Plates, each plate is moving in. Di

Plates, each plate is moving in. Different directions Results from the moving cause things on the earth's surface. Both on the ground and under the oceans, such as mountains, valleys, mountains, hills, plains, volcanic basins of the motion of the plates is 3
to 1. The plates are separated (Divergent Boundary)
occurs at the boundary between two tectonic plates. beneath the ocean than on the continent, such as the boundaries of the North American Plate and Eurasian plates. The two plates are moving apart. Cause a rift Under the Sea. And molten rock that lies deep to push out the crevices. When exposed to cold will freeze. And petrified new crust And there is a ridge When the plates separated The molten rock it out and push it to harden off to the side. The ocean floor, it will be extended indefinitely. This is why it has a crust that is constantly emerging in the South Atlantic. And apply to North America from Europe split
second. The plates are moving apart Subduction (Convergent Boundary) has 3 is
2.1 oceanic plates collide,
the earth and the ocean moves away from the origin. Crack the plates move away from each other. Propulsion of convection cells (Convection cell) in the asthenosphere. Make two ocean plates collide Figure 1 panels over the earth. A lower temperature Higher density and Be bogged down in the subduction zone. The Trench (Mid oceanic trench) on the earth sank down. Oceanic crust and mantle on the top floor, which has a low melting point is molten magma. Which has a lower density than the mantle in the asthenosphere. It floats up to the surface pressure is a volcanic island arc (Volcanic island arc) aligned parallel to the trench. The limestone formed by marine organisms such as coral carbonate sedimentary low boiling point. When the heat will become carbon dioxide gas. Rise released the crater. The turnover of carbon and nutrient cycles. Example volcanic islands formed by this process include spin Lippi's islands and islands of Japan
2.2. Oceanic plates collide with continental plates
plates ocean is Basalt. Higher density continental plates, which is granite. When two plates collide. The earth will sink into the ocean and melt into magma. Because magma is less dense than the mantle in the asthenosphere. It lifted pressure continental crust into a mountain. A line of volcanoes along the coast Parallel to the trench as shown in Figure 2. Example Mountains raged through this process include Andes. West coast of the South American
continent, 2.3 plates collide
