Global warming is the observed cent

Global warming is the observed century-scale rise in the average temperature of Earth's climate system.[2] Since 1971, 90% of the increased energy has been stored in the oceans, mostly in the 0 to 700m region.[3] Despite the oceans' dominant role in energy storage, the term "global warming" is also used to refer to increases in average temperature of the air and sea at Earth's surface.[4] Since the early 20th century, the global air and sea surface temperature has increased about 0.8 °C (1.4 °F), with about two-thirds of the increase occurring since 1980.[5] Each of the last three decades has been successively warmer at the Earth's surface than any preceding decade since 1850.[6]

Scientific understanding of the cause of global warming has been increasing. In its fourth assessment (AR4 2007) of the relevant scientific literature, the Intergovernmental Panel on Climate Change (IPCC) reported that scientists were more than 90% certain that most of global warming was being caused by increasing concentrations of greenhouse gases produced by human activities (anthropogenic).[7][8][9] In 2010 that finding was recognized by the national science academies of all major industrialized nations.[10][a]

Affirming these findings in 2013, the IPCC stated that the largest driver of global warming is carbon dioxide (CO2) emissions from fossil fuel combustion, cement production, and land use changes such as deforestation.[12] Its 2013 report states:

Human influence has been detected in warming of the atmosphere and the ocean, in changes in the global water cycle, in reductions in snow and ice, in global mean sea level rise, and in changes in some climate extremes. This evidence for human influence has grown since AR4. It is extremely likely (95-100%) that human influence has been the dominant cause of the observed warming since the mid-20th century. - IPCC AR5 WG1 Summary for Policymakers[13]

Climate model projections were summarized in the 2013 Fifth Assessment Report (AR5) by the IPCC. They indicated that during the 21st century the global surface temperature is likely to rise a further 0.3 to 1.7 °C (0.5 to 3.1 °F) for their lowest emissions scenario using stringent mitigation and 2.6 to 4.8 °C (4.7 to 8.6 °F) for their highest.[14] The ranges of these estimates arise from the use of models with differing sensitivity to greenhouse gas concentrations.[15][16]

Future climate change and associated impacts will vary from region to region around the globe.[17][18] The effects of an increase in global temperature include a rise in sea levels and a change in the amount and pattern of precipitation, as well as a probable expansion of subtropical deserts.[19] Warming is expected to be strongest in the Arctic, with the continuing retreat of glaciers, permafrost and sea ice. Other likely effects of the warming include more frequent extreme weather events including heat waves, droughts and heavy rainfall; ocean acidification; and species extinctions due to shifting temperature regimes. Effects significant to humans include the threat to food security from decreasing crop yields and the loss of habitat from inundation.[20][21]

Possible responses to global warming include mitigation by emissions reduction, adaptation to its effects, building systems resilient to its effects, and possible future climate engineering. Most countries are parties to the United Nations Framework Convention on Climate Change (UNFCCC),[22] whose ultimate objective is to prevent dangerous anthropogenic climate change.[23] Parties to the UNFCCC have adopted a range of policies designed to reduce greenhouse gas emissions[24][25][26][27] and to assist in adaptation to global warming.[24][27][28][29] Parties to the UNFCCC have agreed that deep cuts in emissions are required,[30] and that future global warming should be limited to below 2.0 °C (3.6 °F) relative to the pre-industrial level.[30][b] Reports published in 2011 by the United Nations Environment Programme[31] and the International Energy Agency[32] suggest that efforts as of the early 21st century to reduce emissions may be inadequate to meet the UNFCCC's 2 °C target.

