In response to the extensive develo

In response to the extensive development of upland rice on the hillsides of the Malagasy highlands, alternative cropping systems based on conservation agriculture have been recommended to halt loss of soil fertility. To assess the yield performances of these cropping systems, an experiment was set up in 2003 at Andranomanelatra (1640 m asl) in the Malagasy highlands. Grain yield, yield components, biomass accumulation and nitrogen uptake of upland rice were analyzed in the 2004–2005, 2006–2006, and 2006–2007 seasons, and root length density was measured in the 2007–2008 season. The rice crop was planted every second year following two different crops: maize intercropped with soybean (M + S, with both conventional tillage and no tillage) and maize intercropped with Brachiaria ruziziensis (M + B only with no tillage). For each cropping system, two levels of fertilization were used: no fertilizer or application of organic inputs and mineral fertilizer. The season, cropping system, and fertilization treatment had significant effects on rice grain yields. Higher yields were associated with a greater number of plants per m2, which decreased significantly over the three seasons, probably due to the highly variable beginning of the rains, and in the final season, with attacks by soil insects. The rice yield with conventional tillage was the highest and differed significantly from rice yield when maize was intercropped with Brachiaria under the no-till system, but not when the maize was intercropped with soybean with no tillage. In all three seasons, grain yields were closely linked to crop N at harvest. Differences in N uptake between treatments appeared very early in the crop cycle. Under conventional tillage, root length density at 68 days after sowing was higher between 0 and 30 cm depth than with no tillage. In these cold highlands conditions, plant establishment appeared to be more difficult with no tillage and resulted in reduced plant development and plant N uptake, particularly when rice was planted after maize intercropped with Brachiaria.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในตอบสนองต่อการพัฒนาอย่างละเอียดค่อยข้าวบนเนินเขาของไฮแลนด์มาดากัสการ์ สำรองระบบครอบตามเกษตรอนุรักษ์ได้ถูกแนะนำให้หยุดการสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของดิน การประเมินประสิทธิภาพผลผลิตของระบบการปลูกพืช การทดลองถูกเซ็ตอัพใน 2003 ที่ Andranomanelatra (1640 m asl) ในไฮแลนด์มาดากัสการ์ ผลผลิตข้าว มีวิเคราะห์องค์ประกอบผลผลิต รวบรวมชีวมวล และการดูดซับไนโตรเจนค่อยข้าวในฤดูกาล 2004-2005 ปี 2006 – 2006 และปี 2006 – 2007 และรากยาวหนาแน่นมีวัดในฤดูกาล 2007-2008 เพาะปลูกข้าวได้ปลูกทุกปีสองต่อพืชแตกต่างกันสอง: ข้าวโพดกับถั่วเหลือง (M S, intercropped ทั้ง tillage ธรรมดาและไม่ tillage) และข้าวโพด intercropped กับกับลักษณะ Brachiaria (M B เท่ากับไม่ tillage) สำหรับแต่ละระบบครอบ ใช้ระดับ 2 ของการปฏิสนธิ: ปุ๋ยหรือปัจจัยการผลิตเกษตรอินทรีย์และปุ๋ยแร่ไม่ ฤดูกาล ครอบระบบ และการรักษาในปัจจุบันมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญให้ผลผลิตเมล็ดข้าว อัตราผลตอบแทนสูงได้สัมพันธ์กับจำนวนพืชต่อ m2 ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญมากกว่าฤดูกาล 3 อาจเนื่องจากต้นสูงผันแปร ของฝน และ ในขั้นสุดท้ายฤดู กาล ด้วยการโจมตีโดยแมลงดิน มากขึ้น ผลผลิตข้าวกับ tillage ธรรมดาสูงสุด และแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากผลผลิตข้าวเมื่อข้าวโพดถูก intercropped กับ Brachiaria ภาย ใต้ระบบไม่มีลิ้นชักเก็บเงิน แต่ไม่ เมื่อข้าวโพดถูก intercropped กับถั่วเหลืองกับ tillage ไม่ ในซีซั่นสามทั้งหมด ผลผลิตข้าวได้อย่างใกล้ชิดกับพืช N ที่เก็บเกี่ยว ปรากฏความแตกต่างในการดูดธาตุอาหาร N ระหว่างการรักษาแรกสุดในรอบการเพาะปลูก ภายใต้ tillage ธรรมดา ความหนาแน่นของความยาวรากที่ 68 วันหลัง sowing สูงระหว่าง 0 และ 30 ซม.ลึกกว่า ด้วย tillage ไม่ ในเงื่อนไขเหล่านี้เย็นไฮแลนด์ โรงงานก่อตั้งปรากฏ กับ tillage ไม่ยาก และทำให้เกิดการพัฒนาพืชลดลงและดูดธาตุอาหารพืช N โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้าวเมื่อถูกปลูกหลังจากข้าวโพด intercropped กับ Brachiaria

