IntroductionThe United States (U.S.

Introduction
The United States (U.S.) is the largest consumer of petroleum
products in the world and is dependent on imports for meeting this
demand. The U.S. consumed about 20.7 million barrels/day of
petroleum products in 2007 out of which about 58% i.e., 12 million
barrels/day was imported (EIA, 2008a). It is predicted that the
gasoline consumption will further rise along with the rising population,
as it is a primary energy source for meeting non-commercial
transportation demand (EIA, 2008b). Due to increased use of
petroleum products like gasoline, the amount of greenhouse gases
released into the atmosphere has also shown a rising trend (EIA,
2008c). It was found that the transportation sector alone emitted
about 34% of the total carbon dioxide (CO2) released into the
atmosphere in 2005 i.e., 2007 million Mg (EIA, 2008d).
Because of rising energy dependency, increasing emissions of
greenhouse gases, and risks associated with the price fluctuations in
the international energy markets, federal and various state governments
have started to evolve new energy strategies in which the role
of various renewable energy sources is emphasized. Out of many
renewable energy resources (biomass, solar, wind, geothermal, tidal,
etc.), biomass is given a high priority as it is the only source which can
be directly utilized for production of various alternative transportation
fuels especially ethanol.
Using food crops for ethanol production raises concerns of food
security (Mitchell, 2008) and environmental degradation (Pimentel
and Patzek, 2005). Therefore, majority of the petroleum importing
countries (including U.S.) are interested in utilizing cellulosic biomass
as a feedstock for ethanol production. As U.S. has a large cellulosic
biomass production base (Perlack et al., 2005), production of ethanol
from cellulosic feedstock and utilizing it as a substitute for gasoline
could help in promoting rural development, reducing greenhouse
gases, and achieving energy independence. Therefore, the federal
government has announced various policy targets and incentives to
promote the production of cellulosic ethanol in the country. For
instance, the Energy Independence and Security Act of 2007 set a
target of producing 21 billion gallons of biofuels from cellulosic
feedstocks by 2022. Additionally, the recently enacted Farm Bill of 2008
provides a subsidy of $1.01 on every gallon of cellulosic ethanol
produced.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แนะนำ
สหรัฐอเมริกา (สหรัฐอเมริกา) เป็นผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดของปิโตรเลียม
ผลิตภัณฑ์ในโลก และขึ้นอยู่กับการนำเข้าสำหรับการประชุมนี้
ความต้องการ สหรัฐอเมริกาใช้ประมาณ 20.7 ล้านบาร์เรล/วันของ
ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมทั้งหมดซึ่งเกี่ยวกับ 58% เช่น 12 ล้าน
บาร์เรล/วันมีการนำเข้า (EIA, 2008a) จึงคาดว่า ที่การ
ปริมาณการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้นอีกพร้อมกับประชากรที่เพิ่มขึ้น,
ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับการประชุมไม่ใช่การค้า
ความต้องการขนส่ง (EIA, 2008b) เนื่องจากการใช้เพิ่มขึ้น
ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเช่นน้ำมันเบนซิน จำนวนก๊าซเรือนกระจก
ปล่อยบรรยากาศได้แสดงแนวโน้มเพิ่มขึ้น (EIA,
2008 c) พบว่า ภาคขนส่งเพียงอย่างเดียวออก
ประมาณ 34% รวมก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ปล่อย
บรรยากาศในปี 2005 เช่น 2007 ล้านมิลลิกรัม (EIA, 2008d) .
