2.4.1.2 เครื่องมือในการเก็บข้อมูลใช้แบบสอบถามซึ่งสร้างขึ้นมา จำนวน 2 ชุด มีรายละเอียดดังนี้
1) แบบสอบถามชุดที่ 1 การประเมินความเสี่ยงจากพิษตะกั่วและสารหนูของชุมชนใกล้พื้นที่ขุมเหมือง ประกอบด้วย 2 ตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 เป็นคำถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของเด็ก บิดาและมารดาของเด็ก ข้อมูลของเด็ก ได้แก่ เพศ อายุ การเข้าโรงเรียน อาชีพหลัก ระดับการศึกษา การเป็นสมาชิกกลุ่ม/องค์กรในชุมชน จำนวน 7 ข้อ
ตอนที่ 2 เป็นคำถามเกี่ยวกับข้อมูลพฤติกรรมเสี่ยงของเด็กต่อการสัมผัสตะกั่วและสารหนู จำนวน 6 ข้อ
2) แบบสอบถามชุดที่ 2 แบบสอบถามความรู้เกี่ยวกับปัญหาพิษตะกั่วและสารหนู มีลักษณะแบบเลือกตอบ คือ ถูกหรือผิด จำนวน 14 ข้อ มีเกณฑ์การให้คะแนนคือตอบถูกให้ 1 คะแนนและตอบผิดให้ 0 คะแนน
แบบสอบถามชุดที่ 1 เก็บในช่วงการประเมินการสัมผัส ส่วนชุดที่ 2 เก็บในช่วงการประเมินการสัมผัส และหลังการจัดการความเสี่ยงเพื่อนำมาเปรียบเทียบความแตกต่าง
3) การตรวจสอบเครื่องมือวิจัยเชิงปริมาณ ผู้วิจัยได้นำแบบสอบถามที่สร้างขึ้นโดยการทบทวนเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และตรวจสอบเครื่องมือวิจัยรายละเอียดดังนี้
(1) แบบสอบถามชุดที่ 1
แบบสอบถามชุดที่ 1 หาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (content validity) โดยขอคำแนะนำจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน ได้ตรวจสอบความเที่ยงตรงและความชัดเจนของภาษาให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ หลังจากผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาความตรงเชิงเนื้อหาแล้วสรุปผลโดยวัดดัชนีความเที่ยงตรง (Content validity index: CVI) โดยพิจารณาทีละข้อความว่า สอดคล้องกับทฤษฎีหรือเนื้อหาหรือไม่ เน้นที่ระดับความเห็นด้วยของผู้เชี่ยวชาญต่อข้อความนั้น ๆ แล้วนำมาคำนวณ ค่า CVI ซึ่ง ค่า CVI ที่ได้จากการพิจารณารายข้อ ที่ดีควรมีค่า > 0.80 (Polit and Beck, 2008) ผลการหาค่าความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา พบว่า จำนวน 12 ข้อ มีระดับคะแนน 3 และ 4 โดยนำมาหารด้วยจำนวนข้อคำถามทั้งหมด 13 ข้อ คิดเป็น 0.92 เป็นค่าที่ยอดมรับได้ ซึ่งมีเกณฑ์ในการพิจารณาให้คะแนนดังนี้คือ
1 หมายถึง ไม่สอดคล้อง
2 หมายถึง สอดคล้องน้อย
3 หมายถึง สอดคล้องค่อนข้างมาก
4 หมายถึง สอดคล้องมาก
(2) แบบสอบถามชุดที่ 2
แบบสอบถามชุดที่ 2 แบบวัดความรู้
แบบสอบถามชุดที่ 2 หาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา (content validity) โดยขอคำแนะนำจากผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน ได้ตรวจสอบความเที่ยงตรงและความชัดเจนของภาษาให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ หลังจากผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาความตรงเชิงเนื้อหาแล้วสรุปผลโดยวัดดัชนีความเที่ยงตรง (Content validity index: CVI) พบว่า จำนวน 13 ข้อ มีระดับคะแนน 3 และ 4 โดยนำมาหารด้วยจำนวนข้อคำถามทั้งหมด 14 ข้อ คิดเป็น 0.92 และหาค่าความเชื่อมั่นโดยสูตร KR-20 ของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน (Kuder-Richardson) ซึ่งใช้ทดสอบเฉพาะแบบสอบวัดที่ในแต่ละคำถามจะมี 2 ระดับคือ ถูก-ผิด ใช่-ไม่ใช่ เป็น-ไม่เป็น (หรือมีลักษณะ 0,1) ค่าความเชื่อมั่นที่คำนวณได้มีค่าเข้าใกล้ 1 แสดงว่ามีความเชื่อมั่นสูงมาก ทั้งนี้เครื่องมือที่มีมาตรฐานทั่ว ๆ ไปควรมีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.8 แต่ถ้าเป็นเครื่องมือที่สร้างและพัฒนาขึ้นควรมีความเชื่อมั่นอย่างน้อย 0.70 (สมชาย วรกิจเกษมสกุล, 2553) ในการศึกษาครั้งนี้ได้พัฒนาเครื่องมือขึ้นมา ได้ค่าความเชื่อมั่น 0.75 ซึ่งยอมรับได้