิ่ 10 คันลูกเสือ 50 หมื่นและ 67 เรือดำน้ำ. [96] ความคิดที่เป็นเรือเดินสมุทรที่สมดุล แต่ในกรณีที่ความมุ่งมั่นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะพวกเขามีการจัดการ uboats และขบวน ในตอนท้ายของสงคราม 273 หมื่นได้รับการสั่งซื้อ; ส่วนใหญ่เสร็จสิ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่สิ้นสุด แต่หลายหน้าที่ในสงครามโลกครั้งที่สอง. [97] มีแผนสงครามไม่กี่เกินกว่าการป้องกันของท่าเรืออเมริกันหลัก. [98]

เลขานุการกองทัพเรือฟัสแดเนียลส์นักข่าว pacifistic ได้สร้างขึ้นมาศึกษา ทรัพยากรของกองทัพเรือและทำให้มันสงคราม Naval College ประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับผู้ที่จะนายพล แต่เขาแปลกเจ้าหน้าที่ทหารกับการปฏิรูปเชื่อมั่นในศีลธรรมของเขา (ไวน์ในระเบียบของเจ้าหน้าที่กลบที่แอนนาโปลิสไม่มีภาคทัณฑ์มากขึ้นและ YMCAs) ละเว้นประเทศที่ความต้องการเชิงกลยุทธ์และ disdaining คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญของแดเนียลส์ระงับการประชุมของคณะกรรมการร่วมกองทัพและทหารเรือเป็นเวลาสองปีเพราะมันถูกให้คำแนะนำที่ไม่พึงปรารถนา เขาสับในช่วงครึ่งปีคำแนะนำของคณะกรรมการทั่วไปสำหรับเรือใหม่ลดอำนาจของเจ้าหน้าที่ในกองทัพเรือหลาที่เรือถูกสร้างและซ่อมแซมและละเว้นความวุ่นวายในการบริหารแผนกของเขา แบรดลีย์ฟิสกี้ซึ่งเป็นหนึ่งในนายพลนวัตกรรมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ทหารเรืออเมริกันในปี 1914 เป็นแดเนียลส์ผู้ช่วยบน; เขาแนะนำการปรับโครงสร้างองค์กรที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับการทำสงคราม แต่แดเนียลส์ปฏิเสธ แต่แทนที่เขา Fiske ในปี 1915 และนำมาในการโพสต์ใหม่ของผู้บัญชาการทหารเรือกัปตันที่ไม่รู้จัก, วิลเลียมเอเบนสัน ทางเลือกสำหรับการปฏิบัติของเขาเบนสันได้รับการพิสูจน์ข้าราชการเขี้ยวลากดินที่มีความสนใจมากขึ้นในการเตรียมตัวสำหรับการประลองในที่สุดกับอังกฤษกว่าหนึ่งทันทีกับเยอรมนี.

ใน 1,915 แดเนียลส์ตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการทหารเรือนำโดยโทมัสเอดิสันที่จะได้รับคำแนะนำและความเชี่ยวชาญของชั้นนำ นักวิทยาศาสตร์วิศวกรและนักอุตสาหกรรม มันเป็นที่นิยมเทคโนโลยีการขยายตัวเรือและการเตรียมความพร้อมทางทหารและได้รับการคุ้มครองอย่างดีในสื่อ. [99] แดเนียลเบนสันปฏิเสธข้อเสนอที่จะส่งผู้สังเกตการณ์ไปยังยุโรปออกจากกองทัพเรือในที่มืดเกี่ยวกับความสำเร็จของการรณรงค์เรือดำน้ำเยอรมันได้. [100 ] พลเรือเอกวิลเลียมซิมส์เรียกเก็บเงินหลังจากสงครามว่าในเดือนเมษายน 1917 เพียงร้อยละสิบของเรือรบของกองทัพเรือเป็นประจำอย่างเต็มที่ ส่วนที่เหลือขาด 43% ของลูกเรือของพวกเขา เพียงหนึ่งในสามของเรือมีความพร้อมอย่างเต็มที่ เรือดำน้ำไฟมีจำนวนน้อยเช่นถ้าไม่มีใครได้สังเกตเห็นปัจจัยที่เรือดำน้ำที่ได้รับความสนใจจากนโยบายต่างประเทศเป็นเวลาสองปี ของกองทัพเรือแผน warfighting เท่านั้น "แผนดำ" สันนิษฐานว่ากองทัพเรือไม่ได้อยู่และเรือรบเยอรมันถูกเคลื่อนย้ายได้อย่างอิสระเกี่ยวกับมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลแคริบเบียนและขู่คลองปานามา. [101] [102] ผู้เขียนชีวประวัติล่าสุดของเขาสรุปว่า "มันเป็นความจริงที่แดเนียลไม่ได้เตรียมกองทัพเรือสำหรับการทำสงครามก็จะมีการสู้รบ." [103]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้สหรัฐยืนยันความเป็นกลางและน่าเชื่อถือของเยอรมันสงครามเรือดำน้ำไม่จำกัดใน 