The three perspectives of empowerme

The three perspectives of empowerment are useful for
synthesizing available literature in relation to nursing student
empowerment. Researchers in Canada and the United States
found that a feminist pedagogy is effective in empowering
nursing students (Falk-Rafael et al. 2004). From an organization
perspective, researchers have used Kanter’s (1993)
structural empowerment theory as the basis for research: Siu
et al. (2005) reported that nursing students on a problembased
learning programme experienced greater structural
empowerment than students on a conventional programme
and this increased student motivation, confidence and selfdirection
toward learning. Similarly, Sinclair (2000) used
Kanter’s work as the basis for a qualitative study and
reported that environmental structures have an impact on
students’ perceptions of empowerment. These studies
advance understanding of the significance of structural empowerment in relation to nurse education, but they only
considered the experiences of final year baccalaureate nursing
students rather than a broader spectrum of experience.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มุมมองของอำนาจสามมีประโยชน์สำหรับสังเคราะห์มีวรรณกรรมเกี่ยวกับนักเรียนพยาบาลเสริมสร้างศักยภาพ นักวิจัยในแคนาดาและสหรัฐอเมริกาพบว่า การศึกษาในสตรีมีประสิทธิภาพในการกระจายอำนาจพยาบาลนักเรียน (ราฟาเอล Falk et al. 2004) จากองค์กรมุมมอง นักวิจัยได้ใช้ของ Kanter (1993)ทฤษฎีโครงสร้างอำนาจเป็นพื้นฐานสำหรับการวิจัย: Siuet al. (2005) รายงานว่า พยาบาลนักเรียน problembased การการเรียนรู้โปรแกรมโครงสร้างมีประสบการณ์ที่มากขึ้นเพิ่มขีดความสามารถมากกว่านักเรียนในโปรแกรมทั่วไปและเพิ่มแรงจูงใจของนักเรียน ความมั่นใจ และ selfdirectionต่อการเรียนรู้ ในทำนองเดียวกัน ซินแคลร์ (2000) ใช้งานของ Kanter เป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาเชิงคุณภาพ และรายงานว่า โครงสร้างสิ่งแวดล้อมมีผลต่อความเข้าใจของอำนาจ การศึกษาเหล่านี้ล่วงหน้าเข้าใจความสำคัญของอำนาจโครงสร้างเกี่ยวข้องกับการศึกษาพยาบาล แต่พวกเขาเท่านั้นถือว่าเป็นประสบการณ์ของพยาบาลตรีปีสุดท้ายนักเรียนมากกว่าในสเปกตรัมกว้างของประสบการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สามมุมมองของการเสริมสร้างพลังอำนาจมีประโยชน์สำหรับการ
สังเคราะห์เอกสารอ้างอิงที่มีความสัมพันธ์กับนักศึกษาพยาบาล
เพิ่มขีดความสามารถ นักวิจัยในแคนาดาและสหรัฐอเมริกา
พบว่าการเรียนการสอนเรียกร้องสิทธิสตรีมีประสิทธิภาพในการเสริมสร้างศักยภาพของ
นักศึกษาพยาบาล (Falk-ราฟาเอล et al. 2004) จากองค์กรที่
มุมมองของนักวิจัยได้ใช้ (1993) Kanter ของ
ทฤษฎีการเพิ่มขีดความสามารถที่มีโครงสร้างเป็นพื้นฐานสำหรับการวิจัย: งุด
et al, (2005) รายงานว่านักศึกษาพยาบาลในปัญหาเป็น
โปรแกรมการเรียนรู้ที่มีประสบการณ์มากขึ้นโครงสร้าง
เสริมสร้างพลังอำนาจกว่านักเรียนในโปรแกรมธรรมดา
และแรงจูงใจของนักเรียนที่เพิ่มขึ้นนี้ความเชื่อมั่นและ selfdirection
ที่มีต่อการเรียนรู้ ในทำนองเดียวกันซินแคล (2000) ที่ใช้ใน
การทำงานของมะยมเป็นพื้นฐานสำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพและ
มีรายงานว่าโครงสร้างด้านสิ่งแวดล้อมมีผลกระทบต่อ
การรับรู้ของนักเรียนเพิ่มขีดความสามารถ การศึกษาเหล่านี้
ความก้าวหน้าของความเข้าใจในความสำคัญของการเพิ่มขีดความสามารถของโครงสร้างในส่วนที่เกี่ยวกับการศึกษาพยาบาล แต่พวกเขาเท่านั้นที่
ถือว่าเป็นประสบการณ์ของปีสุดท้ายของบัณฑิตพยาบาล
นักเรียนมากกว่าคลื่นความถี่ที่กว้างขึ้นของประสบการณ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สามมุมมองของการเป็นประโยชน์สำหรับการสังเคราะห์วรรณกรรมที่มีอยู่ในความสัมพันธ์กับนักศึกษาพยาบาลเสริมสร้างพลังอำนาจ นักวิจัยในแคนาดาและสหรัฐอเมริกาพบว่า การสอนที่มีประสิทธิภาพในการพัฒนาสตรีนักศึกษาพยาบาล ( ฟอล์คราฟาเอล et al . 2004 ) จากองค์กรมุมมองของนักวิจัยได้ใช้แคนเตอร์ ( 2536 )ทฤษฎีการเสริมสร้างโครงสร้างเป็นพื้นฐานสำหรับการวิจัย : ซุยet al . ( 2005 ) รายงานว่านักศึกษาในหลักโปรแกรมการเรียนรู้ประสบการณ์มากกว่าโครงสร้างการเสริมสร้างพลังอำนาจสูงกว่านักเรียนในหลักสูตรปกติและเพิ่มแรงจูงใจ ความมั่นใจ และ selfdirectionที่มีต่อการเรียนรู้ ในทำนองเดียวกัน ซินแคลร์ ( 2000 ) ที่ใช้ขอบงานที่เป็นพื้นฐานสำหรับการศึกษาเชิงคุณภาพและรายงานว่ามีผลกระทบต่อโครงสร้างสิ่งแวดล้อมนักศึกษาเสริมสร้างพลังอำนาจ การศึกษาเหล่านี้ความเข้าใจล่วงหน้าของความสำคัญของการเสริมสร้างพลังอำนาจเชิงโครงสร้างด้านการศึกษาพยาบาล แต่พวกเขาถือว่าเป็นประสบการณ์ของพยาบาลปีสุดท้ายปริญญาตรีมากกว่านักเรียนสเปกตรัมกว้างของประสบการณ์