Competing with Google, UberPrivate

Competing with Google, Uber

Private companies have turned in proposals to work with the state, including nuTonomy, which makes software for vehicles. Chief operating officer Doug Parker said the collaboration would allow far more testing than most businesses could manage alone. Singapore wants to roll out unmanned trucks and buses, too, but if it succeeds, Parker also expects firms to adapt the technology for the consumer market.

“Expanded on-road testing allows us to develop our technology more quickly, as well as prove to the buyers of the technology that it works,” he said. “And so that’s going to help level the playing field, long run. It’ll help smaller companies like nuTonomy compete with big companies like Google or Uber.”

But safety concerns are the main hurdle to becoming a society of smart cars. No matter how many scenarios are programmed into the car’s computer, it’s likely to meet an unfamiliar situation. That’s when the machine has to make decisions, and convince the public that it can minimize crashes.

“Humans and human driving is very unpredictable,” said Han Boon Siew, head of the autonomous vehicle department at the state’s Agency for Science, Technology and Research (A*STAR). “This is where the autonomous vehicle needs to continuously learn the characteristics of the urban canyon and even complex situations like road works and construction.”

The other big obstacle, Han said, is weather. His team is working to ensure the technology can withstand adverse and fluctuating conditions. Tropical Singapore experiences heavy and frequent rainfall, as well as rancid haze wafting over from Indonesia’s forest fires.

For a peek at how far the science has advanced, one only has to go to the Gardens by the Bay. The park in downtown Singapore will let visitors hop in autonomous vehicles during test drives in December and integrate them into park services by the spring, Pang said. But he thinks self-driving cars will really hit the road as early as 2025.