with continental plates over the earth ocean. So when continental plates collide. One sheet will duck down into the asthenosphere. Another piece is picking up stranded. A very high mountain A line parallel to the strike of the image 3. Examples of high mountains formed by this process include the Himalayas. In Nepal, the Alps. In Europe, 3. Boundaries of tectonic plate movement garden (Transform Boundary) on both plates. Roll each other to cause a fault larger. If the plates move against each other and cause a severe vibration and earthquakes occur. But usually not found volcano

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แผ่น แต่ละจานจะเคลื่อนไหวใน ทิศต่าง ๆ ผลลัพธ์จากสาเหตุสิ่งเคลื่อนไหวบนผิวโลก ทั้ง บนพื้น และ ใต้ มหาสมุทร ภูเขา หุบเขา ภูเขา ภูเขา ที่ ราบ อ่างล่างหน้าภูเขาไฟของการเคลื่อนไหวของแผ่นเป็น 3 1 แผ่นจะแยก (ขันติธรรมขอบ) เกิดขึ้นที่เขตแดนระหว่างสองแผ่นธรณี ใต้ทะเลมากกว่าบนทวีป เช่นขอบเขตของแผ่นจานแถบอเมริกาเหนือและนก แผ่นสองจะย้ายกัน ทำริฟท์ใต้ทะเล และหินละลายที่อยู่ลึกออก crevices เมื่อสัมผัสกับน้ำเย็น จะตรึง และเปลือกใหม่ที่กลายเป็นหิน และมีริดจ์เมื่อแผ่นแยกหินละลายออก และผลักดันให้เริ่มปิดด้าน พื้นมหาสมุทร มันจะถูกขยายโดยไม่จำกัดเวลา นี่คือเหตุผลที่มันมีเปลือกที่ตลอดเวลาได้เกิดขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกตอนใต้ สามารถใช้กับอเมริกาเหนือจากยุโรปแบ่ง วินาที ย้ายแผ่นแร Subduction (Convergent ขอบ) มี 3 คือ 2.1 มหาสมุทรแผ่นชนกัน โลกและมหาสมุทรย้ายจากจุดเริ่มต้น ถอดย้ายแผ่นออกจากกัน การขับเคลื่อนของเซลล์พา (พาเซลล์) ในฐานธรณีภาค ทำให้แผ่นทะเลสองชนแผง 1 รูปทั่วโลก A ลดอุณหภูมิความหนาแน่นสูง และ bogged ลงในโซน subduction ร่องลึก (กลางร่องลึกก้นสมุทร) บนโลกจมลง เปลือกโลกมหาสมุทรและหิ้งชั้น ซึ่งมีจุดหลอมเหลวต่ำเป็นหินหนืดที่หลอมละลาย ซึ่งมีความหนาแน่นน้อยกว่าหิ้งในฐานธรณีภาค มันลอยถึงโค้งเกาะ (เกาะโค้ง) ขนานกับร่องลึกเป็นความดันผิว หินปูนเกิดขึ้น โดยสิ่งมีชีวิตทางทะเลเช่นปะการัง carbonate ตะกอนจุดเดือดต่ำ เมื่อความร้อนจะกลายเป็น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มขึ้นออกปล่อง การหมุนเวียนของวงจรคาร์บอนและธาตุอาหาร อย่างหมู่เกาะภูเขาไฟที่เกิดขึ้น โดยการรวมกระบวนการนี้หมุนของ Lippi เกาะและหมู่เกาะญี่ปุ่น 2.2. แผ่นมหาสมุทรชนกับแผ่นคอนติเนนทัล แผ่นมหาสมุทรเป็นหินบะซอลต์ สูงความหนาแน่นยุโรปแผ่น ซึ่งเป็นหินแกรนิต เมื่อสองแผ่นชนกัน แผ่นดินจะจมลงสู่มหาสมุทร และละลายในหินหนืด เนื่องจากหินหนืดจะหนาแน่นน้อยกว่าหิ้งในฐานธรณีภาค มันยกดันเปลือกโลกยุโรปเป็นภูเขา บรรทัดของริมฝั่งทะเลขนานกับร่องลึกดังแสดงในรูปที่ 2 ตัวอย่างภูเขา raged โดยใช้กระบวนการนี้ได้แก่อังเดส ฝั่งตะวันตกของอเมริกาใต้ continent, 2.3 แผ่นชนกัน มีแผ่นภาคพื้นมหาสมุทรโลก ดังนั้นเมื่อแผ่นยุโรปชน แผ่นหนึ่งจะเป็ดลงไปฐานธรณีภาค อีกชิ้นคือเบิกค่าขน ภูเขาสูงมากเป็นเส้นขนานการนัดหยุดงานของภาพ 3 ตัวอย่างของภูเขาสูงที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ได้แก่เทือกเขาหิมาลัย ในเนปาล เทือกเขาแอลป์ ในยุโรป 3 ขอบของแผ่นธรณีเคลื่อนไหวสวน (ขอบเขตของแปลง) บนแผ่นทั้งสอง ม้วนเพื่อทำให้เกิดข้อบกพร่องที่มีขนาดใหญ่ ถ้าแผ่นเลื่อนกับแต่ละอื่น ๆ และสาเหตุการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเกิดแผ่นดินไหวเกิดขึ้น แต่มักจะไม่พบภูเขาไฟ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แผ่นแต่ละแผ่นมีการเคลื่อนไหวใน. ทิศทางที่แตกต่างกันเป็นผลมาจากสิ่งที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนย้ายบนพื้นผิวโลก ทั้งบนพื้นดินและใต้มหาสมุทรเช่นภูเขาหุบเขาภูเขา, ภูเขาที่ราบแอ่งภูเขาไฟการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกคือ 3
