The scientists discovered that peop

The scientists discovered that people with the rival bug Staphylococcus lugdunensis in their nostrils were less likely to have S. aureus.
The German team used various strains of genetically-modified S. lugdunensis to work out the crucial piece of genetic code that allowed it to win the fight to live among your nose hairs.
They eventually pinpointed a single crucial gene that contained the instructions for building a new antibiotic, which they named lugdunin.
Tests on mice showed lugdunin could treat superbug infections on the skin including MRSA, as well as Enterococcus infections.
One of the researchers, Dr Bernhard Krismer, said: "Some of the animals were completely clear, no single cell of the bacterium was detectable.
"Others were reduced, but still contained some bacteria and we also saw that the compound penetrated the tissue and acted on the deeper layer of the skin."
It will take years of testing before lugdunin could reach patients and it may not prove to be successful.
But new antibiotics are desperately needed as doctors face the growing challenge of infections that resist current drugs and could become untreatable.
'Pressure to eliminate'
Fellow researcher Prof Andreas Peschel said the body could be mined for new antibiotics.
"Lugdunin may be the first example of such an antibiotic, we have started a screening programme," he said.
And he even believes that people could one day be infected with genetically-modified bacteria to fight their infections.
He argued: "By introducing the lugdunin genes into a completely innocuous bacterial species we hope to develop a new preventive concept of antibiotics that can eradicate pathogens."
Prof Kim Lewis and Dr Philip Strandwitz, from the antimicrobial discovery centre at Northeastern University in the US, commented: "It may seem surprising that a member of the human microbiota - the community of bacteria that inhabits the body - produces an antibiotic.
"However, the microbiota is composed of more than a thousand species, many of which compete for space and nutrients, and the selective pressure to eliminate bacterial neighbours is high.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่า คนที่ มีคู่แข่งบัก Staphylococcus lugdunensis ในจมูกของพวกเขาถูกให้ทำหมอเทศข้างลาย S.ทีมเยอรมันใช้พันธุ์ดัดแปลงพันธุกรรม lugdunensis S. ต่าง ๆ ออกเป็นชิ้นส่วนสำคัญของรหัสพันธุกรรมที่ได้รับอนุญาตให้ชนะการต่อสู้เพื่ออยู่กับขนจมูกของคุณนอกจากนี้พวกเขาในที่สุด pinpointed ยีนสำคัญเดียวที่ประกอบด้วยคำแนะนำสำหรับการสร้างยาปฏิชีวนะใหม่ ชื่อว่า lugduninการทดสอบในหนูพบว่า lugdunin สามารถรักษา superbug ติดเชื้อบนผิวหนังรวมทั้ง MRSA ตลอดจนติดเชื้อ Enterococcusนักวิจัย ดร.แบร์นฮอร์ด Krismer กล่าวว่า: "สัตว์บางตัวชัดเจนอย่างสมบูรณ์ ไม่มีเซลล์เดียวของแบคทีเรียถูกตรวจพบ"ผู้อื่นลดลง แต่ยัง ประกอบด้วยแบคทีเรียบางอย่าง และเรายังเห็นว่า สารประกอบทะลุเนื้อเยื่อ และนำไปใช้ในชั้นลึกของผิว"มันจะใช้เวลาปีของการทดสอบก่อนที่ lugdunin สามารถเข้าถึงผู้ป่วย และมันไม่อาจพิสูจน์ความสำเร็จแต่ยาปฏิชีวนะใหม่หมดจำเป็นแพทย์เผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นของการติดเชื้อที่ต่อต้านยาเสพติดปัจจุบัน และอาจกลายเป็น untreatable'ดันโค่น'เพื่อนนักวิจัยศาสตราจารย์ Andreas Peschel กล่าวว่า ร่างกายอาจขุดสำหรับยาปฏิชีวนะใหม่"Lugdunin อาจจะเป็นยาปฏิชีวนะอย่างแรก เราได้เริ่มโปรแกรมการคัดกรอง เขากล่าวว่าและเขายังเชื่อว่าคนสามารถวันหนึ่งติดเชื้อแบคทีเรียดัดแปลงพันธุกรรมในการต่อสู้ของพวกเขาติดเชื้อเขาโต้เถียง: "โดยการนำยีน lugdunin เป็นสายพันธุ์แบคทีเรีย innocuous สมบูรณ์ เราหวังว่าการพัฒนาแนวคิดใหม่เชิงป้องกันของยาปฏิชีวนะที่สามารถกำจัดเชื้อโรค"ศาสตราจารย์คิมลูอิสและดร.ฟิลิป Strandwitz จากดิสคัฟต้านจุลชีพที่อีสานมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ความเห็น: "มันอาจดูเหมือนแปลกใจที่สมาชิกของจุลินทรีย์มนุษย์ -ชุมชนของแบคทีเรียที่เตรียมร่างกาย - ผลิตยาปฏิชีวนะ"อย่างไรก็ตาม จุลินทรีย์ประกอบด้วยพันธุ์พัน จำนวนมากที่แข่งขันสำหรับพื้นที่และสารอาหาร และความดันเลือกเพื่อกำจัดแบคทีเรียประเทศเพื่อนบ้านสูง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่าคนที่มีคู่แข่ง Lugdunensis ข้อผิดพลาด Staphylococcus ในจมูกของพวกเขามีโอกาสน้อยที่จะมีเชื้อ S. aureus.
ทีมเยอรมันใช้สายพันธุ์ต่างๆของการดัดแปลงพันธุกรรมเอส Lugdunensis ที่จะทำงานออกชิ้นส่วนที่สำคัญของรหัสพันธุกรรมที่ได้รับอนุญาตก็จะชนะ การต่อสู้เพื่อมีชีวิตอยู่ในหมู่ขนจมูกของคุณ.
ที่สุดพวกเขาก็ช่วยชี้ยีนสำคัญเดียวที่มีคำแนะนำสำหรับการสร้างยาปฏิชีวนะใหม่ซึ่งพวกเขาตั้งชื่อ lugdunin.
การทดสอบในหนูพบว่า lugdunin สามารถรักษาโรคติดเชื้อ superbug บนผิวหนังรวมทั้งเชื้อ MRSA เช่นเดียวกับ Enterococcus . การติดเชื้อ
หนึ่งของนักวิจัยดรแบร์นฮาร์ด Krismer กล่าวว่า "บางส่วนของสัตว์ที่ถูกสมบูรณ์ชัดเจนไม่มีเซลล์เดียวของแบคทีเรียที่ถูกตรวจพบ.
" อื่น ๆ ลดลง แต่ยังคงมีแบคทีเรียบางชนิดและเรายังเห็นว่าสารประกอบทะลุ เนื้อเยื่อและการดำเนินการในชั้นลึกของผิว. "
มันจะใช้เวลาหลายปีของการทดสอบก่อนที่จะ lugdunin สามารถเข้าถึงผู้ป่วยและก็ไม่อาจพิสูจน์ได้ว่าจะประสบความสำเร็จ.
แต่ยาปฏิชีวนะใหม่ที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เป็นแพทย์เผชิญกับความท้าทายที่เพิ่มขึ้นของการติดเชื้อที่ต่อต้านยาเสพติดในปัจจุบัน และอาจจะกลายเป็นไม่สามารถรักษาได้.
'ความดันที่จะกำจัด'
นักวิจัยเพื่อนศ Andreas Peschel กล่าวว่าร่างกายอาจจะขุดสำหรับยาปฏิชีวนะใหม่.
"Lugdunin อาจจะเป็นตัวอย่างแรกของเช่นยาปฏิชีวนะที่เราได้เริ่มต้นโครงการตรวจคัดกรอง" เขากล่าว.
และเขา แม้จะเชื่อว่าคนที่วันหนึ่งอาจจะติดเชื้อแบคทีเรียดัดแปลงพันธุกรรมที่จะต่อสู้กับการติดเชื้อของพวกเขา.
เขาแย้ง: ". โดยการแนะนำยีน lugdunin เข้าไปในสายพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรียอันตรายอย่างสมบูรณ์เราหวังที่จะพัฒนาแนวคิดการป้องกันใหม่ของยาปฏิชีวนะที่สามารถกำจัดเชื้อโรค"
ศาสตราจารย์คิมลูอิสและดรฟิลิป Strandwitz จากศูนย์การค้นพบยาต้านจุลชีพที่มหาวิทยาลัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือในสหรัฐอเมริกากล่าวว่า "มันอาจจะดูเหมือนน่าแปลกใจที่เป็นสมาชิกของ microbiota มนุษย์ - ชุมชนของแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในร่างกาย - ผลิตยาปฏิชีวนะ.
" อย่างไรก็ตาม , microbiota ประกอบด้วยกว่าพันชนิดหลายแห่งซึ่งแข่งขันสำหรับพื้นที่และสารอาหารและความดันเลือกที่จะกำจัดแบคทีเรียเพื่อนบ้านอยู่ในระดับสูง