Thousands and thousands of acres of

Thousands and thousands of acres of lush rain forests are cleared each year to make way for development. The once beautiful and spectacular forests are reduced to barren landscapes. This is for the sake of development, for the advancement of man.
Yet, what happens when trees are felled? Firstly, the earth is left vulnerable to soil erosion. The heavy tropical rains will carry away the rich topsoil, and the land without its topsoil will no longer be fertile. Slowly but steadily, the lush vegetation will give way to wasteland.

Secondly, the flowing water will not only wash away the topsoil but will deposit it in the rivers. As a result, the rivers will become shallower. Consequently, floods will become frequent in the area. Thousands of people will suffer in these floods.

Another point to note is that forests are home to hundreds of species of flora and fauna. Animals and plants live in symbiotic relationships in the balance of nature. Man destroys this balance when he flattens the forests to the ground. Where do they go then, the great and tiny inhabitants of these forests? Nowhere. They die. If this goes on, the food chain will be disrupted. As creatures dependent on the food chain, man is ultimately destroying his own sources of food through the destruction of rain forests.

When forests are a distant memory, a shocking fact will hit us full force. Mankind will be thrown into a state of unimaginable suffering and agony. What I am talking about is the lack of oxygen. While cutting down a tree to add yet another piece of luxurious furniture to Man's already opulent lifestyle, people forget that they are also cutting down our supply of oxygen.

Trees absorb the carbon dioxide breathed out by living creatures, reprocess it and, in the end, produce the life-sustaining oxygen. Without trees, where will this oxygen come from? Will we process it in factories? Will a time come when man will be fighting for the very air he breathes?

Furthermore, the excessive carbon dioxide will also effect a change in the micro-climate and raise the region's temperature. There will be a greenhouse effect on earth; warm air and radiation will be trapped under the earth's atmosphere. Then, as the earth's temperature rises, the ice in the polar caps will melt, raising the sea level. Great floods will hit the lower-lying areas.

As you can see, it is a vicious cycle. A change in our environment will trigger off another change which will trigger off yet another. This is why we. should keep the balance of nature. This is why we ought to preserve our forests. This is why environmentalist groups are pressurizing governments to reduce the felling of trees and the clearing of forests and to be serious about replanting forests.