ต่อ 1 แผ่นจะถูกแยกออก (แตกต่างเขตแดน)
ที่เกิดขึ้นในเขตแดนระหว่างสองแผ่นเปลือกโลก . ใต้มหาสมุทรกว่าในทวีปยุโรปเช่นขอบเขตของอเมริกาเหนือจานและแผ่นยูเรเชีย แผ่นเปลือกโลกสองแผ่นกำลังจะย้ายออกจากกัน ก่อให้เกิดความแตกแยกใต้ทะเล และหินหลอมเหลวที่อยู่ลึกจะผลักดันออกโตรก เมื่อสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นจะหยุด และกลายเป็นหินเปลือกโลกใหม่และมีสันเมื่อแผ่นแยกหินหลอมเหลวออกและผลักดันให้แข็งออกไปด้านข้าง พื้นมหาสมุทรก็จะขยายไปเรื่อย ๆ นี่คือเหตุผลที่มันมีเปลือกที่มีอย่างต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในภาคใต้มหาสมุทรแอตแลนติก และนำไปใช้ในอเมริกาเหนือจากยุโรปแยก
ที่สอง แผ่นกำลังจะย้ายออกจากกันเหลื่อม (Convergent Boundary) มี 3 คือ
2.1 แผ่นมหาสมุทรชน
โลกและมหาสมุทรจะย้ายออกไปจากแหล่งกำเนิด แตกแผ่นย้ายออกจากกัน แรงขับของเซลล์พา (มือถือพา) ใน asthenosphere ทำให้แผ่นเปลือกโลกสองแผ่นมหาสมุทรชนกันรูปที่ 1 แผงเหนือแผ่นดินโลก อุณหภูมิที่ต่ำกว่าความหนาแน่นสูงและจะจมลงในเขตมุดตัว ร่องลึก (กลางร่องลึกก้นสมุทร) บนโลกจมลง เปลือกโลกมหาสมุทรและเสื้อคลุมที่ชั้นบนสุดซึ่งมีจุดหลอมเหลวต่ำหินหนืดหลอมละลาย ซึ่งมีความหนาแน่นต่ำกว่าเสื้อคลุมใน asthenosphere มันลอยขึ้นไปสู่ความดันพื้นผิวที่โค้งเกาะภูเขาไฟ (โค้งเกาะภูเขาไฟ) ชิดขนานกับสลัก หินปูนเกิดขึ้นจากการมีชีวิตทางทะเลเช่นปะการังตะกอนคาร์บอเนตจุดเดือดต่ำ เมื่อถูกความร้อนจะกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ปล่อยออกมาเพิ่มขึ้นปล่องภูเขาไฟ ผลประกอบการของวงจรคาร์บอนและสารอาหาร ตัวอย่างเกาะภูเขาไฟที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้รวมถึงหมู่เกาะสปินลิปปิและหมู่เกาะของประเทศญี่ปุ่น
2.2 แผ่นมหาสมุทรชนกับแผ่นทวีป
มหาสมุทรแผ่นเป็นบะซอลต์ ความหนาแน่นสูงกว่าแผ่นทวีปซึ่งเป็นหินแกรนิต เมื่อแผ่นชน แผ่นดินจะจมลงสู่มหาสมุทรและละลายเป็นหินหนืด เพราะแมกมาจะมีความหนาแน่นน้อยกว่าเสื้อคลุมใน asthenosphere มันยกความดันเปลือกทวีปเป็นภูเขา สายของภูเขาไฟที่พร้อมขนานชายฝั่งสลักดังแสดงในรูปที่ 2 เทือกเขาตัวอย่างโหมกระหน่ำผ่านกระบวนการนี้ ได้แก่ แอนดีส ฝั่งตะวันตกของอเมริกาใต้
ทวีป 2.3 แผ่นชน
กับแผ่นทวีปข้ามมหาสมุทรโลก ดังนั้นเมื่อแผ่นทวีปชนกัน เป็ดหนึ่งแผ่นจะลงไปใน asthenosphere ชิ้นหนึ่งคือการหยิบขึ้นมาเกยตื้น ภูเขาที่สูงมากสายขนานไปกับการนัดหยุดงานของภาพ 3. ตัวอย่างของภูเขาสูงที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้ ได้แก่ เทือกเขาหิมาลัย ในประเทศเนปาล, เทือกเขาแอลป์ ในยุโรป 3. ขอบเขตของแผ่นเปลือกโลกสวนเคลื่อนไหว (Transform เขตแดน) บนจานทั้งสอง ม้วนแต่ละอื่น ๆ ที่จะทำให้เกิดความผิดพลาดใหญ่ หากแผ่นย้ายกับแต่ละอื่น ๆ และก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและการเกิดแผ่นดินไหวเกิดขึ้น แต่มักจะไม่พบภูเขาไฟ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แผ่น แต่ละแผ่นเคลื่อนที่ใน ทิศทางที่แตกต่างกัน ผลจากการย้ายเพราะสิ่งต่างๆบนพื้นผิวโลก ทั้งบนพื้นดินและในมหาสมุทรเช่นภูเขา , หุบเขา , ภูเขา , ภูเขา , ที่ราบ , ภูเขาไฟ แอ่งน้ำแห่งการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลก 3