“If all I’m thinking about for the 2030s is a town no different from today, then that can’t be exciting enough in terms of a future that Singaporeans aspire to,” Pang said. Instead, he imagines a city-state where more people give up private cars and choose to walk, cycle, or take public transit comprised in part of driverless buses and shuttles. “I don’t think it’s farfetched. It just takes will to get there.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แข่งขันกับ Google รสนิยมบริษัทเอกชนได้เปิดในข้อเสนอการทำงานกับรัฐ nuTonomy ซึ่งทำให้ซอฟต์แวร์สำหรับยานพาหนะรวมทั้ง ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติ Doug คเกอร์กล่าวว่า ความร่วมมือจะช่วยให้การทดสอบเพิ่มเติมไกลกว่าธุรกิจส่วนใหญ่สามารถจัดการคนเดียว สิงคโปร์ต้องการม้วนไม่รถบรรทุกและรถบัส เกินไป แต่ถ้ามันสำเร็จ ปาร์คเกอร์ยังคาดบริษัทปรับเทคโนโลยีสำหรับตลาดผู้บริโภค"ขยายบนถนนทดสอบช่วยให้เราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีของเราได้เร็วขึ้น รวมทั้งพิสูจน์ให้ผู้ซื้อเทคโนโลยีที่ทำงาน, " เขากล่าวว่า "และเพื่อ ที่จะไปช่วยระดับเขตเล่น ทำงานยาวนานขึ้น มันจะช่วยให้บริษัทขนาดเล็กเช่น nuTonomy ที่แข่งขันกับบริษัทใหญ่เช่น Google หรือรสนิยม"แต่ความกังวลความปลอดภัยมีรั้วกระโดดข้ามหลักจะกลายเป็น สังคมของรถสมาร์ท ไม่ว่าสถานการณ์การถูกโปรแกรมไว้ในคอมพิวเตอร์ของรถยนต์ จึงเป็นแนวโน้มที่จะตอบสนองสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย คือเมื่อเครื่องจักรมี การตัดสินใจ มั่นใจประชาชนว่า มันจะลดการเกิดปัญหา"มนุษย์และมนุษย์ขับรถมากไม่แน่นอน, " กล่าวว่า ฮันบุญแท้ หัวหน้าภาควิชาปกครองรถที่หน่วยงานของรัฐสำหรับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และการวิจัย (A * ดาว) "นี้เป็นที่ต้องเรียนรู้ลักษณะของเมืองแคนยอนและสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้เช่นงานถนนและงานก่อสร้างอย่างต่อเนื่องรถอิสระ"อื่น ๆ บิ๊กอุปสรรค ฮั่นกล่าว มีอากาศ ทีมงานของเขาจะทำให้เทคโนโลยีสามารถทนต่อเงื่อนไขร้าย และความ เขตร้อนสิงคโปร์ประสบฝนตกหนัก และบ่อย เป็น rancid เมฆหมอก wafting เหนือจากไฟป่าอินโดนีเซียสำหรับมองในศาสตร์มีขั้นสูงเท่าใด หนึ่งเฉพาะได้เพื่อไปยังสวนบายเดอะเบย์ พาร์คในสิงคโปร์จะให้ผู้เข้าชม hop ในยานพาหนะเขตปกครองตนเองในระหว่างทดสอบไดรฟ์ในเดือนธันวาคม และรวมเป็นจอดบริการ โดยฤดูใบไม้ผลิ ปางกล่าว แต่เขาคิดว่า ตนเองขับรถจริง ๆ จะตีอยู่ก่อนเป็น 2025"ถ้า ทั้งหมดที่ผมกำลังคิดใน 2030s การเมืองไม่แตกต่างจากวันนี้ แล้วที่ไม่เป็นที่น่าตื่นเต้นในอนาคตที่ยังสิงคโปร์คาดหวังที่จะเพียงพอ, " ปางกล่าวว่า แทน เขาจินตนาการ-นครรัฐที่คนให้ขึ้นรถยนต์ส่วนตัว และเลือกที่จะเดิน รอบ หรือใช้ขนส่งสาธารณะที่ประกอบด้วยในส่วนของ driverless รถโดยสารและรถรับส่ง "ฉันไม่คิดว่า มัน farfetched ห้องพักก็จะเดิน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การแข่งขันกับ Google Uber บริษัท ภาคเอกชนจะมีการเปิดในข้อเสนอที่จะทำงานร่วมกับรัฐรวมทั้ง nuTonomy ซึ่งจะทำให้ซอฟแวร์สำหรับยานพาหนะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการดั๊กปาร์กเกอร์กล่าวว่าการทำงานร่วมกันจะช่วยให้การทดสอบมากเกินกว่าที่ธุรกิจส่วนใหญ่สามารถจัดการคนเดียว สิงคโปร์ต้องการที่จะแผ่ออกรถไร้คนขับรถได้อีกด้วย แต่ถ้ามันประสบความสำเร็จปาร์กเกอร์ยังคาดว่า บริษัท จะปรับตัวเทคโนโลยีสำหรับตลาดผู้บริโภค. "ขยายบนถนนทดสอบช่วยให้เราในการพัฒนาเทคโนโลยีของเรามากขึ้นได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกับการพิสูจน์ ผู้ซื้อของเทคโนโลยีที่ทำงาน "เขากล่าว "และเพื่อที่จะช่วยให้ระดับสนามเด็กเล่นระยะยาว มันจะช่วยให้ บริษัท ขนาดเล็กเช่น nuTonomy แข่งขันกับ บริษัท ขนาดใหญ่เช่น Google หรือ Uber. "แต่กังวลด้านความปลอดภัยที่เป็นอุปสรรค์สำคัญที่จะกลายเป็นสังคมของรถยนต์สมาร์ท ไม่ว่ากี่สถานการณ์มีโปรแกรมลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ของรถก็มีแนวโน้มที่จะตอบสนองที่ไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ นั่นคือเมื่อเครื่องมีในการตัดสินใจและโน้มน้าวให้ประชาชนที่จะสามารถลดการเกิดปัญหา. "มนุษย์และการขับรถของมนุษย์เป็นที่คาดเดาไม่มาก" ฮันบุญซิวกล่าวว่าหัวหน้าแผนกยานพาหนะในกำกับของรัฐในหน่วยงานของรัฐวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการวิจัย (ดวงดาว). "นี่คือที่รถตนเองต้องการที่จะเรียนรู้อย่างต่อเนื่องลักษณะของหุบเขาเมืองและสถานการณ์ที่ซับซ้อนได้ชอบผลงานการก่อสร้างถนนและ." อุปสรรคใหญ่อื่น ๆ ฮันกล่าวว่าเป็นสภาพอากาศ ทีมงานของเขาคือการทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีสามารถทนต่อสภาพที่เลวร้ายและมีความผันผวน ประสบการณ์ทรอปิคอลสิงคโปร์ฝนตกหนักและบ่อยครั้งเช่นเดียวกับหมอกควันเหม็นหืนโชยมาจากอินโดนีเซียไฟไหม้ป่า. สำหรับการมองที่ว่าไกลวิทยาศาสตร์ได้สูงคนหนึ่งเท่านั้นที่มีการไปที่สวนโดยเบย์ ที่จอดรถในตัวเมืองสิงคโปร์จะช่วยให้ผู้เข้าชมกระโดดในยานพาหนะของตนเองในระหว่างการไดรฟ์ทดสอบในเดือนธันวาคมและรวมไว้ในบริการที่จอดในฤดูใบไม้ผลิปางกล่าวว่า แต่เขาคิดว่ารถตัวเองขับรถจริงๆจะตีถนนเป็นช่วงต้นปี 2025 "หากสิ่งที่ฉันคิดเกี่ยวกับการ 2030s เป็นเมืองที่ไม่แตกต่างจากวันนี้แล้วที่ไม่สามารถเป็นที่น่าตื่นเต้นมากพอในแง่ของการดำเนินงานในอนาคตว่า สิงคโปร์ปรารถนาที่จะ "ปางกล่าวว่า แต่เขานึกเมือง-รัฐที่ผู้คนจำนวนมากให้ขึ้นรถยนต์ส่วนตัวและเลือกที่จะเดินไปรอบหรือใช้การขนส่งสาธารณะประกอบด้วยในส่วนของคนขับรถโดยสารและรถรับส่ง "ผมไม่คิดว่ามันเป็น farfetched มันใช้เวลาเพียงประสงค์ที่จะได้รับมี. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แข่งขันกับ Google , บริษัท เอกชน uber

