Monascus species have been known to

Monascus species have been known to produce at least six
molecular structures of pigments, which are classified into three
groups based on their colors, i.e., yellow pigments (monascin
(R = C5H11) and ankaflavin (R = C7H15)), orange pigments (monascorubrin
(R = C5H11) and rubropunctatin (R = C7H15)) (Fig. 1), as
well as red pigments (monascorubramine and rubropuntamine)
[1]. Red Yeast Rice, solid state fermentation of Monascus sp. on rice
with majority of red Monascus pigments as well as a few yellow
ones, has a long-term history as a source of food colorant in the
orient countries [2].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Monascus พันธุ์ได้ทราบว่าการผลิตอย่างน้อยหกโครงสร้างโมเลกุลของเม็ดสี ซึ่งแบ่งออกเป็นสามกลุ่มตามสี สีเหลือง เม็ดสี (monascin(R = C5H11) และ ankaflavin (R = C7H15)), สีส้ม (monascorubrin(R = C5H11) และ rubropunctatin (R = C7H15)) (รูปที่ 1), เป็นรวมทั้งเป็นสีแดง (monascorubramine และ rubropuntamine)[1] . ข้าวยีสต์แดง เอสพี Monascus ข้าวหมักสถานะของแข็งด้วยส่วนใหญ่ของ Monascus สีแดงสีเหลืองเช่นกี่คน มีประวัติระยะยาวเป็นแหล่งที่มาของสีของอาหารในการโอเรียนท์ประเทศ [2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Monascus สายพันธุ์ได้รับทราบในการผลิตอย่างน้อยหก
โครงสร้างโมเลกุลของเม็ดสีซึ่งจะแบ่งออกเป็นสาม
กลุ่มตามสีของพวกเขาคือสีเหลือง (monascin
(r = C5H11) และ ankaflavin (r = C7H15)) สีส้ม (monascorubrin
(r = C5H11) และ rubropunctatin (r = C7H15)) (รูปที่ 1). เช่น
เดียวกับเม็ดสีแดง (monascorubramine และ rubropuntamine)
[1] ข้าวยีสต์แดงหมักของรัฐที่มั่นคงของ Monascus SP ข้าวส่วนใหญ่ของเม็ดสี Monascus สีแดงเช่นเดียวกับสีเหลืองไม่กี่คนที่มีประวัติในระยะยาวเป็นแหล่งที่มาของสีอาหารในประเทศตะวันออก[2]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เชื้อราชนิดได้รับทราบเพื่อผลิตอย่างน้อยหกโครงสร้างโมเลกุลของเม็ดสี ซึ่งจะแบ่งเป็นสามกลุ่มบนพื้นฐานของพวกเขาคือ สี สี เหลือง ( โมเนสกิน( r = c5h11 ) และงคาฟลาวิน ( r = c7h15 ) , สีส้ม ( โมแน ครูบริน( r = c5h11 ) และรูโบรพังตาดิน ( r = c7h15 ) ) ( รูปที่ 1 ) เป็นเป็นสีแดง ( โมแนสโครูบรามีน และ rubropuntamine )[ 1 ] ข้าวยีสต์แดงแข็งสภาพการหมักเชื้อราในข้าว .กับส่วนใหญ่ของการผลิตสีผสมอาหารสีแดงเช่นเดียวกับบางเหลืองคน มีประวัติยาวเป็นแหล่งสารสีในอาหารOrient ประเทศ [ 2 ]