1 . จานมีแยก ( ซึ่งขอบเขต )
เกิดขึ้นในเขตแดนระหว่างสองแผ่นเปลือกโลก .ใต้มหาสมุทรมากกว่าในทวีป เช่น ขอบเขตของจาน อเมริกาเหนือ และเอเชียจาน สองแผ่นเคลื่อนที่ออกจากกัน ทำให้เกิดรอยแยกใต้ทะเล และ หินเหลวที่อยู่ลึกเพื่อดันออก รอยแยก . เมื่อสัมผัสกับความเย็นจะแข็ง ไม้กลายเป็นหินและเปลือกใหม่และมีสันเขาเมื่อจานแยกหินเหลวออกและดันตัวไปข้าง ๆพื้นมหาสมุทร ก็จะขยายออกไปเรื่อยๆ นี่ ทำไมมันมีเปลือกที่เกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลาในใต้มหาสมุทรแอตแลนติก และใช้ในทวีปอเมริกาเหนือจากยุโรปแยก
2 แผ่นมีการเคลื่อนที่ออกจากกัน ( แนวการมุดตัวของเปลือกโลกมหาสมุทร คือ 2.1 ) มี 3 แผ่น

ชนแผ่นดินและมหาสมุทรเคลื่อนที่ห่างจากต้นกำเนิด ถอดจานย้ายห่างจากแต่ละอื่น ๆการขับเคลื่อนของ เซลล์ ( เซลล์การพาความร้อน convection ) ในราศีกุมภ์ . ให้สองแผ่นชนทะเล รูปที่ 1 แผงเหนือแผ่นดินโลก อุณหภูมิลดความหนาแน่นสูงกว่า และจะจมลงไปในเขตมุดตัวของเปลือกโลก . ร่อง ( ร่องลึกกลางมหาสมุทรบนโลกทรุดลง เปลือกโลกใต้มหาสมุทร และแมนเทิลชั้นบนสุด ซึ่งมีจุดหลอมเหลวต่ำหลอมละลายเป็นหินหนืดซึ่งมีความหนาแน่นต่ำกว่าหิ้งในราศีกุมภ์ . มันลอยตัวขึ้นสู่พื้นผิวความดันเป็นส่วนโค้ง ( arc เกาะภูเขาไฟเกาะภูเขาไฟ ) ชิดขนานกับร่อง หินปูนที่เกิดจากสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น ปะการังหินตะกอนคาร์บอเนตต่ำจุดเดือด เมื่อความร้อนจะกลายเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลุกขึ้นออกปล่อง การหมุนเวียนคาร์บอนและวัฏจักรธาตุอาหาร .ตัวอย่างเกาะภูเขาไฟที่เกิดจากกระบวนการนี้รวมถึงสปินลิปปี้เกาะและเกาะญี่ปุ่น
2.2 . แผ่นมหาสมุทรชนกับแบบแผ่น
แผ่นมหาสมุทรเป็นภูเขาไฟ ความหนาแน่นสูงกว่าแบบแผ่น ซึ่งเป็นหินแกรนิต เมื่อแผ่นสองชนกัน โลกจะจมลงไปในมหาสมุทร และหลอมกลายเป็นหินหนืด เพราะความหนาแน่นน้อยกว่า หินหนืดแมนเทิลในราศีกุมภ์ .มันก็ดันเปลือกทวีปเป็นภูเขา เส้นของภูเขาไฟตามแนวชายฝั่งขนานกับท่อดังแสดงในรูปที่ 2 ตัวอย่างแต่งหน้าผ่านขั้นตอนนี้ ได้แก่ เทือกเขา Andes ชายฝั่งตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้

2.3 แผ่นชนกันด้วยแผ่นทวีปเหนือมหาสมุทรโลก ดังนั้นเมื่อแผ่นเปลือกโลกทวีปปะทะกัน หนึ่งแผ่น จะมุดลงไปในราศีกุมภ์ .อีกชิ้นคือ รับติด ภูเขาสูงมาก เส้นขนานกับการนัดหยุดงานของภาพ 3 ตัวอย่างของภูเขาสูงที่เกิดจากกระบวนการนี้ ได้แก่ เทือกเขาหิมาลัย ในเนปาลเทือกเขาแอลป์ ในยุโรป 3 ขอบเขตของแผ่นเปลือกโลกเคลื่อนไหวสวน ( แปลงขอบเขต ) 2 แผ่น ม้วนแต่ละอื่น ๆเพื่อให้เกิดความผิดพลาดใหญ่ถ้าจานย้ายกับแต่ละอื่น ๆและทำให้เกิดการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและแผ่นดินไหวเกิดขึ้น แต่มักจะไม่พบภูเขาไฟ