SynopsisBorn in Nebraska in 1930, W

Synopsis
Born in Nebraska in 1930, Warren Buffett demonstrated keen business abilities at a young age. He formed Buffett Partnership Ltd. in 1956, and by 1965 he had assumed control of Berkshire Hathaway. Overseeing the growth of a conglomerate with holdings in the media, insurance, energy and food and beverage industries, Buffett became one of the world's richest men and a celebrated philanthropist.
Early Life
Businessman and investor. Born Warren Edward Buffett on August 30, 1930, in Omaha, Nebraska. Buffett's father, Howard, worked as stockbroker and served as a U.S. congressman. His mother, Leila Stahl Buffett, was a homemaker. Buffett was the second of three children and the only boy.
Buffett demonstrated a knack for financial and business matters early in his childhood. Friends and acquaintances have said the young boy was a mathematical prodigy who could add large columns of numbers in his head, a talent he occasionally demonstrated in his later years.
Warren often visited his father's stockbrokerage shop as a child, and chalked in the stock prices on the blackboard in the office. At 11 years old he made his first investment, buying three shares of Cities Service Preferred at $38 per share. The stock quickly dropped to only $27, but Buffett held on tenaciously until they reached $40. He sold his shares at a small profit, but regretted the decision when Cities Service shot up to nearly $200 a share. He later cited this experience as an early lesson in patience in investing.
First Entrepreneurial Venture
By the age of 13, Buffett was running his own businesses as a paperboy and selling his own horseracing tip sheet. That same year, he filed his first tax return, claiming his bike as a $35 tax deduction.
In 1942, Buffett's father was elected to the U.S. House of Representatives, and his family moved to Fredricksburg, Virginia, to be closer to the congressman's new post. Buffett attended Woodrow Wilson High School in Washington, D.C., where he continued plotting new ways to make money. During his high school tenure, he and a friend purchased a used pinball machine for $25. They installed it in a barbershop, and within a few months the profits enabled them to buy other machines. Buffett owned machines in three different locations before he sold the business for $1,200.
Higher Education and Early Career
Buffett enrolled at the University of Pennsylvania at the age of 16 to study business. He stayed two years, moved to the University of Nebraska to finish up his degree, and emerged from college at age 20 with nearly $10,000 from his childhood businesses.
Influenced by Benjamin Graham's 1949 book, The Intelligent Investor, Buffett enrolled at Columbia Business School to study under the acclaimed economist and investor. After earning his master's degree in 1951, he sold securities for Buffett-Falk & Company for three years, then worked for his mentor for two years as an analyst at Graham-Newman Corp.
In 1956, Buffet formed the firm Buffett Partnership Ltd. in his hometown of Omaha. Utilizing the techniques learned from Graham, he was successful in identifying undervauled companies and became a millionaire. One such enterprise Buffett valued was a textile company named Berkshire Hathaway. He began accumulating stock in the early 1960s, and by 1965 he had assumed control of the company.
Business Empire
Despite the success of Buffett Partnership, its founder dissolved the firm in 1969 to focus on the development of Berkshire Hathaway. He phased out its textile manufacturing division, instead expanding the company by buying assets in media (The Washington Post), insurance (GEICO) and oil (Exxon). Immensely successful, the "Oracle of Omaha" even managed to spin seemingly poor investments into gold, most notably with his purchase of scandal-plagued Salomon Brothers in 1987.
Following Berkshire Hathaway's significant investment in Coca-Cola, Buffett became director of the company from 1989 until 2006. He has also served as director of Citigroup Global Markets Holdings, Graham Holdings Company and The Gillette Company.
Recent Activity and Philanthropy
In June 2006, Buffett made an announcement that he would be giving his entire fortune away to charity, committing 85 percent of it to the Bill and Melinda Gates Foundation. This donation became the largest act of charitable giving in United States history. In 2010, Buffett and Gates announced they had formed The Giving Pledge campaign to recruit more wealthy individuals for philanthropic causes.
In 2012, Buffett disclosed that he had been diagnosed with prostate cancer. He began undergoing radiation treatment in July, and successfully completed his treatment in November.
