Dietary yeast can be used as a rumi

Dietary yeast can be used as a ruminant feed especially Saccharomyces cerevisiae because the yeast cell contains nutrients that are rate limiting especially for ruminant production and the high lysine content is particularly important (7.6 ± 0.7 g/16 g N) ( Polyorach et al., 2012, Nelson et al., 1959 and Polyorach et al., 2013). Addition of yeast to ruminant diets can not only improve the rumen environment but also enhance microbial activity especially cellulolytic activities, which increases their total number, fiber digestion, reduces lactate accumulation and concentration of oxygen in rumen fluid and improves utilization of starch ( Robinson, 1997 and Lila et al., 2004). Moreover, S. cerevisiae also stimulates DM intake and productivity in growing and lactating cattle ( Robinson and Garrett, 1999), improved microbial protein synthesis and milk production of dairy cows ( Strohlein, 2003 and Hristove et al., 2010). However, Desnoyers et al. (2009) reported that highly variable effects of live S. cerevisiae cultures could be associated with changing in the ratio of forage and concentrate used. Cassava chip is an energy source with low CP, to which when fermented with yeast could increase CP from 1 to 3% CP to 30.4% CP ( Boonnop et al., 2009). Recently, Polyorach et al., 2012, Polyorach et al., 2013 and Polyorach et al., 2014) reported that YEFECAP could be prepared to increase CP levels up to 47%. The YEFECAP preparation process according to the method of Polyorach et al. (2013) is shown in Table 4 and Fig.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาหารยีสต์สามารถใช้ข้าวสาลีเป็นอาหารโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Saccharomyces cerevisiae เนื่องจากเซลล์ยีสต์ประกอบด้วยสารอาหารที่มีอัตราการจำกัดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิต ruminant และไลซีนสูงเนื้อหาเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง (7.6 ± 0.7 g/16 g N) (Polyorach et al. 2012 เนลสัน et al. 1959 และ Polyorach et al. 2013) ของยีสต์อาหาร ruminant สามารถไม่เพียงแต่ ปรับปรุงสภาพแวดล้อมต่อ แต่เสริมจุลินทรีย์ cellulolytic โดยเฉพาะกิจกรรม เพิ่มจำนวนของพวกเขา เส้นใยย่อย ลดการสะสมของน้ำนมและความเข้มข้นของออกซิเจนในของเหลวรูเมน และปรับปรุงการใช้ประโยชน์ของแป้ง (โรบินสัน 1997 และเทพลีลา et al. 2004) นอกจากนี้ S. cerevisiae ยังกระตุ้นบริโภค DM และประสิทธิภาพในการเจริญเติบโต และนมวัว (โรบินสันและการ์เร็ต 1999), การปรับปรุงจุลินทรีย์โปรตีนสังเคราะห์และนมผลิตโคนม (Strohlein, 2003 และ Hristove et al. 2010) อย่างไรก็ตาม Desnoyers et al. (2009) รายงานว่า ผลตัวแปรสูงสด S. cerevisiae วัฒนธรรมอาจเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงอัตราส่วนของดอกไม้และเข้มข้นที่ใช้ มันสำปะหลังชิเป็นแหล่งพลังงานกับ CP ต่ำ ซึ่งเมื่อหมักกับ ยีสต์สามารถเพิ่ม CP จาก 1 ไป 3% CP 30.4% CP (Boonnop et al. 2009) เมื่อเร็ว ๆ นี้ Polyorach et al. 2012, Polyorach et al. 2013 และ Polyorach et al. 2014) รายงานว่า YEFECAP สามารถเตรียมเพิ่มระดับ CP ถึง 47% การเตรียม YEFECAP ตามวิธีของ Polyorach et al. (2013) แสดงในตารางที่ 4 และรูปที่