With the support of ordinary citizens like you and me, they will get the attention of the people in power. We can also help by planting trees. Members of this beautiful planet must be united. By preserving our forests, we are preserving ourselves.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พัน ๆ เอเคอร์ของป่าฝนเขียวชอุ่มไว้แต่ละปีให้พัฒนา ป่าสวย และงดงามครั้งจะลดลงเป็นภูมิประเทศที่แห้งแล้ง นี้คือเพื่อพัฒนา ความก้าวหน้าของมนุษย์ยัง เกิดอะไรขึ้นเมื่อถูกสรรต้นไม้ ประการแรก โลกที่เหลือเสี่ยงต่อการพังทลายของดิน ฝนร้อนหนักจะดำเนินไปคนรวย topsoil และที่ดินไม่ มี topsoil นั้นไม่จะอุดมสมบูรณ์ ช้า แต่ ลำ ชอุ่มที่จะอนุโลม wastelandประการที่สอง น้ำไหลจะไม่เพียงลบล้างการ topsoil แต่จะฝากได้ในแม่น้ำ เป็นผลให้ แม่น้ำจะเป็นเด็กเล็ก ๆ สามารถ ดัง น้ำท่วมจะเป็นบ่อยในพื้นที่ พันคนจะประสบในอุทกภัยครั้งนี้สังเกตอีกจุดคือป่าบ้านหลายร้อยพันธุ์ของพืชและสัตว์ สัตว์และพืชอยู่ในความสัมพันธ์ symbiotic ในสมดุลของธรรมชาติ มนุษย์ทำลายดุลนี้เมื่อเขา flattens ป่าไปพื้นดิน ที่ทำไปแล้ว คนดี และขนาดเล็กของป่าเหล่านี้ ไม่มีที่ไหน พวกเขาตาย ถ้านี้ไป ห่วงโซ่อาหารจะมีระหว่างสองวันนั้น เป็นสิ่งมีชีวิตขึ้นอยู่กับห่วงโซ่อาหาร คนสุดจะทำลายเขาเองแหล่งของอาหารที่ผ่านการทำลายป่าฝนเมื่อ หน่วยความจำที่ห่างไกลป่า ความจริงขยันจะตีเราเต็มแรง มนุษย์จะถูกโยนไปเป็นความทุกข์ความคับขันและทุกข์ทรมาน ผมกำลังพูดถึงคือ การขาดออกซิเจน ในขณะที่ตัดลงต้นไม้เพิ่มอีกชิ้นของเฟอร์นิเจอร์หรูหรากับชีวิตหรูหราแล้วผู้ชาย คนลืมว่า พวกเขายังตัดลงของอุปทานของออกซิเจนต้นไม้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่หายใจออก โดยสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ มันประมวลผลซ้ำ แล้ว ในสุด ผลิตออกซิเจนเสริมชีวิต ไม่ มีต้นไม้ ที่จะนี้ออกซิเจนมาจากไหน เราจะดำเนินการได้ในโรงงานหรือไม่ เวลาจะมาเมื่อคนที่จะต่อสู้เพื่อเขาเซ็ทอากาศมากนอกจากนี้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไปจะยังมีผลการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศไมโคร และเพิ่มอุณหภูมิของภูมิภาค จะมีเป็นเรือนกระจกบนโลก อากาศอบอุ่นและรังสีจะถูกขังอยู่ภายใต้บรรยากาศของโลก แล้ว เป็นอุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้น น้ำแข็งในขั้วโลกหมวกจะละลาย เพิ่มระดับน้ำทะเล น้ำท่วมดีจะตีพื้นที่อยู่ต่ำกว่าคุณสามารถดู มันเป็นวงจรการทายา การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมของเราจะทำปิดอื่นเปลี่ยนแปลงซึ่งจะแสดงออกได้อีก นี่เป็นเหตุผลที่เรา ควรรักษาความสมดุลของธรรมชาติ นี่คือเหตุผลที่เราควรจะรักษาป่าของเรา นี่คือเหตุผลที่กลุ่มนักมี pressurizing รัฐบาลลดตระเตรียมต้นและหักบัญชีของป่า และจะร้ายแรงเกี่ยวกับซีเมนส์ร่วมปลูกป่าด้วยการสนับสนุนของประชาชนทั่วไปเช่นคุณและฉัน พวกเขาจะได้รับความสนใจของประชาชนในอำนาจ นอกจากนี้เรายังสามารถช่วยปลูกต้นไม้ สมาชิกของโลกนี้สวยงามต้องเป็นสห โดยการรักษาป่าไม้ของเรา เราจะรักษาตนเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พันและหลายพันเอเคอร์ของป่าฝนอันเขียวชอุ่มจะถูกล้างในแต่ละปีเพื่อให้วิธีการพัฒนา ป่าครั้งหนึ่งที่สวยงามและน่าตื่นเต้นจะลดลงภูมิทัศน์เป็นหมัน นี่คือเพื่อประโยชน์ของการพัฒนาเพื่อความก้าวหน้าของคน.