Emissions of greenhouse gases grew 2.2% per year between 2000 and 2010, compared with 1.3% per year from 1970 to 2000.[33] China currently leads the world in global CO
2 emissions.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาวะโลกร้อนจะเพิ่มขึ้นศตวรรษสังเกตมาตราส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยของระบบภูมิอากาศของโลก[2] ตั้งแต่พ.ศ. 2514, 90% ของพลังงานเพิ่มขึ้นได้ถูกเก็บไว้ในมหาสมุทร ส่วนใหญ่ในภูมิภาค 0-700 เมตร[3] แม้ มีโอเชี่ยนส์บทบาทหลักในการจัดเก็บพลังงาน คำว่า "โลกร้อน" ยังถูกใช้เพื่ออ้างถึงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศและน้ำทะเลที่ผิวโลก[4] ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ส่วนกลางทะเลและอากาศพื้นผิวอุณหภูมิได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.8 ° C (1.4 ° F), มีประมาณสองในสามของการเพิ่มขึ้นที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1980[5] แต่ละสามทศวรรษได้ติด ๆ กันอุ่นที่ผิวโลกกว่าทศวรรษก่อนหน้านี้ใด ๆ ตั้งแต่ 1850[6]ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์สาเหตุของภาวะโลกร้อนได้เพิ่มมากขึ้น ในของสี่ประเมิน (AR4 2007) วรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง แผงว่าด้วยในการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ได้กว่า 90% แน่นอนที่สุดของภาวะโลกร้อนกำลังเกิดจากการเพิ่มความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ (ที่มาของมนุษย์)[7][8][9] ในปี 2553 ค้นหาที่ถูกรับรู้ โดยทหารวิทยาศาสตร์แห่งชาติของประเทศอุตสาหกรรมหลักทั้งหมด[10][a]เห็นพ้องเหล่านี้ค้นพบในปี 2013, IPCC ยังระบุว่า โปรแกรมควบคุมที่ใหญ่ที่สุดของภาวะโลกร้อนจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล การผลิตปูนซีเมนต์ และเปลี่ยนแปลงเช่นการตัดไม้ทำลายป่าใช้ที่ดิน[12] 2013 การรายงานสถานะ: พบอิทธิพลของมนุษย์ในภาวะโลกร้อนของบรรยากาศและมหาสมุทร เปลี่ยนแปลง ในโลกน้ำ รอบ ในลด ในหิมะและน้ำแข็ง ในระดับน้ำทะเลเฉลี่ยทั่วโลกเพิ่มขึ้น และการเปลี่ยนแปลงในสภาพภูมิอากาศบางที่สุด หลักฐานนี้สำหรับอิทธิพลที่บุคคลมีพัฒนาตั้งแต่ AR4 เป็นแน่ ๆ (95-100%) ว่า อิทธิพลของมนุษย์มีสาเหตุหลักของภาวะโลกร้อนตั้งแต่วันที่กลาง 20 พบศตวรรษ. - IPCC AR5 WG1 บทสรุปสำหรับผู้กำหนดนโยบาย [13]ประมาณแบบจำลองสภาพภูมิอากาศได้สรุปในรายงานประเมินห้า 2013 (AR5) โดย IPCC พวกเขาระบุว่า ในช่วงศตวรรษ 21 อุณหภูมิพื้นผิวโลกมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเป็นเพิ่มเติม 0.3-1.7 ° C (° F 0.5-3.1) สำหรับสถานการณ์สมมติปล่อยตนต่ำใช้บรรเทาสาธารณภัยอย่างเข้มงวดและ 2.6-4.8 ° C (4.7-8.6 ° F) สำหรับผู้สูง[14] ในช่วงการประเมินเหล่านี้เกิดขึ้นจากการใช้แบบจำลอง มีความไวแตกต่างกันเพื่อความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก[15][16]เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในอนาคตและผลกระทบที่เกี่ยวข้องจะเปลี่ยนจากภูมิภาคภูมิภาคทั่วโลก[17][18] ผลกระทบของการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลกมีเพิ่มขึ้นในระดับน้ำทะเลและการเปลี่ยนแปลงในจำนวนและรูปแบบของฝน และการขยายตัวน่าเป็นของหวานแบบภาวะโลกร้อน [19] คาดว่าจะแข็งแกร่งในอาร์กติก กับสถานที่พักผ่อนต่อเนื่องของธารน้ำแข็ง น้ำแข็ง permafrost และทะเล ลักษณะพิเศษอื่น ๆ แนวโน้มของภาวะโลกร้อนรวมเหตุการณ์มากอากาศบ่อยขึ้นรวมถึงคลื่นความร้อน droughts และฝน ตกหนัก โอเชี่ยนยู และ extinctions พันธุ์เนื่องจากการขยับระบอบอุณหภูมิ ผลกระทบสำคัญกับมนุษย์รวมถึงภัยคุกคามจากการรักษาความปลอดภัยของอาหารจากการลดผลผลิตพืชและการสูญเสียถิ่นที่อยู่จาก inundation[20][21]ตอบสนองได้กับภาวะโลกร้อนรวมถึงบรรเทาสาธารณภัย โดยลดการปล่อยก๊าซ ผลกระทบ ความยืดหยุ่นของผลกระทบ และสภาพภูมิอากาศในอนาคตสามารถวิศวกรรมระบบอาคารการปรับตัว ประเทศส่วนใหญ่เป็นภาคีในอนุสัญญาสหประชาชาติในสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง (UNFCCC), [22] มีวัตถุประสงค์ที่ดีที่สุดคือเพื่อ ป้องกันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมาของมนุษย์ที่อันตราย[23] ภาคี UNFCCC ได้นำมาใช้ช่วงของการออกแบบ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก [24] [25] [26] [27] และ เพื่อช่วยในการปรับตัวกับภาวะโลกร้อน[24][27][28][29] ภาคี UNFCCC ที่ตกลงตัดลึกในปล่อยต้อง, [30] และว่า ในอนาคตโลกร้อนควรจะจำกัดด้านล่าง 2.0 ° C (3.6 ° F) เมื่อเทียบกับระดับอุตสาหกรรม[30][b] รายงานตีพิมพ์ในปี 2554 โดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ [31] และสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ [32] แนะนำว่า ความพยายาม ณช่วงต้นศตวรรษเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอาจไม่เพียงพอเพื่อตอบสนองเป้าหมายของ UNFCCC 2 ° Cการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น 2.2% ต่อปีระหว่าง 2000 และ 2010 เทียบกับ 1.3% ต่อปีจากปี 1970 ถึง 2000[33] จีนกำลังนำโลกสากล COปล่อย 2

