Background: The systematic applicat

Background: The systematic application of Pap test helps early diagnosis and effective treatment of cervical cancer. This study was conducted to assess the effect of education on health beliefs and practice of women eligible for Pap test using Health Belief Model (HBM).

Methods: This quasi-experimental study was conducted in Hamadan City, the west of Iran, in 2010 using before-after design. In this study, 70 women aged 16 to 54 years participated voluntarily who had never done Pap test until the date of the study. The volunteers were divided into several small groups. For each group, 2-hour training session was held twice. The data collection tool was a self-administered multi-choice questionnaire that was developed based on HBM constructs. Health beliefs and practice of the target group were evaluated pre-intervention and four months later.

Results: Our findings indicated that education based on HBM was effective and could enhance the participants' knowledge significantly and improve the HBM constructs including perceived susceptibility, severity, benefits, and barriers. The training program enhanced the practice from zero before intervention to 81.4% after that. The results of the present study revealed that increase in knowledge had effect on the HBM constructs. Furthermore, there was a significant relationship between knowledge and both age and educational level.

Conclusion: Health education based on HBM can enhance women's knowledge of cervical cancer, change their health beliefs and improve their behaviors regarding screening programs like Pap test.

Keywords: Health Belief Model, Knowledge, Practice, Pap test

Introduction

Cervical cancer, caused by Human Papilloma Virus (HPV), is the second most common cancer in women worldwide 1. It is also an important leading cause of death from neoplasm among women in low-income countries 2. HPV infection is common and preventable and now widely established as a necessary risk factor associated with the development of almost all cases of cervical cancer 3.

Despite its invasive characteristics, due to having a long incubation period, cervical cancer can be detected in early pre-invasive stage by the systematic application of a screening Pap test 4. A single negative Pap test reduces the risk of cervical cancer to 45% and nine negative tests during lifetime reduce the risk to 1% 5. In developing countries, the knowledge of cervical cancer importance is limited among general population and even among health workers and policy makers. The quality of screening programs and health care is also poor 6.

The systematic application of Pap test in women is depended on their knowledge, attitudes, beliefs and behaviors regarding this effective screening program 7. The Health Belief Model (HBM) is one of the most famous frameworks, which are widely used for understanding health behavior. The rationale of HBM is based on that people often take health-related actions if they feel those actions can prevent negative health outcomes. HBM consists of various constructs including perceived susceptibility, severity, barriers, and benefits; in addition to self efficacy, cues to action, and health action 8.