The health scare did little to slow the octogenarian, who annually ranks near the top of the Forbes world billionaires list. In February 2013, Buffett purchased H. J. Heinz with private equity group 3G Capital for $28 billion. Later additions to the Berkshire Hathaway stable included battery maker Duracell and Kraft Foods Group, which merged with Heinz in 2015 to form the third-largest food and beverage company in North America.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ข้อสรุปเกิดในรัฐเนแบรสกาใน 1930 วอร์เรนบัฟเฟตต์แสดงความกระตือรือร้นธุรกิจที่อายุยังน้อย เขาจัดบัฟเฟตต์ห้างหุ้นส่วน จำกัดในปี 1956 และ โดย 1965 เขาก็ถือว่าควบคุมสันแฮททาเวย์ ดูแลการเติบโตของหินกรวดมนมีในสื่อ ประกันภัย อุตสาหกรรมพลังงาน และอาหาร และเครื่องดื่ม บัฟเฟตต์กลายเป็นคนรวยที่สุดในโลกและ philanthropist เฉลิมฉลองช่วงชีวิตนักธุรกิจและนักลงทุน เกิดวอร์เรนเอ็ดเวิร์ดบัฟเฟตต์บน 30 สิงหาคม 1930 ในโอมาฮา เนบรา พ่อของบัฟเฟตต์ Howard ทำงานเป็น stockbroker และเป็น congressman สหรัฐอเมริกา แม่ของเขา บัฟเฟตต์เล Stahl มีแม่บ้านเป็น บัฟเฟตต์เป็นที่สองของเด็ก 3 คนและเด็กเท่านั้นบัฟเฟตต์สาธิต knack สำหรับเรื่องการเงิน และธุรกิจในช่วงวัยเด็กของเขา เพื่อนและคนรู้จักได้กล่าวว่า เด็กผู้ชายมีโพรดิจีทางคณิตศาสตร์ที่สามารถเพิ่มคอลัมน์ตัวเลขขนาดใหญ่ในหัวของเขา ช่างเขาอาจแสดงให้เห็นว่าในปีต่อมาเขาวอร์เรนมักจะเยี่ยมชมร้าน stockbrokerage พ่อของเขาเป็นเด็ก และ chalked ในราคาหุ้นบนกระดานดำในสำนักงาน ที่ 11 ปี เขาได้ลงทุนครั้งแรกของเขา ซื้อหุ้นสามของเมืองบริการต้องที่ $38 ต่อหุ้น หุ้นลดลงอย่างรวดเร็วเพียง $27 แต่บัฟเฟตต์วันที่ tenaciously จนพวกเขาถึง $40 เขาขายหุ้นที่กำไรเล็ก ๆ ของเขา แต่ regretted ตัดสินใจเมื่อบริการเมืองยิงขึ้นเกือบ $200 ใช้ร่วมกัน หลังจากเริ่มแรกประสบการณ์นี้เป็นบทเรียนเป็นต้นในความอดทนในการลงทุนผู้ประกอบการทุนแรกโดยอายุ 13 บัฟเฟตต์ได้ทำธุรกิจของตัวเองเป็นแบบ paperboy และขายแผ่นแนะนำ horseracing ของเขาเอง ในปีเดียวกัน เขายื่นภาษีแรกกลับมา ว่า จักรยานของเขาเป็นการหักภาษี $35ในปี 1942 พ่อของบัฟเฟตต์ได้รับเลือกให้สหรัฐฯ ราษฎร และครอบครัวของเขาย้ายไป Fredricksburg เวอร์จิเนีย จะต้องประกาศใหม่ของ congressman บัฟเฟตต์เข้าร่วมโรงเรียนมัธยมของ Woodrow Wilson ใน Washington, dc ที่เขาต่อพล็อตใหม่วิธีทำเงิน ระหว่างอายุงานมัธยมของเขา เขาและเพื่อนซื้อเครื่องพินบอลใช้ $ 25 จะติดตั้งในร้านตัดผมกับ และภายในกี่เดือน กำไรเปิดให้ซื้อเครื่องอื่น ๆ บัฟเฟตต์เป็นเจ้าของเครื่องจักรในสถานที่สามก่อนเขาขายธุรกิจสำหรับ $1200ศึกษาและทำงานก่อน บัฟเฟตต์เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียอายุ 16 เรียนธุรกิจ เขาอยู่ปีสอง ย้ายไปมหาวิทยาลัยรัฐเนแบรสกาจบปริญญาของเขา และเกิดจากวิทยาลัยที่อายุ 20 กับเกือบ $10000 จากธุรกิจวัยเด็กของเขาบัฟเฟตต์รับอิทธิพลจากสมุดเบนจามินเกรแฮม 1949 เดอะอัจฉริยะนักลงทุน ลงทะเบียนโรงเรียนธุรกิจโคลัมเบียศึกษารางวัลนักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุน หลังจากจบปริญญาใน 1951 ขายหลักทรัพย์สำหรับเซฟบัฟเฟตต์และบริษัทสามปี แล้วเขาทำงานสำหรับที่ปรึกษาของเขาสำหรับปีที่สองเป็นการวิเคราะห์ที่เกรแฮมนิวแมน corp ในปี 1956 บุฟเฟ่ต์รูปแบบห้างหุ้นส่วน จำกัดบริษัทของบัฟเฟตต์ในบ้านของเขาของโอ ใช้เทคนิคการเรียนรู้จากเกรแฮม เขาสำเร็จในระบุบริษัท undervauled และกลายเป็น เศรษฐี หนึ่งเช่นองค์กรบัฟเฟตต์มูลค่าบริษัทสิ่งทอชื่อสันแฮททาเวย์ เขาเริ่มสะสมหุ้นในช่วงปี 1960 และ โดย 1965 เขาได้ถือว่าการควบคุมของบริษัทอาณาจักรธุรกิจแม้ความสำเร็จของหุ้นส่วนบัฟเฟตต์ ผู้ก่อตั้งส่วนยุบบริษัทใน 1969 ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาของสันแฮททาเวย์ เขายุติของสิ่งทอฝ่ายผลิต ขยายบริษัท โดยการซื้อสินทรัพย์ในสื่อ (เดอะวอชิงตันโพสต์), ประกันแทน (GEICO) และน้ำมัน (Exxon) ความสำเร็จอย่างกว้างขวาง "Oracle ของโอ" ได้จัดการปั่นจนดูเหมือนว่าการลงทุนในทอง ส่วนใหญ่เขาซื้อของพี่ Salomon เลือกสแกนดัลในปี 1987 ต่อสัน Hathaway สำคัญการลงทุนในโคคา-โคล่า บัฟเฟตต์กลายเป็น กรรมการของบริษัทจากปี 1989 จนถึงปี 2006 นอกจากนี้เขาได้ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการ บริษัทกิลเลตต์และระยะกลางตลาดโฮลดิ้ง แกรแฮมโฮลดิ้งจำกัด บริษัทกิจกรรมล่าสุดและการกุศลมิถุนายน 2549 บัฟเฟตต์ได้ประกาศว่า เขาจะนำโชคของเขาทั้งหมดไปเพื่อการกุศล ยอมรับถึงร้อยละ 85 ของรายการและมูลนิธิประตู Melinda การบริจาคนี้เป็น การกระทำที่ใหญ่ที่สุดของกุศลให้ในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ในปี 2553 บัฟเฟตต์และประตูประกาศพวกเขาได้จัดแคมเปญบริจาคเงินให้สรรหาบุคคลรวยเพิ่มเติมสำหรับสาเหตุ philanthropic ใน 2012 บัฟเฟตต์เปิดเผยว่า เขาได้รับการวินิจฉัยกับโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก เขาเริ่มทำการฉายรังสีรักษาในเดือนกรกฎาคม