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาวะโลกร้อนเป็นเพิ่มขึ้นศตวรรษที่ระดับสังเกตในอุณหภูมิเฉลี่ยของระบบภูมิอากาศของโลก. [2] ตั้งแต่ปี 1971, 90% ของพลังงานที่เพิ่มขึ้นได้รับการจัดเก็บไว้ในมหาสมุทรส่วนใหญ่ใน 0 ถึง 700m ภูมิภาค. [3] แม้จะมี มหาสมุทรบทบาทโดดเด่นในการจัดเก็บพลังงานคำว่า "ภาวะโลกร้อน" นอกจากนี้ยังใช้ในการอ้างถึงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศและทางทะเลที่พื้นผิวโลก. [4] ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20, อากาศทั่วโลกและอุณหภูมิผิวน้ำทะเลมี เพิ่มขึ้นประมาณ 0.8 ° C (1.4 ° F) มีประมาณสองในสามของการเพิ่มขึ้นที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 1980 [5] แต่ละช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมาได้รับการอย่างต่อเนื่องที่อบอุ่นที่พื้นผิวโลกกว่าทศวรรษที่ผ่านมาก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1850 [6] ความเข้าใจทางวิทยาศาสตร์ของสาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อนได้เพิ่มขึ้น ในการประเมินที่สี่ของ (AR4 2007) ของวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) รายงานว่านักวิทยาศาสตร์ได้มากขึ้นกว่า 90% บางอย่างที่มากที่สุดของภาวะโลกร้อนที่เกิดจากการถูกโดยการเพิ่มความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกที่ผลิตจากกิจกรรมของมนุษย์ (มนุษย์). [7] [8] [9] ในปี 2010 ว่าการหาเป็นที่ยอมรับจากสถาบันการศึกษาวิทยาศาสตร์แห่งชาติของทุกประเทศอุตสาหกรรมที่สำคัญ. [10] [] เห็นพ้องการค้นพบนี้ในปี 2013 IPCC ระบุว่าคนขับรถที่ใหญ่ที่สุดของ ภาวะโลกร้อนเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลผลิตปูนซีเมนต์และการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินเช่นตัดไม้ทำลายป่า [12] 2013 รายงานของสหรัฐฯ:. อิทธิพลของมนุษย์ได้รับการตรวจพบในอุณหภูมิของชั้นบรรยากาศและมหาสมุทรในการเปลี่ยนแปลงใน วัฏจักรของน้ำทั่วโลกในการลดลงของหิมะและน้ำแข็งในทะเลเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นและในการเปลี่ยนแปลงในสภาพภูมิอากาศสุดขั้วบาง หลักฐานที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์นี้ได้เติบโตขึ้นมาตั้งแต่ AR4 มันเป็นไปได้อย่างมาก (95-100%) ที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์ได้รับสาเหตุที่โดดเด่นของภาวะโลกร้อนที่สังเกตตั้งแต่ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 - IPCC AR5 WG1 ย่อสำหรับผู้กำหนดนโยบายได้ [13] ประมาณการแบบจำลองสภาพภูมิอากาศสรุปในห้า 2013 รายงานการประเมิน (AR5) โดย IPCC พวกเขาชี้ให้เห็นว่าในช่วงศตวรรษที่ 21 อุณหภูมิพื้นผิวโลกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอีก 0.3-1.7 องศาเซลเซียส (0.5-3.1 ° F) สำหรับสถานการณ์การปล่อยมลพิษต่ำที่สุดโดยใช้การบรรเทาผลกระทบที่เข้มงวดและ 2.6-4.8 ° C (4.7-8.6 ° F) สำหรับ. ของพวกเขาที่สูงที่สุด [14] ช่วงของประมาณการเหล่านี้เกิดขึ้นจากการใช้แบบจำลองที่มีความไวที่แตกต่างกันเพื่อความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก. [15] [16] การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในอนาคตและผลกระทบที่เกี่ยวข้องจะแตกต่างจากภูมิภาคทั่วโลก. [17 ] [18] ผลกระทบของการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิของโลกรวมถึงการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลและการเปลี่ยนแปลงในปริมาณและรูปแบบของฝนเช่นเดียวกับการขยายตัวที่น่าจะเป็นของทะเลทรายค่อนข้างร้อน. [19] ร้อนที่คาดว่าจะแข็งแกร่งที่สุดใน อาร์กติกกับการพักผ่อนอย่างต่อเนื่องของธารน้ำแข็ง permafrost และทะเลน้ำแข็ง แนวโน้มผลกระทบอื่น ๆ ของภาวะโลกร้อนรวมถึงเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงบ่อยมากขึ้นรวมถึงคลื่นความร้อนภัยแล้งและฝนตกหนัก; กรดในมหาสมุทร; และสายพันธุ์ที่สูญพันธุ์เนื่องจากการขยับระบอบอุณหภูมิ ผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อมนุษย์รวมถึงภัยคุกคามต่อความมั่นคงของอาหารจากผลผลิตที่ลดลงและการสูญเสียที่อยู่อาศัยจากน้ำท่วม. [20] [21] การตอบสนองที่เป็นไปได้ในการลดภาวะโลกร้อนรวมถึงการบรรเทาผลกระทบจากการลดการปล่อยก๊าซปรับตัวจากผลกระทบของการสร้างระบบที่มีความยืดหยุ่นเพื่อให้ผลกระทบของมัน และเป็นไปได้ทางวิศวกรรมภูมิอากาศในอนาคต ประเทศส่วนใหญ่เป็นภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (UNFCCC) [22] ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นอันตรายของมนุษย์. [23] ภาคี UNFCCC ได้นำช่วงของนโยบายที่ออกแบบมาเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก [24] [25] [26] [27] และเพื่อช่วยในการปรับตัวให้เข้ากับภาวะโลกร้อน. [24] [27] [28] [29] ภาคี UNFCCC มีความเห็นว่าบาดแผลลึกลงไปในการปล่อยก๊าซจะต้อง [30] และว่าภาวะโลกร้อนในอนาคตควรจะ จำกัด ให้ต่ำกว่า 2.0 ° C (3.6 ° F) เทียบกับระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม. [30] [b] รายงานที่ตีพิมพ์ในปี 2011 โดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ [31] และสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ [32] แสดงให้เห็นว่ามีความพยายามเป็นในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 ที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอาจจะไม่เพียงพอที่จะตอบสนองความ UNFCCC 2 °เป้าหมาย C. ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เพิ่มขึ้น 2.2% ต่อปีระหว่างปี 2000 และปี 2010 เมื่อเทียบกับ 1.3% ต่อปีตั้งแต่ปี 1970 2000 [33] ประเทศจีนขณะนี้นำไปสู่โลกในระดับโลก CO 2 การปล่อยมลพิษ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ภาวะโลกร้อนคือศตวรรษแบบสังเกตการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของระบบภูมิอากาศของโลก [ 2 ] ตั้งแต่ 1971 , 90% ของพลังงานที่เพิ่มขึ้นได้ถูกเก็บไว้ในมหาสมุทรส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 0 ถึง 700m ภูมิภาค . [ 3 ] แม้มหาสมุทร ' เด่นบทบาทในการเก็บพลังงาน คำว่า “ภาวะโลกร้อน” นอกจากนี้ยังใช้เพื่ออ้างถึงการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิเฉลี่ยของอากาศและทะเลที่ผิวโลก[ 4 ] ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 , อากาศทั่วโลก และอุณหภูมิผิวน้ำทะเลได้เพิ่มขึ้นประมาณ 0.8 ° C ( 1.4 ° F ) มีประมาณสองในสามของการเพิ่มขึ้นที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 [ 5 ] แต่ละช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมาได้รับอย่างต่อเนื่องอุ่นที่ผิวโลก กว่าทศวรรษที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 1850 . 6 ]