เนื่องจากพึ่งพาพลังงานเพิ่มขึ้น เพิ่มการปล่อยก๊าซของ
ก๊าซเรือนกระจก และเสี่ยงกับความผันผวนของราคาใน
พลังนานาชาติ รัฐบาลกลาง และรัฐบาลรัฐต่าง ๆ
ได้เริ่มพัฒนายุทธศาสตร์พลังงานใหม่ซึ่งบทบาท
แหล่งพลังงานทดแทนต่าง ๆ จะถูกเน้น จากหลาย
ทรัพยากรพลังงานหมุนเวียน (ชีวมวล พลังงานแสงอาทิตย์ ลม ความร้อนใต้พิภพ บ่า,
ฯลฯ), ชีวมวลได้มากเพราะเป็นแหล่งเดียวที่สามารถ
โดยตรงสามารถใช้สำหรับการผลิตการขนส่งทางเลือกต่าง ๆ
มาโดยเฉพาะเอทานอล
ใช้พืชอาหารสำหรับผลิตเอทานอลยกความกังวลอาหาร
ปลอดภัย (Mitchell 2008) และสร้างสิ่งแวดล้อม (Pimentel
และ Patzek, 2005) ดังนั้น ส่วนใหญ่ของการนำเข้าปิโตรเลียม
ประเทศ (รวมถึงสหรัฐอเมริกา) ที่สนใจในการใช้ชีวมวล cellulosic
เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตเอทานอล สหรัฐอเมริกามีขนาดใหญ่ cellulosic
ชีวมวลผลิตพื้นฐาน (Perlack et al., 2005), ผลิตเอทานอล
จาก cellulosic วัตถุดิบและใช้เป็นแทนน้ำมัน
สามารถช่วยในการส่งเสริมการพัฒนาชนบท การลดเรือนกระจก
ก๊าซ และบรรลุความเป็นอิสระการพลังงาน ดังนั้น กลาง
รัฐบาลได้ประกาศนโยบายเป้าหมายและแรงจูงใจต่าง ๆ
ส่งเสริมการผลิตเอทานอล cellulosic ในประเทศ สำหรับ
อินสแตนซ์ พลังงานอิสระและพระราชบัญญัติการรักษาความปลอดภัยชุด 2007 การ
เป้าหมายการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพจาก cellulosic แกลลอน 21 ล้าน
วมวล โดย 2022 นอกจากนี้ เมื่อเร็ว ๆ นี้ตราขึ้นฟาร์มส่วน 2008
ให้เงินสมทบของ $1.01 ทุกแกลลอน cellulosic เอทานอล
ผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทนำ
สหรัฐอเมริกา (US) เป็นผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดของปิโตรเลียม
ผลิตภัณฑ์ในโลกและจะขึ้นอยู่กับการนำเข้าสำหรับการประชุมนี้
ความต้องการ สหรัฐฯบริโภคเกี่ยวกับ 20,700,000 บาร์เรล / วันของ
ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในปี 2007 การที่เกี่ยวกับ 58% คือ 12 ล้าน
บาร์เรล / วันถูกนำเข้า (EIA, 2008a) เป็นที่คาดการณ์ว่า
การบริโภคน้ำมันต่อไปจะเพิ่มขึ้นพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของประชากรที่
เป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับการประชุมที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์
ความต้องการการขนส่ง (EIA, 2008b) เนื่องจากการใช้ที่เพิ่มขึ้นของ
ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเช่นน้ำมันเบนซินปริมาณของก๊าซเรือนกระจกที่
ปล่อยออกมาสู่ชั้นบรรยากาศได้แสดงให้เห็นยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น (EIA,
2008C) พบว่าภาคการขนส่งเพียงอย่างเดียวปล่อยออกมา
ประมาณ 34% ของก๊าซทั้งหมดคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ปล่อยออกสู่
บรรยากาศในปี 2005 เช่น 2007000000 Mg (EIA, 2008d)
เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของการพึ่งพาพลังงานที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้นของ
ก๊าซเรือนกระจกและ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของราคาใน
ตลาดพลังงานระหว่างประเทศที่รัฐบาลกลางและรัฐต่างๆ
ได้เริ่มต้นที่จะพัฒนากลยุทธ์พลังงานใหม่ในการที่บทบาท
ของแหล่งพลังงานหมุนเวียนต่างๆจะเน้น ออกมาจากหลาย
แหล่งพลังงานหมุนเวียน (ชีวมวลพลังงานแสงอาทิตย์ลมความร้อนใต้พิภพน้ำขึ้นน้ำลง,
ฯลฯ ) ชีวมวลจะได้รับการจัดลำดับความสำคัญสูงที่สุดเท่าที่จะเป็นแหล่งเดียวที่สามารถ
นำไปใช้โดยตรงในการผลิตที่แตกต่างกันทางเลือกการขนส่ง
เชื้อเพลิงเอทานอลโดยเฉพาะอย่างยิ่ง
อาหารที่ใช้ พืชสำหรับการผลิตเอทานอลเพิ่มความกังวลของอาหาร
การรักษาความปลอดภัย (Mitchell, 2008) และการทำลายสิ่งแวดล้อม (Pimentel