ได้เปิดในข้อเสนอที่จะทำงานกับรัฐ รวมทั้ง nutonomy ซึ่งทำให้ซอฟต์แวร์สำหรับยานพาหนะ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ดั๊กปาร์คเกอร์กล่าวว่าความร่วมมือจะช่วยให้การทดสอบมากกว่าธุรกิจส่วนใหญ่สามารถจัดการคนเดียว สิงคโปร์ต้องการที่จะแผ่ออกคนขับรถบรรทุกและรถโดยสารด้วย แต่ถ้ามันสำเร็จปาร์คเกอร์ ยังคาดว่าบริษัทจะปรับให้เข้ากับเทคโนโลยีสำหรับตลาดผู้บริโภค

" ขยายถนนทดสอบที่ช่วยให้เราสามารถพัฒนาเทคโนโลยีของเราได้รวดเร็วยิ่งขึ้น รวมทั้งพิสูจน์ให้ผู้ซื้อของเทคโนโลยีที่ได้ " เขากล่าว " และเพื่อที่จะช่วยให้ระดับสนามเล่นยาว มันก็จะช่วยให้ บริษัท ขนาดเล็ก เช่น nutonomy แข่งขันกับบริษัทใหญ่ๆ เช่น Google หรือปรากฏการณ์ "

แต่ความกังวลด้านความปลอดภัยมีอุปสรรค์หลัก เป็นสังคมของรถสมาร์ท ไม่ว่าสถานการณ์หลายเป็นโปรแกรมลงในคอมพิวเตอร์ของรถ มันน่าจะตรงกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย นั่นคือ เมื่อเครื่องได้ตัดสินใจ และโน้มน้าวให้ประชาชนที่สามารถลดการเกิดปัญหา

" มนุษย์และทำให้มนุษย์คาดไม่ถึง " ฮันบุนซิ่วกล่าวว่า ,หัวของแผนกยานพาหนะในกำกับของรัฐหน่วยงานวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและการวิจัย ( * * * * ดาว ) " นี่รถของความต้องการอย่างต่อเนื่องเรียนรู้ลักษณะของแคนยอนเมืองและแม้กระทั่งที่ซับซ้อนสถานการณ์เช่นงานถนนและการก่อสร้าง . "

อุปสรรคใหญ่อื่น ๆ , ฮาน บอกว่า คือ สภาพอากาศทีมงานของเขากำลังทำงานเพื่อให้มั่นใจว่าเทคโนโลยีสามารถทนต่อยาปรับเงื่อนไข เขตร้อนของสิงคโปร์ประสบการณ์หนักและบ่อยปริมาณน้ำฝนรวมทั้งเหม็นหืนโชยมา จากอินโดนีเซีย หมอกควันไฟป่า

เพื่อแอบดูวิธีไกลวิทยาศาสตร์ขั้นสูง เดียวต้องไปสวนที่อ่าวสวนสาธารณะในเมืองสิงคโปร์จะช่วยให้ผู้เข้าชมในยานพาหนะในช่วงทดสอบไดรฟ์ในเดือนธันวาคม และรวมไว้ในบริการจอดรถฤดูใบไม้ผลิ ปาง กล่าว แต่เขาคิดว่าตนเองขับรถยนต์จะตีถนนเร็ว 2025

" ถ้าทั้งหมดที่ฉันคิดเกี่ยวกับการ 2030s เป็นเมืองไม่ต่างจากวันนี้แล้วที่ไม่ตื่นเต้นพอในแง่ของอนาคตที่สิงคโปร์หวัง " แป้ง กล่าว แทน เขาคิดว่าเป็นเมืองที่ผู้คนมากขึ้นให้รถส่วนตัว และเลือกที่จะเดินวงจรหรือใช้ขนส่งสาธารณะตั้งแต่ในส่วนของรถโดยสารและรถรับส่ง driverless . " ผมไม่คิดว่ามันไกลเกินเอื้อมไปหน่อย มันก็จะใช้เวลาที่จะได้รับมี .