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อมีการโค่นต้นไม้? ประการแรกโลกที่เหลือเสี่ยงต่อการพังทลายของดิน ฝนเขตร้อนหนักจะดำเนินไปดินที่อุดมไปด้วยและที่ดินโดยไม่ต้องดินของมันจะไม่อุดมสมบูรณ์ ช้า แต่มั่นคง, ต้นไม้เขียวชอุ่มจะให้วิธีการสูญเปล่า. ประการที่สองน้ำไหลจะไม่เพียง แต่ล้างออกดิน แต่จะฝากเงินไว้ในแม่น้ำ เป็นผลให้แม่น้ำจะกลายเป็นตื้น ดังนั้นน้ำท่วมจะกลายเป็นบ่อยในพื้นที่ หลายพันคนจะประสบน้ำท่วมเหล่านี้. จุดที่จะต้องทราบก็คือว่าป่ามีบ้านหลายร้อยชนิดของพืชและสัตว์ สัตว์และพืชที่มีชีวิตอยู่ในความสัมพันธ์ทางชีวภาพในการปรับสมดุลของธรรมชาติ มนุษย์ทำลายความสมดุลนี้เมื่อเขา flattens ป่าลงไปที่พื้น พวกเขาจะไปอยู่ที่ไหนแล้วคนที่อาศัยอยู่ที่ดีและเล็ก ๆ ของป่าเหล่านี้หรือไม่ ไม่มีที่ไหนเลย พวกเขาตาย ถ้าเรื่องนี้ไปในห่วงโซ่อาหารจะหยุดชะงัก ในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ขึ้นอยู่กับห่วงโซ่อาหารที่มนุษย์ถูกทำลายในที่สุดแหล่งที่มาของตัวเองของอาหารที่ผ่านการทำลายป่าฝน. เมื่อป่าไม้เป็นหน่วยความจำที่ห่างไกลความเป็นจริงที่น่าตกใจจะตีเราเต็มแรง มนุษย์จะถูกโยนเข้าสู่สถานะของความทุกข์ทรมานเป็นไปไม่ได้และความทุกข์ทรมาน สิ่งที่ผมพูดถึงคือการขาดออกซิเจน ในขณะที่การตัดต้นไม้เพื่อเพิ่มยังชิ้นส่วนของเฟอร์นิเจอร์หรูหราของมนุษย์ดำเนินชีวิตที่มั่งคั่งแล้วอีกคนลืมว่าพวกเขายังตัดลงอุปทานของเราออกซิเจน. ต้นไม้ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หายใจออกโดยสิ่งมีชีวิตแปรรูปมันและในท้ายที่สุด ผลิตออกซิเจนค้ำจุนชีวิต โดยไม่มีต้นไม้ที่จะออกซิเจนนี้มาจากไหน? เราจะดำเนินการในโรงงาน? เวลาจะมาถึงเมื่อคนที่จะต่อสู้เพื่ออากาศที่เขาหายใจ? นอกจากนี้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไปก็จะมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในสภาพภูมิอากาศขนาดเล็กและเพิ่มอุณหภูมิของภูมิภาคนี้ จะมีภาวะเรือนกระจกบนโลก; อากาศร้อนและการฉายรังสีจะได้รับการติดอยู่ใต้ชั้นบรรยากาศของโลก จากนั้นเป็นอุณหภูมิของโลกสูงขึ้นน้ำแข็งในขั้วโลกจะละลายยกระดับน้ำทะเล น้ำท่วมที่ดีจะตีพื้นที่ต่ำโกหก. ที่คุณสามารถดูมันเป็นวัฏจักรหิน การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมของเราจะเรียกออกการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะเรียกออกยังอีกอีก นี่คือเหตุผลที่เรา ควรจะรักษาความสมดุลของธรรมชาติ นี่คือเหตุผลที่เราควรจะรักษาป่าไม้ของเรา นี่คือเหตุผลที่กลุ่มสิ่งแวดล้อมกำลังอากาศกดรัฐบาลเพื่อลดการตัดโค่นต้นไม้และตัดไม้ทำลายป่าและการที่จะร้ายแรงเกี่ยวกับการปลูกป่า. ด้วยการสนับสนุนของประชาชนคนธรรมดาเช่นคุณและฉันที่พวกเขาจะได้รับความสนใจของผู้คนที่อยู่ในอำนาจ นอกจากนี้เรายังสามารถช่วยโดยการปลูกต้นไม้ สมาชิกของโลกที่สวยงามนี้จะต้องพร้อมใจกัน โดยการรักษาป่าไม้ของเราเราจะรักษาตัวเอง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หลายพันและหลายพันเอเคอร์ของป่าฝนอันเขียวชอุ่ม เคลียร์ในแต่ละปีเพื่อให้วิธีการพัฒนา ครั้งหนึ่งที่สวยงามและงดงาม ป่าไม้จะลดลงเพื่อภูมิทัศน์ที่แห้งแล้ง นี้เพื่อประโยชน์ของการพัฒนาเพื่อความก้าวหน้าของมนุษย์ .
แต่เกิดอะไรขึ้นถ้าต้นไม้ล้ม ? ประการแรก โลกที่เหลืออยู่มีความเสี่ยงต่อการกัดเซาะดินเขตร้อนชื้นฝนตกหนักจะขนเอาดินรวย และที่ดินโดยไม่ต้องของดินจะไม่อุดมสมบูรณ์ ช้า แต่อย่างต่อเนื่องพืชเขียวชอุ่มจะหลีกทางให้เลย