วิทยาศาสตร์เข้าใจสาเหตุของภาวะโลกร้อนได้ถูกเพิ่มในการประเมินที่สี่ของ ( ar4 2007 ) ของวรรณกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( IPCC ) รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์ได้มากกว่า 90 % บางมากที่สุดของภาวะโลกร้อนคือที่เกิดจากการเพิ่มความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ( anthropogenic )[ 7 ] [ 8 ] [ 9 ] ใน พ.ศ. 2553 ว่า การได้รับการยอมรับโดยสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งชาติของประเทศอุตสาหกรรมหลัก [ 10 ] [ ]

ยืนยันเหล่านี้พบใน 2013 , IPCC ระบุว่าไดรเวอร์ที่ใหญ่ที่สุดของภาวะโลกร้อนคือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2 ) จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิลในการผลิตปูนซีเมนต์ และการใช้ที่ดิน การเปลี่ยนแปลง เช่น การทำลายป่า . [ 12 ] รายงานของ 2013 อเมริกา :

มีอิทธิพลต่อมนุษย์ได้รับการตรวจพบในความอบอุ่นของบรรยากาศและมหาสมุทร การเปลี่ยนแปลงในวัฏจักรน้ำระดับโลกในการลดลงของหิมะและน้ำแข็งในทะเลทั่วโลกระดับขึ้น และในการเปลี่ยนแปลงในบางสุดขั้วอุณหภูมิ นี้หลักฐานอิทธิพลของมนุษย์ได้เติบโตขึ้นตั้งแต่ ar4 .ก็มีแนวโน้มอย่างมาก ( 95-100 % ) ที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์มีเหตุเด่นของภาวะโลกร้อนที่สังเกตตั้งแต่กลาง - ศตวรรษที่ 20 . - IPCC ar5 wg1 สรุปนโยบาย [ 13 ]