และเสร็จสมบูรณ์ในเดือนพฤศจิกายนการรักษาของเขา แผลสุขภาพไม่น้อยช้า octogenarian ผู้ประจำปีด้านบนของรายการฟอบส์โลก Forbes ในเดือน 2013 กุมภาพันธ์ บัฟเฟตต์ซื้อ H. J. Heinz ด้วยทุนส่วนตัวจัดกลุ่มทุน G 3 สำหรับ 28 พันล้านเหรียญ เพิ่มเติมภายหลัง Hathaway สันเครื่องมีเสถียรภาพรวมแบตเตอรี่ Duracell และคราฟท์ กลุ่มอาหาร ซึ่งผสานกับ Heinz ใน 2015 เพื่อบุคคลที่สามที่ใหญ่ที่สุดอาหารและเครื่องดื่มบริษัทในอเมริกาเหนือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เรื่องย่อเกิดในเนบราสก้าในปี 1930, Warren Buffett แสดงให้เห็นถึงความสามารถของธุรกิจกระตือรือร้นในวัยหนุ่มสาว
เขากลายเป็นบัฟเฟห้างหุ้นส่วน จำกัด ในปี 1956 และ 1965 เขาได้สันนิษฐานว่าการควบคุมของ Berkshire Hathaway การกำกับดูแลการเจริญเติบโตของกลุ่ม บริษัท ในเครือที่มีการถือครองในสื่อประกันพลังงานและอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม, บัฟเฟตกลายเป็นหนึ่งในคนที่รวยที่สุดในโลกและเป็นคนใจบุญที่มีชื่อเสียงโด่งดัง. ชีวิตช่วงแรกนักธุรกิจและนักลงทุน เอ็ดเวิร์ดบัฟเฟเกิดวอร์เรนที่ 30 สิงหาคม 1930 ในโอมาฮา, เนบราสก้า พ่อของบัฟเฟตฮาวเวิร์ดทำงานเป็นนายหน้าและทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐ แม่ของเขาเลย์บัฟเฟตอห์เป็นแม่บ้าน บัฟเฟตเป็นครั้งที่สองในสามของเด็กและเด็กเท่านั้น. บัฟเฟตแสดงให้เห็นถึงความสามารถพิเศษในด้านการเงินและธุรกิจในช่วงต้นของวัยเด็กของเขา เพื่อนและคนรู้จักได้กล่าวว่าเด็กหนุ่มเป็นอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ที่สามารถเพิ่มคอลัมน์ที่มีขนาดใหญ่ของตัวเลขในหัวของเขามีความสามารถที่เขาแสดงให้เห็นเป็นครั้งคราวในปีต่อ ๆ มา. วอร์เรนมักจะเข้าเยี่ยมชมร้าน stockbrokerage พ่อของเขาเป็นเด็กและ chalked ในราคาหุ้น บนกระดานดำในสำนักงาน ตอนอายุ 11 ปีเขาได้ลงทุนครั้งแรกของเขาสามซื้อหุ้นในการให้บริการที่ต้องการเมืองที่ $ 38 ต่อหุ้น สต็อกได้อย่างรวดเร็วลดลงไปเพียง $ 27 แต่บัฟเฟตเมื่อวันที่หวงแหนจนกว่าพวกเขาจะถึง $ 40 เขาขายหุ้นของเขาที่มีกำไรเล็ก ๆ แต่รู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจเมื่อบริการเมืองยิงขึ้นไปเกือบ $ 200 หุ้น หลังจากนั้นเขาก็อ้างว่าประสบการณ์นี้เป็นบทเรียนในช่วงต้นของความอดทนในการลงทุน. ครั้งแรกที่ผู้ประกอบการทุนโดยอายุ 13 บัฟเฟตได้ทำงานธุรกิจของตัวเองของเขาเป็นหนังสือพิมพ์และขายแผ่นปลายแข่งม้าของเขาเอง ในปีเดียวกันนั้นเขาได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีครั้งแรกของเขาอ้างว่าจักรยานของเขาเป็นรายการหักภาษี $ 35. ในปี 1942 พ่อของบัฟเฟตได้รับเลือกให้สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาและครอบครัวของเขาย้ายไป Fredricksburg เวอร์จิเนียที่จะได้ใกล้ชิดกับของสมาชิกวุฒิสภาใหม่ โพสต์ บัฟเฟตเข้าเรียนที่โรงเรียน Woodrow Wilson มัธยมในกรุงวอชิงตันดีซีซึ่งเขายังคงวางแผนวิธีใหม่ในการสร้างรายได้ ระหว่างการดำรงตำแหน่งของโรงเรียนมัธยมเขาและเพื่อนซื้อเครื่องพินบอลที่ใช้สำหรับ $ 25 พวกเขาติดตั้งไว้ในร้านตัดผมและภายในไม่กี่เดือนกำไรช่วยให้พวกเขาที่จะซื้อเครื่องอื่น ๆ บัฟเฟตที่เป็นเจ้าของเครื่องในสามสถานที่ที่แตกต่างกันก่อนที่เขาจะขายธุรกิจสำหรับ $ 1,200. การศึกษาที่สูงขึ้นและในช่วงต้นอาชีพบัฟเฟตที่ลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยเพนซิลตอนอายุ 16 ในการศึกษาธุรกิจ เขาอยู่สองปีย้ายไปอยู่ที่มหาวิทยาลัยเนบราสก้าจบการศึกษาระดับปริญญาของเขาและโผล่ออกมาจากวิทยาลัยตอนอายุ 20 ที่มีเกือบ $ 10,000 จากธุรกิจวัยเด็กของเขา. อิทธิพลจากเบนจามินเกรแฮม 1949 หนังสือนักลงทุนที่ชาญฉลาด, บัฟเฟตที่ลงทะเบียนเรียนที่โรงเรียนโคลัมเบียธุรกิจ การศึกษาภายใต้นักเศรษฐศาสตร์และนักลงทุนที่ได้รับรางวัล หลังจากที่ได้รับปริญญาโทของเขาในปี 1951 เขาขายหลักทรัพย์บัฟเฟต-Falk & Company เป็นเวลาสามปีแล้วทำงานให้กับที่ปรึกษาของเขาเป็นเวลาสองปีในฐานะที่เป็นนักวิเคราะห์ที่เกรแฮมนิวแมนคอร์ปในปี1956 แบบที่เกิดขึ้นกับ บริษัท บัฟเฟตในห้างหุ้นส่วน จำกัด บ้านเกิดของโอมาฮา การใช้เทคนิคที่ได้เรียนรู้จากเกรแฮมเขาประสบความสำเร็จในการระบุ บริษัท undervauled และกลายเป็นเศรษฐี หนึ่งในองค์กรดังกล่าวมีมูลค่าบัฟเฟตเป็น บริษัท สิ่งทอชื่อ Berkshire Hathaway เขาเริ่มสะสมหุ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 และ 1965 เขาได้สันนิษฐานว่าการควบคุมของ บริษัท . เอ็มไพร์ธุรกิจอย่างไรก็ตามความสำเร็จของบัฟเฟตหุ้นส่วนผู้ก่อตั้งของ บริษัท ที่ละลายในปี 1969 มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาของ Berkshire Hathaway เขาค่อย ๆ ออกมาส่วนการผลิตสิ่งทอแทนการขยายตัวของ บริษัท โดยการซื้อสินทรัพย์ในสื่อ (วอชิงตันโพสต์) ประกันภัย (GEICO) และน้ำมัน (เอ็กซอน) ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากที่ "ออราเคิลโอมาฮา" แม้กระทั่งการจัดการในการหมุนการลงทุนที่ไม่ดีที่ดูเหมือนจะเป็นทองที่โดดเด่นที่สุดกับการซื้อของเขาจากเรื่องอื้อฉาวมิคสัญญีบราเดอร์ซาโลมอนในปี 1987 ดังต่อไปนี้การลงทุนที่สำคัญ Berkshire