A TED talk, "Schools Kill Creativit

A TED talk, "Schools Kill Creativity," presented by Sir Ken Robinson, states very clearly how schools are destroying creativity by making art and music classes less important, and supporting the core subjects, which is completely true. Math, English, science, history; these are the four core classes at almost any public school. They entail logical thinking, step by step analysis by the student to solve a problem, and memorizing facts, dates, and other concrete pieces of data. Only in English are their any inventive assignments, and still most projects and essays have clear cut rules and outlines. Even physical education is quite often a required course. Music however, is not required. Art, not always required. These classes, strictly revolving around creative, none systematic thinking, and involve a very holistic mindset, help to improve upon the right-hand side of a human brain. Not requiring these courses only serves to cause that ingenuity to atrophy, since not much imagination is really used later on in life. Also, what about the standardized tests? The SAT, ACT, or any other standardized test? What do they do? They test purely upon the systematic intelligence of students. So, in order to gain entry into a college a student must be extremely proficient about handling concrete data, and creativity just doesn't matter the same amount. So what will students do to get into college? Not worry about art or music, because that won't get you a college degree; math or history will. So they will throw down their originality because they believe it to be pointless. Therefore, public schools around the world are taking ingenuity and crushing it to a pulp, to be discarded by the majority of students.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เท็ดพูดคุย "โรงเรียนฆ่าความคิดสร้างสรรค์ โดยเซอร์ Ken โรบินสัน ระบุอย่างชัดเจนว่าโรงเรียนจะทำลายความคิดสร้างสรรค์ โดยการเรียนศิลปะและดนตรีสำคัญ และสนับสนุนวิชาหลัก ซึ่งเป็นจริงอย่างสมบูรณ์ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาอังกฤษ ประวัติ หลักสี่ชั้นที่โรงเรียนสาธารณะเกือบทุกเหล่านี้ได้ พวกเขานำมาซึ่งการคิด การวิเคราะห์ โดยนักเรียนสามารถแก้ไขปัญหา ตรรกะและการ จำข้อเท็จจริง ต้องการ ชิ้นส่วนคอนกรีตอื่น ๆ ของข้อมูล เฉพาะในอังกฤษมีการกำหนดใด ๆ สร้างสรรค์ และยังคงส่วนใหญ่โครงการและเรียงความมีกฎตัดชัดเจนและเค้าร่าง แม้พละศึกษาเป็นหลักสูตรจำเป็นค่อนข้างบ่อย เพลงอย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็น ศิลปะ ไม่จำเป็น คลาสที่เหล่านี้ อย่างเคร่งครัดหมุนรอบสร้างสรรค์ ไม่มีระบบ คิด และเกี่ยวข้องกับความคิดแบบองค์รวมมาก ช่วยให้การปรับปรุงด้านขวาของสมองมนุษย์ เพียงไม่ต้องหลักสูตรเหล่านี้ทำหน้าที่ให้เกิดความฉลาดที่จะเสื่อม ตั้งแต่จินตนาการมากจริง ๆ ใช้ในภายหลังในชีวิต นอกจากนี้ คืออะไรเกี่ยวกับการทดสอบมาตรฐาน SAT, ACT หรือทดสอบมาตรฐานอื่น ๆ หรือไม่ พวกเขาทำอะไร พวกเขาทดสอบแท้จากเมื่อสติปัญญาของนักเรียนอย่างเป็นระบบ ดังนั้น เพื่อให้ได้เข้าเป็นนักเรียนต้องเก่งอย่างมากเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลคอนกรีต และความคิดสร้างสรรค์เพียงไม่ว่ากัน ดังนั้น จะเรียนอย่างไรจะเข้าวิทยาลัย ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับศิลปะหรือดนตรี เนื่องจากที่จะไม่รับปริญญาวิทยาลัย คณิตศาสตร์หรือประวัติศาสตร์จะ ดังนั้น พวกเขาจะโยนลงความคิดริเริ่มของพวกเขา เพราะพวกเขาเชื่อว่ามันเป็นอวกาศ ดังนั้น โรงเรียนสาธารณะทั่วโลกมีการประดิษฐ์คิดค้น และบดไปเยื่อ จะถูกละทิ้ง โดยส่วนใหญ่ของนักเรียน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พูดคุย TED "โรงเรียนฆ่าความคิดสร้างสรรค์" ที่นำเสนอโดยเซอร์เคนโรบินสันระบุอย่างชัดเจนว่าโรงเรียนจะทำลายความคิดสร้างสรรค์โดยการทำศิลปะและดนตรีชั้นเรียนมีความสำคัญน้อยและสนับสนุนวิชาหลักซึ่งเป็นจริงอย่างสมบูรณ์ คณิตศาสตร์ภาษาอังกฤษวิทยาศาสตร์ประวัติศาสตร์; เหล่านี้เป็นสี่ชั้นหลักเกือบโรงเรียนของรัฐใด ๆ พวกเขานำมาซึ่งการคิดเชิงตรรกะขั้นตอนโดยขั้นตอนการวิเคราะห์โดยนักเรียนในการแก้ปัญหาและการท่องจำข้อเท็จจริง, วันที่, และชิ้นส่วนคอนกรีตข้อมูลอื่น ๆ เฉพาะในภาษาอังกฤษของพวกเขาได้รับมอบหมายในการประดิษฐ์ใด ๆ และยังคงโครงการส่วนใหญ่และการเขียนเรียงความมีกฎระเบียบที่ชัดเจนและการแสดง แม้การศึกษาทางกายภาพค่อนข้างมักจะเป็นหลักสูตรที่จำเป็น เพลง แต่ไม่จำเป็นต้องใช้ ศิลปะไม่จำเป็นเสมอไป ชั้นเรียนเหล่านี้อย่างเคร่งครัดหมุนไปรอบ ๆ ความคิดสร้างสรรค์ไม่มีการคิดอย่างเป็นระบบและเกี่ยวข้องกับความคิดแบบองค์รวมมากช่วยในการปรับปรุงที่อยู่ข้างขวามือของสมองมนุษย์ ไม่จำเป็นต้องหลักสูตรเหล่านี้เพียงทำหน้าที่เพื่อก่อให้เกิดความฉลาดที่จะฝ่อว่าตั้งแต่ไม่ได้จินตนาการมากจะใช้จริงๆในภายหลังในชีวิต นอกจากนี้สิ่งที่เกี่ยวกับการทดสอบมาตรฐาน? SAT, ACT, หรือการทดสอบมาตรฐานอื่น ๆ ? พวกเขาทำอะไร? พวกเขาทดสอบอย่างหมดจดเมื่อปัญญาระบบของนักเรียน ดังนั้นเพื่อที่จะได้รับการเข้าสู่วิทยาลัยนักเรียนต้องมีความเชี่ยวชาญอย่างมากเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลที่เป็นรูปธรรมและความคิดสร้างสรรค์เพียงไม่สำคัญว่าปริมาณที่เท่ากัน ดังนั้นสิ่งที่นักเรียนจะได้ทำเพื่อให้ได้เข้าเรียนในวิทยาลัย? ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับศิลปะหรือเพลงเพราะที่จะไม่ได้รับปริญญาวิทยาลัย; คณิตศาสตร์หรือประวัติศาสตร์จะ ดังนั้นพวกเขาจะโยนลงความคิดริเริ่มของพวกเขาเพราะพวกเขาเชื่อว่ามันจะไม่มีจุดหมาย ดังนั้นโรงเรียนของรัฐทั่วโลกมีการใช้ความฉลาดและบดมันกับเยื่อกระดาษจะถูกยกเลิกโดยส่วนใหญ่ของนักเรียน