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยีสต์อาหารสามารถนำมาใช้เป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้องโดยเฉพาะอย่างยิ่ง Saccharomyces cerevisiae เพราะเซลล์ยีสต์มีสารอาหารที่มีอัตรา จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการผลิตสัตว์เคี้ยวเอื้องและเนื้อหาไลซีนสูงเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง (7.6 ± 0.7 กรัม / 16 กรัม N) (Polyorach et al., 2012, เนลสัน et al., 1959 และ Polyorach et al., 2013) นอกเหนือจากยีสต์อาหารสัตว์เคี้ยวเอื้องไม่เพียง แต่สามารถปรับปรุงสภาพแวดล้อมกระเพาะรูเมน แต่ยังเพิ่มกิจกรรมของจุลินทรีย์โดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมเซลลูโลสซึ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนของพวกเขาการย่อยอาหารเส้นใยช่วยลดการสะสมแลคเตทและความเข้มข้นของออกซิเจนในของเหลวในกระเพาะรูเมนและช่วยเพิ่มการใช้ประโยชน์จากแป้ง (โรบินสัน 1997 และไลล่า et al., 2004) นอกจากนี้เอส cerevisiae ยังช่วยกระตุ้นการบริโภคและการผลิต DM ในการเจริญเติบโตและวัวให้นมบุตร (โรบินสันและการ์เร็ต, 1999), การสังเคราะห์โปรตีนของเชื้อจุลินทรีย์ที่ดีขึ้นและการผลิตน้ำนมของโคนม (Strohlein, 2003 และ Hristove et al., 2010) อย่างไรก็ตาม Desnoyers et al, (2009) รายงานว่าผลกระทบของตัวแปรวัฒนธรรมชีวิต S. cerevisiae อาจจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในอัตราส่วนของอาหารสัตว์และใช้สมาธิ ชิปมันสำปะหลังเป็นแหล่งพลังงานที่มีระดับต่ำ CP ซึ่งเมื่อหมักด้วยยีสต์สามารถเพิ่ม CP จาก 1 ถึงซีพี 3% ถึง 30.4% CP (Boonnop et al., 2009) เมื่อเร็ว ๆ นี้ Polyorach et al., 2012, Polyorach et al., 2013 และ Polyorach et al., 2014) รายงานว่า YEFECAP อาจจะมีการเตรียมที่จะเพิ่มระดับซีพีได้ถึง 47% ขั้นตอนการเตรียม YEFECAP ตามวิธีการของ Polyorach et al, (2013) จะแสดงในตารางที่ 4 และรูป

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยีสต์อาหารสามารถใช้เป็นอาหารสัตว์เคี้ยวเอื้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะยีสต์ Saccharomyces cerevisiae เซลล์ประกอบด้วยสารอาหารที่มีอัตราการโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการผลิตสัตว์เคี้ยวเอื้องและปริมาณไลซีนสูงเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ( 7.6 ± 0.7 กรัม / 16 G n ) ( polyorach et al . , 2012 , Nelson et al . , 1959 และ polyorach et al . , 2013 ) นอกจากนี้ยีสต์อาหารสัตว์เคี้ยวเอื้องอาหารไม่เพียง แต่สามารถปรับปรุงกระบวนการสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยเพิ่มกิจกรรมของจุลินทรีย์ที่ย่อยสลายเซลลูโลสโดยเฉพาะอย่างยิ่งกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นจำนวนรวมของการย่อยไฟเบอร์ ช่วยลดการสะสมของกรดแลคติกที่ความเข้มข้นของออกซิเจนและของเหลวในกระเพาะรูแมน และปรับปรุงการใช้แป้ง ( โรบินสัน , 1997 และไลล่า et al . , 2004 ) นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นการบริโภคและ S . cerevisiae และผลิตภาพในการเติบโตและให้นมวัว ( โรบินสันและการ์เร็ตต์ , 1999 ) ปรับปรุงจุลินทรีย์สังเคราะห์โปรตีนและผลผลิตน้ำนมของโคนม ( strohlein , 2003 และ hristove et al . , 2010 ) อย่างไรก็ตาม desnoyers et al . ( 2009 ) รายงานว่า ผลของตัวแปรสูงสด S . cerevisiae วัฒนธรรมอาจจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงในอัตราส่วนของพืชอาหารสัตว์ และมุ่งใช้ มันสำปะหลังเป็นแหล่งพลังงานที่มีโปรตีนต่ำ ซึ่งเมื่อหมักกับยีสต์ช่วยเพิ่มจำนวนจาก 1 ไป 3 % CP ถึง 30.4 % CP ( boonnop et al . , 2009 ) เมื่อเร็วๆ นี้ polyorach et al . , 2012 , polyorach et al . , 2013 และ 2014 polyorach et al . ) รายงานว่า yefecap อาจเตรียมที่จะเพิ่มระดับ CP ถึง 47 % การ yefecap การเตรียมกระบวนการตามวิธีของ polyorach et al . ( 1 ) แสดงดังตารางที่ 4 และภาพประกอบ