Hathaway ใน Coca-Cola, บัฟเฟตเป็นผู้อำนวยการของ บริษัท จาก ปี 1989 จนถึงปี 2006 เขายังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการของซิตี้กรุ๊ปโฮลดิ้งตลาดโลกเกรแฮมโฮลดิ้งและ บริษัท ยิลเลตต์. กิจกรรมล่าสุดและใจบุญสุนทานในเดือนมิถุนายนปี 2006 บัฟเฟตได้ประกาศว่าเขาจะให้ทรัพย์สมบัติทั้งหมดของเขาออกไปเพื่อการกุศล, การกระทำ 85 เปอร์เซ็นต์ของมันไปที่บิลและเมลินดาเกตส์มูลนิธิ บริจาคในครั้งนี้กลายเป็นที่ใหญ่ที่สุดของการกระทำให้การกุศลในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา ในปี 2010 และบัฟเฟตเกตส์ประกาศว่าพวกเขาได้จัดตั้งให้แคมเปญจำนำจะรับสมัครบุคคลที่ร่ำรวยมากขึ้นสำหรับสาเหตุการกุศล. ในปี 2012 บัฟเฟตเปิดเผยว่าเขาได้รับการวินิจฉัยมะเร็งต่อมลูกหมาก เขาเริ่มเข้ารับการรักษาด้วยรังสีในเดือนกรกฎาคมและประสบความสำเร็จในการรักษาของเขาในเดือนพฤศจิกายน. ตกใจสุขภาพไม่น้อยที่จะชะลอตัวแปดสิบปีที่เป็นประจำทุกปีอันดับใกล้ด้านบนของโลกฟอร์บรายชื่อมหาเศรษฐี ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2013 บัฟเฟต HJ Heinz ซื้อกับกลุ่มทุนเอกชน 3G ทุน $ 28000000000 เพิ่มเติมในภายหลังเพื่อ Berkshire Hathaway มีเสถียรภาพรวม Duracell ผลิตแบตเตอรี่และคราฟท์ฟู้ดส์กรุ๊ปซึ่งรวมกับไฮนซ์ในปี 2015 ในรูปแบบอาหารที่สามที่ใหญ่ที่สุดและเครื่องดื่ม บริษัท ในทวีปอเมริกาเหนือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เรื่องย่อ
เกิดในเนบราสก้าใน 1930 , วอร์เรน บัฟเฟตต์ แสดงความสามารถทางธุรกิจกระตือรือร้นที่อายุยังน้อย เขาก่อตั้งบัฟเฟตห้างหุ้นส่วนจำกัดในปี 1956 และปี 1965 เขาได้ถือว่าการควบคุมของ Berkshire Hathaway . ดูแลการเติบโตของกลุ่ม บริษัท ในเครือที่มีการถือครองในสื่อ , ประกันภัย , อุตสาหกรรมพลังงานและอาหาร และเครื่องดื่มBuffett กลายเป็นคนร่ำรวยที่สุดของโลก และฉลองพระ ชีวิต

พ่อค้าก่อน และนักลงทุน Warren Edward Buffett เกิดเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม ค.ศ. 1930 ใน Omaha , Nebraska . บัฟเฟต บิดาของ ฮาวเวิร์ด ทำงานเป็นนายหน้าค้าหุ้น และในฐานะสมาชิกรัฐสภาสหรัฐ . แม่ของเขา ไลลา สตาห์ล บัฟเฟตต์ เป็นแม่บ้าน บัฟเฟตต์เป็นคนที่ 2 ใน 3 คน และเด็กเท่านั้น
บัฟเฟตต์ แสดงความสามารถพิเศษด้านการเงินและธุรกิจแรกในวัยเด็กของเขา เพื่อนและคนรู้จักก็บอกว่า หนุ่มบอย เป็นคณิตศาสตร์อัจฉริยะที่สามารถเพิ่มขนาดใหญ่คอลัมน์ของตัวเลขในหัวของเขา เขาก็แสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์ในบั้นปลาย .
