A Social Assessment (SA) is require

A Social Assessment (SA) is required under the World Bank’s Safeguard Policy (OP/BP 4.10). The
objectives of the assessment are to : (i) evaluate the project potential positive and adverse effects
on the Indigenous People (IP) and examine project alternatives where adverse effects may be
significant; (ii) assess the stakeholders’ perspectives on current status of access to education,
discrimination in access to education service, discrepancies in enrollment or any other indicators
of education access between IPs and mainstream Khmer communities, measures to improve their
access to education to maximize the benefits of the project activities to beneficiaries; and (iii)
establish a basis for subsequent project monitoring and evaluation. The SA is also a means to
engage in free, prior and informed consultation with indigenous communities and to assess
whether these communities provide their broad support to the project or not. During SA process
indigenous people were informed about the project and consulted about the project benefits and
adverse effects. The SA has found that consulted the IP communities and key stakeholders
support for the project.
The SA requires the collection of both primary and secondary data. Primary qualitative data were
collected using qualitative research methodology such as focus group discussion (FGD) for the
people from the communities and key informant interview (KII) for other key stakeholders.
Secondary statistical data were also collected mainly from MoEYS, and Ministry of Planning’s
commune database. Four provinces were selected for field study, namely Stung Treng, Mondul
Kiri, Kampong Thom and Banteay Meanchey. In each province, a FGD and 5 KIIs were conducted

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การประเมินทางสังคม (SA) จะต้องอยู่ภายใต้นโยบายการป้องกันของธนาคารโลก (OP / BP 4.10)
วัตถุประสงค์ของการประเมินจะ: (i) การประเมินผลโครงการที่มีศักยภาพผลในเชิงบวกและอาการไม่พึงประสงค์
ที่คนพื้นเมือง (IP) และตรวจสอบทางเลือกโครงการที่ผลกระทบอาจจะ
มีนัยสำคัญ; (ii) การประเมินมุมมองของผู้มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับสถานะปัจจุบันของการเข้าถึงการศึกษา,
การเลือกปฏิบัติในการเข้าถึงบริการการศึกษาความแตกต่างในการลงทะเบียนหรือตัวชี้วัดอื่น ๆ
ในการเข้าถึงการศึกษาระหว่างไอพีและชุมชนเขมรหลักมาตรการเพื่อปรับปรุงของพวกเขา
เข้าถึงการศึกษาเพื่อเพิ่ม ประโยชน์ของกิจกรรมของโครงการที่จะได้รับผลประโยชน์; และ (iii)
สร้างพื้นฐานสำหรับการตรวจสอบโครงการตามมาและการประเมินผล SA เป็นยังหมายถึงการ
มีส่วนร่วมในคำปรึกษาฟรีก่อนและแจ้งกับชุมชนท้องถิ่นและเพื่อประเมิน
ว่าชุมชนเหล่านี้ให้การสนับสนุนในวงกว้างของพวกเขาให้กับโครงการหรือไม่ ในระหว่างกระบวนการ SA
คนพื้นเมืองได้รับแจ้งเกี่ยวกับโครงการและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลประโยชน์ของโครงการและ
ผลกระทบ SA ได้พบว่าปรึกษาชุมชน IP และผู้มีส่วนได้เสียที่สำคัญ
สนับสนุนสำหรับโครงการ.
SA ต้องมีการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ข้อมูลเชิงคุณภาพหลักถูก
เก็บรวบรวมโดยใช้วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพเช่นการสนทนากลุ่ม (FGD) สำหรับ
คนที่มาจากชุมชนและการสัมภาษณ์ข้อมูลหลัก (KII) สำหรับผู้มีส่วนได้เสียสำคัญอื่น ๆ .
ข้อมูลสถิติรองถูกเก็บรวบรวมยังส่วนใหญ่มาจาก Moeys และกระทรวงของการวางแผน
ชุมชน ฐานข้อมูล สี่จังหวัดได้รับการคัดเลือกในการศึกษาข้อมูลคือ Stung Treng, Mondul
คีรี, กำปง ธ และ Banteay Meanchey ในแต่ละจังหวัด FGD และ 5 KIIS กำลังดำเนินการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การประเมินทางสังคม ( SA ) ต้องการ ภายใต้นโยบายป้องกันของธนาคารโลก ( OP / BP 4.10 )
วัตถุประสงค์ของการประเมินเพื่อ ( 1 ) ประเมินโครงการที่มีศักยภาพในเชิงบวกและผลข้างเคียง
เกี่ยวกับชนพื้นเมือง ( IP ) และตรวจสอบโครงการทางเลือกที่ผลกระทบอาจ
) ; ( 2 ) ประเมินมุมมองของผู้มีส่วนได้เสียในสถานะปัจจุบันของการเข้าถึงการศึกษา ,
การเลือกปฏิบัติในการเข้าถึงบริการการศึกษา ความขัดแย้งในการลงทะเบียนหรือตัวชี้วัดอื่น ๆที่เชื่อมต่อระหว่าง IPS
การศึกษากระแสหลัก เขมรและชุมชน มาตรการปรับปรุง
เข้าถึงการศึกษาเพื่อประโยชน์สูงสุดของโครงการกิจกรรมเพื่อผลประโยชน์ และ ( iii )
สร้างพื้นฐานสำหรับการติดตามโครงการที่ตามมา และการประเมินผล ซา ยังหมายถึงการ
ประกอบฟรีก่อนและการแจ้งการปรึกษาหารือกับชุมชนพื้นเมืองและประเมิน
ว่าชุมชนเหล่านี้ให้การสนับสนุนในวงกว้างของโครงการหรือไม่ ในระหว่างกระบวนการ
ซาคนพื้นเมืองได้รับแจ้งเกี่ยวกับโครงการ และปรึกษาเกี่ยวกับโครงการประโยชน์และผลที่ไม่พึงประสงค์ ซา พบว่า ได้ปรึกษากับ IP และชุมชนสนับสนุนผู้มีส่วนได้เสีย

ที่สำคัญสำหรับโครงการซาต้องรวบรวมทั้งข้อมูลปฐมภูมิและทุติยภูมิ ข้อมูลเชิงคุณภาพปฐมภูมิ
รวบรวมโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ เช่น การสนทนากลุ่ม ( FGD )
ผู้คนจากชุมชน และการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ( คี ) สำหรับผู้มีส่วนได้เสียสำคัญอื่น ๆ นอกจากนี้ยังรวบรวมข้อมูลสถิติมัธยมศึกษา
ส่วนใหญ่มาจาก moeys และฐานข้อมูลชุมชน กระทรวงการวางแผนของ

4 จังหวัด กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษาคือ Treng Stung mondul
คิริ กำปงธม และบันเตียเมียนเจย . ในแต่ละจังหวัด และ 5 kiis จำนวนโรงไฟฟ้า