Increasing global cocoa demand in t

Increasing global cocoa demand in the new millennium has triggered farmers in developing countries to expandcocoa cultivation. A challenge is how to sustainably increase cocoa production without causing deforestation.We examine this trade-off around the Lore Lindu National Park in Indonesia and investigate the determinants ofenvironmental efficiency by applying a distance output function that includes cocoa production and rainforestplant abundance. We analyze 208 cocoa producers' variables from 2015 using both measured and self-reporteddata. We find that cocoa intensification results in higher ecosystem degradation, and that producers in oursample display a 50% mean efficiency. This low value points to the increased infestation of cocoa pod borer andthe failure of the Gernas government program. Increasing efficiency could lead to a win-win-win situation:higher cocoa production from fewer hectares, and with more native rainforest plants co-existing with cocoa onthose hectares. On average, efficiency scores suggest that there is scope to expand production by 367 kg of cocoaper farm and year on the existing planted area, to increase rainforest plants per 5 ∗ 5 m area by 109 whilemaintaining existing areas and production levels, or to reduce acreage by 0.52 ha per farm without reducingproduction.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพิ่มความต้องการโกโก้ระดับโลกในสหัสวรรษใหม่ได้เรียกเกษตรกรในประเทศกำลังพัฒนาที่จะขยาย
การเพาะปลูกโกโก้ ความท้าทายคือวิธีการเพิ่มการผลิตอย่างยั่งยืนโกโก้ไม่ก่อให้เกิดการทำลายป่า
เราตรวจสอบการออกรอบนี้ตำนาน Lindu อุทยานแห่งชาติในประเทศอินโดนีเซียและตรวจสอบปัจจัยของ
ประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมโดยการใช้ฟังก์ชั่นการส่งออกระยะที่มีการผลิตโกโก้และป่าดงดิบ
ที่อุดมสมบูรณ์ของพืช เราวิเคราะห์ตัวแปร 208 ผู้ผลิตโกโก้จาก 2015 ใช้ทั้งวัดและตนเองรายงาน
ข้อมูล เราพบว่าผลโกโก้แรงในการย่อยสลายของระบบนิเวศที่สูงขึ้นและผู้ผลิตของเราว่าใน
การแสดงผลตัวอย่าง 50% มีประสิทธิภาพเฉลี่ย ค่าต่ำนี้ชี้ไปรบกวนที่เพิ่มขึ้นของโกโก้ฝักและหนอนเจาะ
ความล้มเหลวของโครงการของรัฐบาล Gernas ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่ win-win-win ทั้ง:
การผลิตโกโก้เพิ่มขึ้นจากไร่น้อยลงและมีพืชป่าฝนพื้นเมืองมากขึ้นอยู่ร่วมกับโกโก้ใน
ไร่เหล่านั้น โดยเฉลี่ยคะแนนประสิทธิภาพการชี้ให้เห็นว่ามีขอบเขตที่จะขยายการผลิต 367 กิโลกรัมของโกโก้
ต่อฟาร์มและปีในพื้นที่เพาะปลูกที่มีอยู่เพื่อเพิ่มพืชป่าฝนต่อพื้นที่ม. 5 * 5 จาก 109 ในขณะ
ที่ยังคงรักษาพื้นที่ที่มีอยู่และระดับการผลิตหรือ ลดพื้นที่เพาะปลูกโดย 0.52 ฮ่าต่อฟาร์มโดยไม่ต้องลด
การผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เพิ่มความต้องการโกโก้ระดับโลกในสหัสวรรษใหม่ได้เรียกเกษตรกรในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อขยาย
การเพาะปลูกโกโก้ ความท้าทายคือวิธีการเพิ่มการผลิตโกโก้อย่างยั่งยืนโดยไม่ก่อให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า.