บรรยากาศแบบประมาณการสรุปได้ใน 2013 5 รายงานการประเมิน ( ar5 ) โดย IPCC . พวกเขาพบว่า ในช่วงศตวรรษที่ 21 อุณหภูมิพื้นผิวโลกมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก 0.3 ถึง 1.7 ° C ( 05 ° F ) 3.1 ที่ต่ำสุดการบรรเทาสถานการณ์การเข้มงวดและ 2.6 4.8 ° C ( 4.7 ถึง 8.6 ° F ) สำหรับสูงสุดของตน . [ 14 ] ช่วงประมาณการเหล่านี้เกิดขึ้นจากการใช้รูปแบบต่างกัน ความไวต่อความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก [ 15 ] [ 16 ]

อนาคตการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ที่ผลกระทบจะแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคทั่วโลก[ 17 ] [ 18 ] ผลของการเพิ่มอุณหภูมิโลกสูงขึ้นในระดับรวมถึงทะเลและการเปลี่ยนแปลงปริมาณและรูปแบบของการตกตะกอน ตลอดจนการขยายตัวที่น่าจะเป็นของทะเลทรายเขตร้อน . [ 19 ] ภาวะโลกร้อนที่คาดว่าจะแข็งแกร่งที่สุดในอาร์กติก กับการถอยร่นของธารน้ำแข็งน้ำแข็งถาวรและทะเล , น้ำแข็งผลอื่น ๆ มีแนวโน้มของภาวะโลกร้อน รวมถึงเหตุการณ์สภาพอากาศรุนแรงบ่อยครั้งมากขึ้น รวมถึงคลื่นความร้อน ความแห้งแล้ง และฝนหนัก ; มหาสมุทร acidification ; และชนิดการสูญพันธุ์เนื่องจากเปลี่ยนระบบอุณหภูมิ ผลกระทบต่อมนุษย์ รวมถึงภัยคุกคามต่อความมั่นคงทางอาหารลดลง ผลผลิตพืชและการสูญเสียถิ่นที่อยู่จากการไหลบ่า [ 20 ] [ 21 ]

การตอบสนองที่เป็นไปได้เพื่อบรรเทาภาวะโลกร้อน รวมถึงการลดการปล่อยก๊าซโดยการปรับตัวกับผลกระทบต่อระบบความยืดหยุ่นของอาคาร และเป็นไปได้ของสภาพภูมิอากาศในอนาคต ทางวิศวกรรม ประเทศส่วนใหญ่เป็นภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ( UNFCCC ) [ 22 ] ที่มีวัตถุประสงค์คือเพื่อป้องกันไม่ให้มนุษย์อันตรายที่ดีที่สุด การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ[ 23 ] ภาคี UNFCCC ได้ประกาศใช้ในช่วงของนโยบายที่ออกแบบมาเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก [ 24 ] [ 25 ] [ 26 ] [ 27 ] และช่วยในการปรับตัวกับภาวะโลกร้อน . [ 24 ] [ 27 ] [ 28 ] [ 29 ] ภาคี UNFCCC ได้ตกลงกันว่า การตัดลึกในการปล่อยเป็น ต้องการ [ 30 ] และภาวะโลกร้อนในอนาคตควรจะ จำกัด ให้ด้านล่าง 2.0 ° C ( 3.6 ° F ) เมื่อเทียบกับระดับอุตสาหกรรมก่อน[ 30 ] [ b ] รายงานที่ตีพิมพ์ในปี 2011 โดยโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ [ 31 ] และ องค์การพลังงานระหว่างประเทศ [ 32 ] แนะนำว่า ความพยายามในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 เพื่อลดการปล่อยก๊าซอาจจะไม่เพียงพอที่จะตอบสนองการเดินทางของ 2 ° C เป้าหมาย

ปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มขึ้น 2.2% ต่อปี ระหว่าง 2000 และ 2010 , เมื่อเทียบกับ 1.3 % ต่อปี จากปี 1970 ถึงปี 2000[ 33 ] ประเทศจีนในปัจจุบันเป็นผู้นำโลกใน
Co โลก 2 ปล่อยก๊าซเรือนกระจก