We conducted the present study to assess the effect of training using the HBM in order to promote women's knowledge and change their health beliefs to do Pap test.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง: การประยุกต์ใช้ระบบการทดสอบช่วยวินิจฉัยก่อนและผลการรักษามะเร็งปากมดลูก การศึกษานี้ได้ดำเนินการประเมินผลของการศึกษาบนความเชื่อสุขภาพและปฏิบัติของผู้หญิงมีสิทธิ์ในการทดสอบโดยใช้แบบจำลองความเชื่อสุขภาพ (HBM)วิธี: การศึกษากึ่งทดลองนี้ได้ดำเนินการในเมือง Hamadan ทิศตะวันตกของประเทศอิหร่าน ในปี 2553 การใช้ก่อนหลังออกแบบ ในการศึกษานี้ 70 หญิงอายุ 16-54 ปีเข้าร่วมด้วยความสมัครใจที่ไม่เคยได้ทำการทดสอบจนถึงวันที่ของการศึกษา อาสาสมัครถูกแบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ สำหรับแต่ละกลุ่ม อบรม 2 ชั่วโมงถูกจัดขึ้นสองครั้ง เครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลมีการปกครองตนเองหลายแบบสอบถามที่ได้รับการพัฒนาตามโครงสร้าง HBM สุขภาพความเชื่อและการปฏิบัติของกลุ่มเป้าหมายถูกแทรกแซงก่อนค่าและสี่เดือนต่อมาผลลัพธ์: ผลการวิจัยของเราระบุว่า ศึกษาตาม HBM มีประสิทธิภาพ และสามารถเพิ่มความรู้ของผู้เรียนอย่างมีนัยสำคัญ และปรับปรุงโครงสร้าง HBM ที่ภูมิไวรับรับรู้ ความรุนแรง ประโยชน์ และอุปสรรค โปรแกรมการฝึกอบรมขั้นสูงการฝึกจากศูนย์ก่อนที่จะแทรกแซง 81.4% หลังจากนั้น ผลของการศึกษาปัจจุบันเปิดเผยว่า เพิ่มความรู้มีผลต่อโครงสร้าง HBM นอกจากนี้ มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างความรู้ทั้งอายุ และระดับการศึกษาสรุป: การศึกษาสุขภาพตาม HBM สามารถเพิ่มความรู้มะเร็งปากมดลูกของสตรี เปลี่ยนความเชื่อของพวกเขาสุขภาพ และปรับปรุงทำงานเกี่ยวกับโปรแกรมคัดกรองเช่นการทดสอบคำสำคัญ: สุขภาพความเชื่อรูปแบบ ความรู้ แบบฝึกหัด ทดสอบแนะนำมะเร็งปากมดลูก เกิดโดยมนุษย์ Papilloma ไวรัส (HPV), เป็นโรคมะเร็งมากที่สุดอันดับสองในสตรีทั่วโลก 1 นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุสำคัญของความตายจากเนื้องอกของสตรีในประเทศแนซ์ 2 ติดเชื้อ HPV ได้ทั่วไป และ preventable และขณะนี้มากขึ้นเป็นปัจจัยเสี่ยงจำเป็นเกี่ยวข้องกับการพัฒนาของมะเร็งปากมดลูก 3 เกือบทุกคดีแม้ มีลักษณะการรุกราน เนื่องจากมีระยะเวลาฟักตัวนาน สามารถพบในระยะแรก ๆ ก่อนรุกรานมะเร็งปากมดลูก โดยใช้ระบบคัดกรอง Pap ทดสอบ 4 Pap test ลบเดียวช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกถึง 45% และทดสอบ 9 ลบในระหว่างอายุการใช้งานลดความเสี่ยงให้ 1% 5 รู้ความสำคัญของมะเร็งปากมดลูกมีความจำกัดใน หมู่ประชากรทั่วไป และแม้แต่ใน หมู่แรงงานสุขภาพและผู้กำหนดนโยบายในประเทศกำลังพัฒนา คุณภาพของการตรวจคัดกรองสุขภาพและโปรแกรมก็ดี 6การประยุกต์ใช้ระบบการทดสอบในผู้หญิงมีพร้อมในความรู้ ทัศนคติ ความเชื่อ และพฤติกรรมเกี่ยวกับโปรแกรมคัดกรองที่มีประสิทธิภาพนี้ 7 แบบจำลองความเชื่อสุขภาพ (HBM) เป็นหนึ่งในกรอบแห่ง ซึ่งใช้สำหรับทำความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมสุขภาพ ผลของ HBM จะขึ้นอยู่กับว่า คนมักจะดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพถ้าพวกเขารู้สึกว่า การดำเนินการเหล่านั้นสามารถป้องกันผลลบสุขภาพ HBM ประกอบด้วยโครงสร้างต่าง ๆ รวมถึงภูมิไวรับรับรู้ ความรุนแรง อุปสรรค และ ประโยชน์ นอกจากประสิทธิภาพตนเอง สัญลักษณ์การดำเนินการ การดำเนินการสุขภาพ 8เราดำเนินการศึกษามีการประเมินผลของการฝึกอบรมใช้ HBM เพื่อส่งเสริมความรู้หญิง และเปลี่ยนความเชื่อสุขภาพของพวกเขาในการทำทดสอบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง: การประยุกต์ใช้ระบบการตรวจ Pap test จะช่วยให้การวินิจฉัยและการรักษาที่มีประสิทธิภาพของการเกิดมะเร็งปากมดลูก การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลกระทบของการศึกษาเกี่ยวกับความเชื่อด้านสุขภาพและการปฏิบัติของผู้หญิงมีสิทธิ์ในการตรวจ Pap test โดยใช้ความเชื่อด้านสุขภาพรุ่น (HBM) วิธีการศึกษา: การศึกษากึ่งทดลองนี้ได้ดำเนินการใน Hamadan เมืองทางตะวันตกของอิหร่านในปี 2010 โดยใช้ ก่อนที่หลังจากการออกแบบ ในการศึกษานี้ 70 ผู้หญิงที่มีอายุ 16-54 ปีเข้าร่วมสมัครใจที่ไม่เคยทำมาตรวจ Pap test จนถึงวันที่การศึกษา อาสาสมัครที่ได้รับการแบ่งออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆ สำหรับแต่ละกลุ่มการฝึกอบรม 2 ชั่วโมงที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง เครื่องมือการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามหลายทางเลือกของตัวเองผู้ที่ได้รับการพัฒนาบนพื้นฐานโครงสร้าง HBM ความเชื่อด้านสุขภาพและการปฏิบัติของกลุ่มเป้าหมายได้รับการประเมินก่อนการแทรกแซงและสี่เดือนต่อมาผล: ผลการวิจัยของเราแสดงให้เห็นว่าการศึกษาตาม HBM เป็นที่มีประสิทธิภาพและสามารถเสริมสร้างความรู้ของผู้เข้าร่วมอย่างมีนัยสำคัญและปรับปรุง HBM สร้างการรับรู้รวมถึงความไวต่อความรุนแรงประโยชน์ และอุปสรรค โปรแกรมการฝึกอบรมเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติจากศูนย์ก่อนที่จะแทรกแซงเพื่อ 81.4% หลังจากนั้น ผลการศึกษานี้แสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของความรู้ที่มีผลต่อการสร้าง HBM นอกจากนี้มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างความรู้และทั้งสองอายุและระดับการศึกษาสรุป: การศึกษาสุขภาพขึ้นอยู่กับ HBM สามารถเสริมสร้างความรู้ของผู้หญิงที่เป็นมะเร็งปากมดลูกมีการเปลี่ยนแปลงความเชื่อด้านสุขภาพและพฤติกรรมของพวกเขาที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมการตรวจคัดกรองเช่นตรวจ Pap test คำสำคัญ: ความเชื่อด้านสุขภาพ รูปแบบความรู้การปฏิบัติตรวจ Pap test บทนำมะเร็งปากมดลูกที่เกิดจากไวรัส Papilloma มนุษย์ (HPV) เป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับสองในผู้หญิงทั่วโลก 1. นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตจากเนื้องอกในกลุ่มผู้หญิงในประเทศที่มีรายได้น้อย 2. การติดเชื้อ HPV เป็นปกติและป้องกันได้และตอนนี้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่จำเป็นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาของเกือบทุกกรณีของโรคมะเร็งปากมดลูก 3 แม้จะมีลักษณะของการรุกรานเนื่องจากมีระยะฟักตัวนานมะเร็งปากมดลูกสามารถตรวจพบได้ในช่วงต้นปี ขั้นตอนก่อนการรุกรานโดยการประยุกต์ใช้ระบบการตรวจคัดกรอง Pap 4. ตรวจ Pap test ลบเดียวที่ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปากมดลูกถึง 45% และการทดสอบเชิงลบเก้าในช่วงชีวิตลดความเสี่ยงได้ถึง 1% 5. ในประเทศกำลังพัฒนาความรู้เกี่ยวกับ ความสำคัญเป็นมะเร็งปากมดลูกจะถูก จำกัด ในหมู่ประชากรทั่วไปและแม้แต่ในหมู่คนทำงานด้านสุขภาพและผู้กำหนดนโยบาย คุณภาพของโปรแกรมการตรวจคัดกรองและการดูแลสุขภาพยังไม่ดี 6 การประยุกต์ใช้ระบบการตรวจ Pap test ในผู้หญิงจะขึ้นอยู่กับความรู้ของพวกเขาทัศนคติความเชื่อและพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องนี้โครงการตรวจคัดกรองที่มีประสิทธิภาพ 7. แบบแผนความเชื่อสุขภาพ (HBM) เป็นหนึ่งใน กรอบที่มีชื่อเสียงมากที่สุดซึ่งมีการใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการทำความเข้าใจพฤติกรรมสุขภาพ เหตุผลของ HBM จะขึ้นอยู่กับว่าผู้คนมักจะใช้การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพหากพวกเขารู้สึกว่าการกระทำเหล่านั้นสามารถป้องกันไม่ให้ผลลัพธ์ด้านสุขภาพในเชิงลบ HBM ประกอบด้วยโครงสร้างต่าง ๆ รวมทั้งการรับรู้ไวต่อความรุนแรงอุปสรรคและผลประโยชน์; นอกเหนือไปจากการรับรู้ความสามารถของตนเองหมายถึงการกระทำและการดำเนินการด้านสุขภาพ 8 เราดำเนินการศึกษาการประเมินผลกระทบของการฝึกอบรมโดยใช้ HBM เพื่อส่งเสริมความรู้ของผู้หญิงและเปลี่ยนความเชื่อสุขภาพของพวกเขาจะทำแบบทดสอบ Pap

