Cooling Curve • This is by far the

Cooling Curve • This is by far the most widely used experimental method. • It relies on the information obtained from the cooling process. • In this method, alloys with different compositions are melted and then the temperature of the mixture is measured at a certain time interval while cooling back to room temperature. • A cooling curve for each mixture is constructed and the initial and final phase change temperatures are determined. Then these temperatures are used for the construction of the phase diagrams

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระบายความร้อน•โค้งนี่คือโดยไกลที่สุดอย่างกว้างขวางใช้วิธีทดลอง •จะอาศัยข้อมูลที่ได้จากกระบวนการทำความเย็น •ในวิธีนี้ โลหะผสมกับองค์ประกอบต่าง ๆ จะละลายแล้ว วัดอุณหภูมิของส่วนผสมที่ช่วงเวลาบางขณะกลับสู่อุณหภูมิห้อง •เส้นโค้งทำความเย็นสำหรับแต่ละส่วนผสมที่มีโครงสร้าง และกำหนดอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงเริ่มต้น และ ขั้นสุดท้าย แล้ว อุณหภูมิเหล่านี้จะใช้สำหรับการก่อสร้างเฟสไดอะแกรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คูลลิ่ง Curve •นี่คือไกลโดยใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดวิธีการทดลอง •มันอาศัยข้อมูลที่ได้รับจากกระบวนการระบายความร้อน •ในวิธีนี้, โลหะผสมที่มีองค์ประกอบที่แตกต่างกันแล้วละลายและอุณหภูมิของส่วนผสมเป็นวัดที่ช่วงเวลาที่แน่นอนในขณะที่การระบายความร้อนกลับไปที่อุณหภูมิห้อง •โค​​้งระบายความร้อนสำหรับแต่ละส่วนผสมจะถูกสร้างและเริ่มต้นและสุดท้ายอุณหภูมิเปลี่ยนเฟสจะถูกกำหนด จากนั้นอุณหภูมิเหล่านี้จะใช้สำหรับการก่อสร้างของแผนภาพเฟส

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โค้ง - เย็นนี้ โดยไกลที่สุดใช้กันอย่างแพร่หลาย ทดลองวิธี - มันต้องอาศัยข้อมูลที่ได้จากกระบวนการหล่อเย็น - วิธีนี้ ผสมกับองค์ประกอบที่แตกต่างกันจะละลาย และอุณหภูมิของส่วนผสมเป็นวัดที่ช่วงเวลาหนึ่งในขณะที่เย็นกลับไปที่อุณหภูมิห้อง - เย็นโค้งส่วนผสมแต่ละถูกสร้างและเริ่มต้นและสุดท้ายอุณหภูมิเปลี่ยนระยะที่กำหนดไว้ แล้วอุณหภูมิเหล่านี้จะใช้สำหรับการก่อสร้างของเฟสไดอะแกรม