และ Patzek 2005) ดังนั้นส่วนใหญ่ของปิโตรเลียมที่นำเข้า
ประเทศ (รวมทั้งสหรัฐอเมริกา) มีความสนใจในการใช้ประโยชน์จากชีวมวลเซลลูโลส
เป็นวัตถุดิบในการผลิตเอทานอล ในขณะที่สหรัฐมีเซลลูโลสขนาดใหญ่
ฐานการผลิตชีวมวล (Perlack et al., 2005) การผลิตเอทานอล
จากวัตถุดิบเซลลูโลสและใช้มันแทนน้ำมันเบนซิน
จะช่วยในการส่งเสริมการพัฒนาชนบทลดเรือนกระจก
ก๊าซและบรรลุความเป็นอิสระด้านพลังงาน ดังนั้นรัฐบาลกลาง
รัฐบาลได้ประกาศเป้าหมายนโยบายต่างๆและแรงจูงใจที่จะ
ส่งเสริมการผลิตเอทานอลเซลลูโลสในประเทศ สำหรับ
เช่นพลังงานอิสรภาพและความมั่นคงของพระราชบัญญัติของปี 2007 ตั้ง
เป้าการผลิต 21000000000 แกลลอนเชื้อเพลิงชีวภาพจากเซลลูโลส
วัตถุดิบโดยปี 2022 นอกจากนี้เมื่อเร็ว ๆ นี้ตราฟาร์มบิล 2008
ให้เงินอุดหนุนของ $ 1.01 แกลลอนในเอทานอลเซลลูโลสทุก
ผลิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทนำ
ประเทศสหรัฐอเมริกา ( สหรัฐอเมริกา ) เป็นผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม
ในโลกและจะขึ้นอยู่กับการนำเข้าสำหรับการประชุมความต้องการนี้

สหรัฐอเมริกาบริโภคประมาณ 20.7 ล้านบาร์เรล / วัน
ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในปี 2007 จากที่ประมาณ 58 % คือ 12 ล้านบาร์เรล / วัน
นำเข้า ( EIA , 2008a ) มีการคาดการณ์ว่า
การบริโภคน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้นต่อไปพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของประชากร ,
มันเป็นแหล่งพลังงานหลักสำหรับการประชุมความต้องการการขนส่งที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์
( EIA , 2008b ) เนื่องจากการใช้งานที่เพิ่มขึ้นของ
ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมเช่นน้ำมัน , ปริมาณของก๊าซเรือนกระจก
ปล่อยสู่บรรยากาศได้แสดงแนวโน้มที่เพิ่มขึ้น ( EIA ,
2008c ) พบว่าภาคการขนส่งที่ปล่อย
อยู่คนเดียวเกี่ยวกับ 34% ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2 ) ออกสู่บรรยากาศ เช่น
ในปี 2005 , 2007 ล้านมิลลิกรัม ( EIA , 2008d ) .
เพราะ Rising พึ่งพาพลังงาน เพิ่มการปล่อย
ก๊าซเรือนกระจก และความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความผันผวนของราคาในตลาดพลังงานระหว่างประเทศ
รัฐบาลกลางและรัฐบาลของรัฐต่างๆ
มี เริ่มพัฒนายุทธศาสตร์พลังงานใหม่ที่มีบทบาท
พลังงานทดแทนจากแหล่งพลังงานต่าง ๆเน้น จากแหล่งพลังงานหลาย
พลังงานทดแทน ( ชีวมวล พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพน้ำขึ้นน้ำลง
, ชีวมวล , ฯลฯ ) จะได้รับลำดับความสำคัญสูงเป็นแหล่งเดียวที่สามารถใช้สำหรับ
โดยการผลิตต่าง ๆการขนส่งทางเลือก

โดยเฉพาะเชื้อเพลิงเอทานอล โดยใช้พืชอาหารสำหรับการผลิตเอทานอลเพิ่มความกังวลความปลอดภัยของอาหาร
( มิเชล2008 ) และความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ( ไพเมนเทิล
และ patzek , 2005 ) ดังนั้นส่วนใหญ่ของปิโตรเลียมเข้าประเทศ ( รวมทั้งสหรัฐอเมริกา
) มีความสนใจในการใช้ชีวมวล cellulosic
เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตเอทานอล ขณะที่สหรัฐมีขนาดใหญ่ฐานการผลิตชีวมวล cellulosic
( perlack et al . , 2005 ) , การผลิตเอทานอลจากเซลลูโลส
วัตถุดิบและใช้มันแทนเบนซิน
สามารถช่วยในการส่งเสริมการพัฒนาชนบท การลดก๊าซเรือนกระจก
, และบรรลุความเป็นอิสระด้านพลังงาน ดังนั้น รัฐบาลได้ประกาศนโยบายเป้าหมายต่าง ๆ

และแรงจูงใจเพื่อส่งเสริมการผลิตเซลลูโลสเอทานอลในประเทศ สำหรับ
เช่น สุริยาตั้ง
21 พันล้านแกลลอนของเป้าหมายของการผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพจากเซลลูโลส
วัตถุดิบโดย 2022 . นอกจากนี้ เมื่อเร็ว ๆนี้ตราขึ้นบิลฟาร์ม 2008
ให้อุดหนุนของ $ 1.01 ทุกแกลลอนของเซลลูโลส
ผลิต