และน้ำไหลจะไม่เพียง แต่ล้างดิน แต่จะฝากมันไว้ในแม่น้ำ ผลคือ แม่น้ำจะตื้นขึ้นครับ . ดังนั้น น้ำท่วมจะกลายเป็นบ่อยในพื้นที่หลายพันคนต้องประสบในน้ำท่วมเหล่านี้

อีกหนึ่งจุดที่จะต้องทราบคือ ป่าคือบ้านหลายร้อยสายพันธุ์ของพืชและสัตว์ . สัตว์และพืชที่อาศัยอยู่ในความสัมพันธ์ symbiotic ในความสมดุลของธรรมชาติ มนุษย์ทำลายสมดุลนี้ เมื่อเขามีความแบนป่ากับพื้นดิน พวกเขาไปไหนแล้ว ชาว ดี และ เล็ก ๆ ของป่าเหล่านี้ ? ไม่มีที่ไหนเลย พวกเขาตาย ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปห่วงโซ่อาหารจะหยุดชะงัก เป็นสิ่งมีชีวิตที่ขึ้นอยู่กับโซ่อาหาร มนุษย์สุดทำลายแหล่งของตัวเองของอาหารที่ผ่านการทำลายป่าฝน .

เมื่อป่าเป็นหน่วยความจำไกล ความจริงที่น่าตกใจจะตีเราเต็มแรง มนุษย์จะต้องตกอยู่ในสถานะของทุกข์ที่คาดไม่ถึงและทรมาน สิ่งที่ผมพูดถึงคือการขาดออกซิเจนในขณะที่ตัดลงต้นไม้เพิ่มอีกชิ้นของเฟอร์นิเจอร์หรูไลฟ์สไตล์ที่สมบูรณ์แล้วของผู้ชาย คนลืมว่าพวกเขาจะตัดอุปทานของออกซิเจน

ต้นไม้ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ระบายลมหายใจออกโดยสิ่งมีชีวิตรีโพรเซส และสุดท้ายผลิตชีวิตยั่งยืนออกซิเจน โดยต้นไม้ที่ออกซิเจนนี้จะมาจากไหน เราจะดำเนินการในโรงงานจะเวลามาถึงเมื่อผู้ชายจะต่อสู้เพื่ออากาศที่หายใจร่วมกับเขา ?

นอกจากนี้ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มากเกินไปจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสภาพภูมิอากาศขนาดเล็กและเพิ่มของอุณหภูมิ จะมีผลกระทบเรือนกระจกบนโลก อากาศอบอุ่น และรังสีจะอยู่ภายใต้บรรยากาศของโลก เมื่ออุณหภูมิของโลกสูงขึ้น น้ำแข็งขั้วโลกจะละลายในหมวก ,การเพิ่มระดับน้ำทะเล น้ำท่วมใหญ่จะตีต่ำโกหกพื้นที่

อย่างที่คุณเห็น มันเป็นวงจรอุบาทว์ การเปลี่ยนแปลงในสภาพแวดล้อมของเราจะเรียกไปเปลี่ยนอีก ซึ่งทำให้เสร็จอีก นี่คือเหตุผลที่เรา ควรรักษาความสมดุลของธรรมชาติ นี่คือเหตุผลที่เราควรจะรักษาป่าของเรานี่คือเหตุผลที่กลุ่มนักสิ่งแวดล้อมกำลังอากาศกดภายในรัฐบาลเพื่อลดการตัดต้นไม้และการล้างของป่า และเป็นร้ายแรงเกี่ยวกับการทำสวนป่า

ด้วยการสนับสนุนของประชาชนคนธรรมดาเช่นคุณและฉัน พวกเขาจะได้รับความสนใจจากผู้คนในอำนาจ นอกจากนี้เรายังสามารถช่วยได้โดยการปลูกต้นไม้ สมาชิกของดาวเคราะห์ที่สวยงามนี้จะต้องสามัคคีกัน โดยรักษาป่าของเราเราจะรักษาตนเอง