2458 โดยเรือโดยสารลูซิทาเนียของอังกฤษก็จมลงสู่เรียกสงคราม [ 95 ] ประธานาธิบดีวิลสันบังคับเยอรมันเพื่อระงับสงครามเรือดำน้ำไม่จำกัดและหลังรัฐสภาผ่านพระราชบัญญัติการอภิปรายยาวกองทัพเรือของ 1916 ที่อนุญาต $ 500 ล้านบาท การก่อสร้างโครงการ 3 ปี 10 battleships เทิ่ลครุยเซอร์ 10 คัน , 6 , ลูกเสือ , 50 คันและ 67 เรือดำน้ำ [ 96 ] ความคิดถูกกองเรือสมดุล แต่ในกรณีที่ความมุ่งมั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะพวกเขาต้องจัดการกับ uboats และขบวน . ในตอนท้ายของสงคราม 273 คันถูกสั่ง ส่วนใหญ่จบหลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลงแต่หลายคนเสิร์ฟในสงครามโลกครั้งที่สอง [ 97 ] มีกี่แผนการทำสงครามนอกเหนือจากการป้องกันของหลักอเมริกันท่าเรือ [ 98 ]กองทัพเรือ เลขานุการ เกียงอุย แดเนียล นักข่าวที่แพ ะฟิสทิค ได้สร้างขึ้นทรัพยากรการศึกษาของ กองทัพเรือ และทำของวิทยาลัยสงครามทหารเรือที่มีประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับการเป็นนายพล . อย่างไรก็ตาม เขาเบื่อหน่ายเจ้าหน้าที่ทหารกับการปฏิรูปผู้มีศีลธรรมของเขา ( ไม่มีไวน์ในทหารร่อยหรอ ไม่แกล้งใน Annapolis , อนุศาสนาจารย์และ YMCAs ) ละเลยความต้องการทางยุทธศาสตร์ของประเทศ และอยากจะหยุด คำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญของ แดเนียล ระงับการประชุมของคณะกรรมการ และกองทัพเรือกองทัพร่วม 2 ปี เพราะมันให้คำแนะนำอย่างนั้น เขาสับครึ่งทั่วไปบอร์ดคำแนะนำสำหรับเรือใหม่ ลดอำนาจของเจ้าหน้าที่ในกองทัพเรือหลาที่เรือที่ถูกสร้างขึ้นและซ่อมแซม และละเว้นความสับสนวุ่นวายธุรการ ในแผนกของเขา แบรดลีย์ ฟิกซ์ หนึ่งในนายพลนวัตกรรมมากที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกันกองทัพเรือ ในปี 1914 เป็นแดเนียล " ยอดเสนาธิการ เขาแนะนำให้ลูกจ้างที่จะเตรียมความพร้อมสำหรับสงคราม แต่แดเนียลก็ปฏิเสธ แทนเขาแทน ฟิส 1915 และนำสำหรับการโพสต์ใหม่ของเสนาธิการทหารเป็นกัปตันที่ไม่รู้จักเรือ วิลเลียม เอส เบนสัน เลือกสำหรับการปฏิบัติของเขา เบนสันพิสูจน์ข้าราชการเขี้ยวลากดิน ใครสนใจเตรียมตัวเผชิญหน้ากับอังกฤษในที่สุดกว่าทันทีกับเยอรมนี1915 เดเนียลตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษากองทัพเรือ นำโดย โทมัส เอดิสัน เพื่อขอรับคำแนะนำและความเชี่ยวชาญชั้นนำของนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร และนักอุตสาหกรรม . มัน popularized เทคโนโลยีการขยายตัวของกองทัพเรือ และการเตรียมความพร้อมของทหาร และก็ครอบคลุมในสื่อ [ 99 ] แดเนียลกับเบนสันปฏิเสธข้อเสนอส่งผู้สังเกตการณ์ไปยังยุโรป ออกจากกองทัพเรือในมืดเกี่ยวกับความสำเร็จของโครงการเรือดำน้ำเยอรมัน [ 100 ] พลเรือเอกวิลเลียมซิม คิดค่าบริการหลังจากสงครามในเดือนเมษายน 1917 เพียงสิบเปอร์เซ็นต์ของกองทัพเรือเรือรบได้ครบคน ส่วนที่เหลือขาด 43 % ของร่างกายของพวกเขา เพียงหนึ่งในสามของเรือก็พร้อม เรือ antisubmarine แสงก็น้อย ถ้าไม่มีใครได้สังเกต มีปัจจัยที่ได้รับการเน้นนโยบายต่างประเทศ 2 ปี ของกองทัพเรือเท่านั้น warfighting แผน " แผน " ดำถือว่ากองทัพเรือไม่ได้มีอยู่และเรือรบเยอรมันถูกย้ายอย่างอิสระเกี่ยวกับมหาสมุทรแอตแลนติกและทะเลแคริบเบียนและคุกคามคลองปานามา [ 101 ] [ 102 ] ชีวประวัติล่าสุดของเขาพบว่า " มันเป็นความจริงที่แดเนียลไม่ได้เตรียมกองทัพเรือสำหรับ สงครามมันก็ต้องต่อสู้ " [ 103 ]