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในการตอบสนองต่อการพัฒนาอย่างกว้างขวางของข้าวไร่บนเนินเขาของที่ราบสูงมาดากัสการ์ระบบการปลูกพืชทางเลือกที่อยู่บนพื้นฐานของการเกษตรการอนุรักษ์ได้รับการแนะนำที่จะหยุดการสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของดิน ในการประเมินการแสดงผลผลิตของระบบการปลูกพืชเหล่านี้การทดลองถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2003 ที่ Andranomanelatra (1,640 เมตร ASL) ในที่ราบสูงมาดากัสการ์ ผลผลิตองค์ประกอบผลผลิตมวลชีวภาพสะสมและดูดซึมไนโตรเจนของข้าวไร่ได้รับการวิเคราะห์ใน 2004-2005, 2006-2006, 2006-2007 และฤดูกาลและความหนาแน่นของความยาวรากวัดในฤดูกาล 2007-2008 การเพาะปลูกข้าวปลูกทุกปีที่สองต่อไปนี้สองพืชที่แตกต่างกันข้าวโพดแซมด้วยถั่วเหลือง (M + S มีทั้งการไถพรวนปกติและไม่มีการไถพรวน) และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แซม Brachiaria ruziziensis (M + B เท่านั้นที่ไม่มีการไถพรวน) สำหรับแต่ละระบบการปลูกพืชสองระดับของการปฏิสนธิถูกนำมาใช้: ไม่มีปุ๋ยหรือการใช้ปัจจัยการผลิตปุ๋ยอินทรีย์และแร่ธาตุ ฤดูระบบการปลูกพืชและการรักษาความอุดมสมบูรณ์มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อผลผลิตข้าว อัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้นที่เกี่ยวข้องกับจำนวนมากของพืชต่อ m2 ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงฤดู​​กาลที่สามอาจเป็นเพราะจุดเริ่มต้นตัวแปรสูงของฤดูฝนและในฤดูกาลสุดท้ายที่มีการโจมตีโดยแมลงในดิน ผลผลิตข้าวที่มีการไถพรวนปกติสูงสุดและแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญจากผลผลิตข้าวเมื่อข้าวโพดถูกแซม Brachiaria ภายใต้ระบบไม่จน แต่ไม่เมื่อข้าวโพดถูกแซมถั่วเหลืองที่ไม่มีการไถพรวน ในทั้งสามฤดูกาลผลผลิตมีการเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับพืชที่ยังไม่มีการเก็บเกี่ยว ไม่มีความแตกต่างในความเข้าใจระหว่างการรักษาปรากฏมากในช่วงต้นรอบการเพาะปลูก ภายใต้การไถพรวนชุมนุมหนาแน่นยาวรากที่ 68 วันหลังหยอดเมล็ดสูงระหว่าง 0 และ 30 ซม. ความลึกกว่าที่ไม่มีการไถพรวน ในเงื่อนไขเหล่านี้ที่ราบสูงเย็นจัดตั้งโรงงานที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องที่ยากมากที่ไม่มีการไถพรวนและผลในการพัฒนาพืชที่ลดลงและยังไม่มีพืชดูดซึมโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้รับการปลูกข้าวข้าวโพดหลังจากแซม Brachiaria

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตอบสนองต่อการพัฒนาที่กว้างขวางของข้าวไร่บนเนินเขาของมาลากาซี ไฮแลนด์ , ทางเลือกระบบการปลูกพืชขึ้นอยู่กับการเกษตรการอนุรักษ์ได้รับการแนะนำเพื่อหยุดการสูญเสียความอุดมสมบูรณ์ของดิน เพื่อประเมินสมรรถนะของระบบการปลูกพืช ผลผลิตเหล่านี้เป็นการทดลอง ถูกจัดตั้งขึ้นในปี 2003 ที่ andranomanelatra ( 1640 เมตร asl ) ในประเทศที่ไฮแลนด์ ผลผลิตองค์ประกอบผลผลิตและการสะสมธาตุอาหารไนโตรเจนและผลผลิตของข้าวไร่มาวิเคราะห์ใน 2004 – 2005 , 2006 – 2006 และ 2006 – 2007 ฤดูกาล และความหนาแน่นของความยาวราก วัดใน พ.ศ. 2550 – 2551 ฤดู ข้าวเป็นพืชที่ปลูกทุกสองปีต่อไปนี้สองพืชที่แตกต่างกัน : ข้าวโพดชุดกับถั่วเหลือง ( M Sกับการไถพรวนปกติ และไม่มีการไถพรวน ) และข้าวโพดชุดกับ Brachiaria ruziziensis ( M B เท่านั้นที่ไม่มีการไถพรวน ) สำหรับแต่ละระบบการปลูกพืช , สองระดับของการใช้ ไม่ใส่ปุ๋ยหรือการใช้ปัจจัยการผลิตอินทรีย์และปุ๋ยแร่ ฤดูกาล , ระบบการปลูกพืช และการรักษาอิทธิพลต่อผลผลิตข้าวผลผลิตสูง มีความสัมพันธ์กับจำนวนต้นต่อตารางเมตร ซึ่งลดลงกว่าสามฤดูกาล เนื่องจากตัวแปรสูงช่วงต้นฤดูฝน และในฤดูกาลสุดท้ายกับการโจมตีโดยแมลงในดินผลผลิตข้าว ด้วยการไถพรวนปกติได้สูงสุดและแตกต่างอย่างมากจากผลผลิตข้าวเมื่อปลูกข้าวโพดชุดกับ Brachiaria ภายใต้ระบบไม่จน แต่เมื่อปลูกข้าวโพดชุดกับถั่วเหลืองที่ไม่มีการไถพรวน . ในทั้งสามฤดู ผลผลิตถูกเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับพืชที่เกี่ยว ความแตกต่างระหว่างการรักษาในไนโตรเจนปรากฏเร็วมากในรอบปีภายใต้การไถพรวนปกติ ความยาวราก ความหนาแน่นที่ 68 วัน หลังปลูกมีค่าระหว่าง 0 และ 30 เซนติเมตร กว่าที่ไม่มีการไถพรวน . ในที่ราบสูงหนาวเงื่อนไขการจัดตั้งโรงงานที่ปรากฏจะยากขึ้นด้วย ไม่มีการไถพรวนและมีผลในการลดการพัฒนาพืชและพืชไนโตรเจน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อปลูกข้าวหลังจากข้าวโพดชุดกับ Brachiaria .