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลัง : การประยุกต์ใช้ระบบของชาววิกิพีเดียช่วยวินิจฉัยและรักษาที่มีประสิทธิภาพของมะเร็งปากมดลูก การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการศึกษาในความเชื่อและการปฏิบัติตนด้าน สุขภาพของผู้หญิงมีสิทธิทดสอบ PAP โดยใช้แบบจำลองความเชื่อด้านสุขภาพ ( ห์ ) .

วิธีนี้เป็นการวิจัยกึ่งทดลองศึกษาในเมืองทางตะวันตกของเตหะราน , อิหร่านในปี 2010 การใช้ก่อนหลังการออกแบบในการศึกษานี้ ผู้หญิง 70 อายุ 16 ปี 54 เข้าร่วมโดยสมัครใจที่ไม่เคยทดสอบ PAP จนถึงวันที่ของการศึกษา อาสาสมัครแบ่งออกเป็นกลุ่มเล็ก ๆหลาย ให้แต่ละกลุ่มฝึก 2 ชั่วโมง จัดขึ้นเป็นครั้งที่สอง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามเพื่อสำรวจหลายทางเลือกที่ถูกพัฒนาบนพื้นฐานโครงสร้างห์ .ความเชื่อและการปฏิบัติตนด้าน สุขภาพของกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ก่อนการทดลอง และสี่เดือนต่อมา

ผล : ผลการศึกษาของเราพบว่า ขึ้นอยู่กับห์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเพิ่มพูนความรู้ผู้เรียนอย่างมีนัยสำคัญและปรับปรุงโครงสร้างห์ รวมทั้งการรับรู้โอกาสเสี่ยง ? และ ประโยชน์ และอุปสรรคโปรแกรมฝึกยกระดับการปฏิบัติจากศูนย์ก่อนการแทรกแซงเพื่อเป็น % หลังจากนั้น ผลของการศึกษาพบว่า เพิ่มความรู้ มีผลกระทบต่อโครงสร้างห์ . นอกจากนี้ มีความสัมพันธ์ระหว่างความรู้ และ ทั้ง อายุ และระดับการศึกษา .

สรุป : สุขศึกษาโดยใช้ห์สามารถเพิ่มความรู้ของผู้หญิงเป็นมะเร็งปากมดลูก ,การเปลี่ยนแปลงความเชื่อด้านสุขภาพของตนเองและปรับปรุงพฤติกรรมของพวกเขาเกี่ยวกับโปรแกรมฉายเหมือนชาววิกิพีเดีย

คำสำคัญ : แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ , ความรู้ , การปฏิบัติ , การตรวจสอบ

แนะนำ

มะเร็งปากมดลูก เกิดจากมนุษย์ papilloma virus ( HPV ) เป็นมะเร็งที่พบมากที่สุดที่สองในผู้หญิงทั่วโลก 1 นอกจากนี้ยังเป็นที่สำคัญเป็นสาเหตุการเสียชีวิตจากมะเร็งในผู้หญิงในรายได้ต่ำ 2 .การติดเชื้อ HPV อยู่ทั่วไป และสามารถป้องกันได้และตอนนี้อย่างกว้างขวางยอมรับว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเกือบทุกกรณีของโรคมะเร็งปากมดลูก 3

แม้จะมีลักษณะรุกราน เนื่องจากมีระยะฟักตัวนาน มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่สามารถตรวจพบในช่วงแรกก่อนรุกรานขั้นตอนโดยโปรแกรมระบบของการตรวจคัดกรองการทดสอบ 4ทดสอบ PAP ลบเดียวช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกถึง 45 % และเก้าทดสอบเชิงลบในชีวิตลดความเสี่ยง 1% 5 ในการพัฒนาประเทศ ความรู้สำคัญของมะเร็งปากมดลูกคือ จำกัด ของประชากรทั่วไป และแม้แต่ในหมู่คนทำงานด้านสุขภาพและนโยบาย . คุณภาพของโปรแกรมการคัดกรองและการดูแลสุขภาพยังไม่ดี

6การประยุกต์ใช้ระบบการตรวจสอบในผู้หญิงคือ ขึ้นอยู่กับความรู้ ทัศนคติ ความเชื่อ และพฤติกรรมการตรวจคัดกรองนี้โปรแกรมที่มีประสิทธิภาพ 7 แบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ ( ห์ ) เป็นหนึ่งในสถาบันที่มีชื่อเสียงมากที่สุดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเพื่อความเข้าใจพฤติกรรมสุขภาพเหตุผลของห์จะขึ้นอยู่กับที่คนมักจะใช้สุขภาพการกระทำหากพวกเขารู้สึกว่า การกระทำดังกล่าวสามารถป้องกันผลสุขภาพเชิงลบ ห์ประกอบด้วยต่าง ๆรวมทั้งสร้างการรับรู้โอกาสเสี่ยง ? และ อุปสรรคและประโยชน์ ; นอกจากตนเอง การกระทำและการกระทำตัว , สุขภาพ 8 .

เราทำการศึกษาเพื่อศึกษาผลของการฝึกโดยใช้ห์เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านสตรี และเปลี่ยนความเชื่อด้านสุขภาพของพวกเขาที่จะทำทดสอบ PAP