วอร์เรนมักจะเข้าเยี่ยมชมร้านการซื้อขายหุ้นของบิดาของเขาเป็นเด็กและการจัดการในราคาหุ้นบนกระดานในสำนักงาน ที่อายุ 11 ปีเขาได้ลงทุนครั้งแรกของเขาซื้อหุ้นสามของเมืองบริการที่ต้องการที่ $ 38 ต่อหุ้น หุ้นได้อย่างรวดเร็วลดลงไปเพียง $ 27 แต่บัฟเฟต จับไม่ปล่อย จน ถึง $ 40 เขาขายหุ้นที่กำไรขนาดเล็ก แต่เสียใจกับการตัดสินใจเมื่อเมืองบริการยิงขึ้นไปเกือบ $ 200 ที่ใช้ร่วมกันหลังจากนั้นเขาก็อ้างประสบการณ์นี้เป็นบทเรียนในความอดทนในช่วงแรกการลงทุน

ร่วมผู้ประกอบการครั้งแรกเมื่ออายุ 13 ตรงที่วิ่งธุรกิจของตัวเองเป็นหนังสือพิมพ์ และขายแผ่นเคล็ดลับการแข่งม้าของเขาเอง ในปีเดียวกันนั้นเขายื่นภาษีคืนแรกของเขา โดยอ้างว่า จักรยานของเขา เช่น การหักภาษี $ 35
ในปี 1942 คุณพ่อบัฟเฟตเป็นจากสหรัฐอเมริกาสภาผู้แทนราษฎรและครอบครัวของเขาย้ายไป fredricksburg เวอร์จิเนีย เพื่อใกล้ชิดกับส.ส. โพสต์ใหม่ บัฟเฟต เคยเรียนที่โรงเรียน วูดโรว์ วิลสัน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ที่เขายังคิดวิธีใหม่ที่จะทำให้เงิน ในช่วงระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งที่โรงเรียนของเขาสูง เขาและเพื่อนซื้อใช้เครื่องเล่นพินบอลสำหรับ $ 25 พวกเขาติดตั้งในร้านตัดผมและภายในไม่กี่เดือน กำไรสามารถซื้อเครื่องอื่น ๆ บัฟเฟตเป็นเจ้าของเครื่องจักรในสถานที่สามที่แตกต่างกันก่อนขายธุรกิจ $ 1200 .
อุดมศึกษาและอาชีพ
เช้าบัฟเฟตเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียเมื่ออายุ 16 ปี เพื่อศึกษาธุรกิจ เขาอยู่ที่นั่นสองปีย้ายไปมหาวิทยาลัยเนบราสก้าเพื่อเสร็จสิ้นการศึกษาระดับปริญญาของเขาและการชุมนุมจากวิทยาลัยตอนอายุ 20 เกือบ $ 10 , 000 จากธุรกิจในวัยเด็กของเขา .
อิทธิพลโดย Benjamin Graham 1949 หนังสือ นักลงทุนที่ฉลาดตรงที่สมัครเข้าเรียนที่โรงเรียนธุรกิจโคลัมเบียศึกษาภายใต้นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับรางวัล และนักลงทุน หลังจากได้รับปริญญาโทของเขาในปี 1951 เขาขายหุ้น บัฟเฟตต์ ฟอล์ค&บริษัท 3 ปีแล้วทำงานกับที่ปรึกษาของเขาเป็นเวลาสองปี ตามที่นักวิเคราะห์ที่เกรแฮม นิวแมน .
ในปี 1956 , บุฟเฟ่ต์ก่อตั้ง บริษัท บัฟเฟตห้างหุ้นส่วนจำกัดในบ้านเกิดของเขาในโอมาฮา การใช้เทคนิคที่ได้เรียนรู้จาก เกรแฮม เขาประสบความสำเร็จในการระบุ undervauled บริษัทและกลายเป็นเศรษฐี เช่นองค์กร Buffett มูลค่าเป็นบริษัทสิ่งทอชื่อ Berkshire Hathaway .เขาเริ่มสะสมหุ้นในช่วงต้นทศวรรษที่ 1960 และโดย 1965 เขาได้ถือว่าการควบคุมของบริษัท อาณาจักรธุรกิจ

แม้จะมีความสำเร็จของบัฟเฟตต์ หุ้นส่วนผู้ก่อตั้ง บริษัท ใน 1969 เพื่อมุ่งเน้นการพัฒนาของ Berkshire Hathaway . เขาแบ่งออกแผนกของการผลิตสิ่งทอ แทนการขยายบริษัทโดยการซื้อทรัพย์สินในสื่อ ( วอชิงตันโพสต์ )