Generalizability theory (G-theory)

Generalizability theory (G-theory) allows us to estimate the magnitude of these sources of error simultaneously. Using G-theory, we could simulta examine the homogeneity of the items and the stability of the responses time, as well as the interaction of these two sources of error. The classical and common approach to G-theory "estimates sources of variation among scores within an analysis of variance framework' (Cardinet et al. 2010, p. viii). Using allows for the partitioning of variance into multiple sources, which can be crossed or nested. Although the topic of G-theory is incredibly important study of score reliability, providing a full treatment of the analytic technique s the scope of this book. Readers should consult Brennan (2001), Cardinet (2010), Meyer (2010), and Shavelson and Webb (1991), all of which provide horough introductions to the technique. We will now turn to the two major types of reliability evidence that are of most oncern for the affective instrument developer: internal consistency and stability

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎี generalizability (G-ทฤษฎี) ช่วยให้เราสามารถประเมินขนาดของแหล่งของข้อผิดพลาดเหล่านี้พร้อมกัน เราใช้ทฤษฎี G สามารถ simulta homogeneity ของสินค้าและความมั่นคงของเวลาตอบสนอง และการโต้ตอบเหล่านี้แหล่งที่สองของข้อผิดพลาดในการตรวจสอบได้ วิธีคลาสสิก และทั่วไป G-ทฤษฎี "ประเมินแหล่งของความแปรผันระหว่างคะแนนภายในกรอบการวิเคราะห์ผลต่างของ ' (Cardinet et al. 2010, p. viii) ใช้ได้สำหรับพาร์ทิชันของผลต่างในแหล่งต่าง ๆ ซึ่งสามารถข้าม หรือซ้อนกัน แม้ว่าหัวข้อของ G-ทฤษฎีจะศึกษาคะแนนความน่าเชื่อถือ การบำบัดน้ำเสีย s เทคนิคคู่ให้ขอบเขตของหนังสือเล่มนี้สำคัญอย่างเหลือเชื่อ ผู้อ่านควรปรึกษาเบรนแนน (2001), Cardinet (2010), Meyer (2010), และ Shavelson และเวบบ์ (1991), ซึ่งทั้งหมดให้เปิดตัว horough กับเทคนิค ตอนนี้เราจะเปิดสองสำคัญประเภทหลักฐานความน่าเชื่อถือที่มี oncern มากที่สุดสำหรับการพัฒนาเครื่องมือวัดผล: ความสอดคล้องภายในและความมั่นคง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎี generalizability (G-ทฤษฎี) ช่วยให้เราสามารถประเมินขนาดของแหล่งที่มาของข้อผิดพลาดเหล่านี้ไปพร้อม ๆ กัน ใช้ G-ทฤษฎีเราสามารถ Simulta ตรวจสอบความสม่ำเสมอของรายการและความมั่นคงของเวลาการตอบสนองเช่นเดียวกับการทำงานร่วมกันของทั้งสองแหล่งที่มาของข้อผิดพลาด วิธีคลาสสิกและร่วมกันเพื่อ G-ทฤษฎี "แหล่งประมาณการของการเปลี่ยนแปลงในหมู่คะแนนภายในกรอบการวิเคราะห์ความแปรปรวน (Cardinet et al. 2010 พี. viii). การใช้ช่วยให้การแบ่งพาร์ติชันของความแปรปรวนเป็นหลายแหล่งซึ่งสามารถข้าม หรือซ้อนกัน. แม้ว่าหัวข้อของ G-ทฤษฎีคือการศึกษาสำคัญอย่างเหลือเชื่อของความน่าเชื่อถือคะแนนให้การรักษาที่เต็มไปด้วยเทคนิคการวิเคราะห์ขอบเขตของหนังสือเล่มนี้. ผู้อ่านควรปรึกษาเบรนแนน (2001), Cardinet (2010) เมเยอร์ (2010) และ Shavelson และเวบบ์ (1991) ซึ่งทั้งหมดให้การแนะนำ horough เทคนิคตอนนี้เราจะหันไปสองประเภทหลักของหลักฐานที่น่าเชื่อถือที่มีมากที่สุด oncern สำหรับนักพัฒนาเครื่องมือที่ใช้อารมณ์. ความมั่นคงภายในและความมั่นคง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีการสรุปอ้างอิง ( g-theory ) ช่วยให้เราสามารถประเมินขนาดของแหล่งที่มาของข้อผิดพลาดเหล่านี้พร้อมกัน การใช้ g-theory เราสามารถ simulta ตรวจสอบความสม่ำเสมอของรายการและเสถียรภาพของการตอบสนองเวลา ตลอดจนปฏิสัมพันธ์ของทั้งสองแหล่งที่มาของข้อผิดพลาดวิธีการคลาสสิกและร่วมกันเพื่อ g-theory " ประมาณการแหล่งที่มาของการเปลี่ยนแปลงของคะแนนภายในกรอบการวิเคราะห์ความแปรปรวน ( cardinet et al . 2010 , หน้า 8 ) ใช้สำหรับการช่วยให้ความเป็นหลายแหล่งซึ่งสามารถข้ามหรือซ้อนกัน แม้ว่าเรื่องของ g-theory เป็นสำคัญการศึกษาความน่าเชื่อถือของคะแนนการให้การรักษาเต็มรูปแบบของเทคนิควิเคราะห์ด้วยขอบเขตของหนังสือเล่มนี้ ผู้อ่านควรปรึกษาเบรน ( 2001 ) , cardinet ( 2010 ) , เมเยอร์ ( 2010 ) และ shavelson และเว็บบ์ ( 1991 ) ซึ่งทั้งหมดนี้ให้ horough แนะนำตัวกับเทคนิค ตอนนี้เราจะกลายเป็นสองประเภทหลักของความน่าเชื่อถือของหลักฐานที่มี oncern ที่สุดสำหรับเครื่องมือทางอารมณ์ความสอดคล้องภายในและความมั่นคง