เราตรวจสอบการค้านี้ปิดรอบอุทยานแห่งชาติ Lore Lindu ในอินโดนีเซียและตรวจสอบปัจจัยของ
ประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมโดยการใช้ฟังก์ชั่นการส่งออกระยะทางที่รวมถึงการผลิตโกโก้และป่าฝน
พืชที่อุดมสมบูรณ์ เราวิเคราะห์ผู้ผลิตโกโก้๒๐๘ตัวแปรจาก๒๐๑๕โดยใช้ทั้งวัดและรายงานด้วยตนเอง
ข้อมูล เราพบว่าผลการเพิ่มความเข้มของโกโก้ในการย่อยสลายของระบบนิเวศที่สูงขึ้นและผู้ผลิตใน
ตัวอย่างการแสดงผลการมีประสิทธิภาพเฉลี่ย๕๐% จุดคุ้มค่าต่ำนี้เพื่อการทำลายที่เพิ่มขึ้นของน้ำโกโก้ฝักและ
ความล้มเหลวของโปรแกรมของรัฐบาล Gernas ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอาจนำไปสู่สถานการณ์ที่ชนะ:
การผลิตโกโก้ที่สูงขึ้นจากเฮกตาร์น้อยลงและมีพืชป่าฝนพื้นเมืองที่มีอยู่ร่วมกับโกโก้ใน
เฮกตาร์เหล่านั้น โดยเฉลี่ย, คะแนนประสิทธิภาพแนะนำว่ามีขอบเขตในการขยายการผลิตโดย๓๖๗กิโลกรัมของโกโก้
ต่อไร่และปีในพื้นที่ปลูกที่มีอยู่เพื่อเพิ่มพืชป่าฝนต่อ5∗5ม. โดย๑๐๙ในขณะที่
รักษาพื้นที่ที่มีอยู่และระดับการผลิต, หรือเพื่อลดการขุดโดย๐.๕๒ ha ต่อฟาร์มโดยไม่ลด
ผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั่วโลกสำหรับโกโก้ในสหัสวรรษใหม่ทำให้เกษตรกรในประเทศกำลังพัฒนาเพื่อขยาย
การปลูกโกโก้ ความท้าทายหนึ่งคือวิธีการเพิ่มผลผลิตโกโก้อย่างยั่งยืนโดยไม่ก่อให้เกิดการตัดไม้ทำลายป่า
เราตรวจสอบข้อเสียนี้ในอุทยานแห่งชาติ Lore lindu ในอินโดนีเซีย
การปรับปรุงประสิทธิภาพด้านสิ่งแวดล้อมโดยการใช้ฟังก์ชันการส่งออกระยะไกลรวมทั้งการผลิตโกโก้และป่าฝน
ความอุดมสมบูรณ์ของพืช เราใช้วิธีการวัดและการรายงานตนเองเพื่อวิเคราะห์ตัวแปรของผู้ผลิตโกโก้ 2015 ตั้งแต่ 208 ปี
ข้อมูล เราพบว่าการเสริมโกโก้จะทำให้ระบบนิเวศเสื่อมลงอย่างรุนแรง
ตัวอย่างแสดงถึงประสิทธิภาพเฉลี่ยของ 50 เปอร์เซ็นต์ ค่าต่ำนี้บ่งชี้ว่าการบุกรุกของมอดฝักโกโก้เพิ่มขึ้นและ
ความล้มเหลวของแผนของรัฐบาล เพิ่มประสิทธิภาพสามารถนำไปสู่สถานการณ์ชนะชนะ
ผลิตโกโก้ที่สูงขึ้นในที่ดินน้อยลงและพืชป่าฝนพื้นเมืองมากขึ้นอยู่ร่วมกับโกโก้
ไร่นั่น เฉลี่ยคะแนนประสิทธิภาพแสดงให้เห็นว่าผลผลิตโกโก้ยังคงมีพื้นที่เพื่อขยาย 367 กิโลกรัม
ต่อปีของฟาร์มและพื้นที่ปลูกที่มีอยู่ต่อปีพื้นที่ปลูกของป่าฝนเพิ่มขึ้น 109 ต่อ
รักษาพื้นที่ที่มีอยู่และระดับการผลิตหรือลดพื้นที่ที่ดินของแต่ละฟาร์มโดยไม่ต้องลดพื้นที่ที่ดิน
การผลิต