For example, take a premium-priced

For example, take a premium-priced brand such as Procter Gamble’s Pantene. It faces pressure from many competing brands, but especially private-label and store and discount brands that may cost much less. In tough times, even small cost savings may matter to penny-pinching consumers. Assume a bottle of Pantene cost a $1 more than its main competitors but could be used for up to 100 shampoos. In that case, the price difference is really only one cent per sham-poo. By framing the purchase decision in terms of cost per shampoo, P&G could then advertise, “Isn’t worth a penny more to get a better-looking head of hair?

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตัวอย่างเช่นใช้แบรนด์พรีเมี่ยมที่มีราคาเช่นแพนทีนพร็อกเตอร์เล่นการพนันของ ใบหน้าแรงกดดันจากแบรนด์คู่แข่งจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเอกชนฉลากและการจัดเก็บและส่วนลดแบรนด์ที่อาจเสียค่าใช้จ่ายน้อยมาก ในเวลาที่ยากลำบากประหยัดค่าใช้จ่ายที่มีขนาดเล็กอาจจะมีความสำคัญต่อผู้บริโภคขี้ตืด สมมติขวด Pantene เสียค่าใช้จ่าย 1 ดอลลาร์มากขึ้นกว่าคู่แข่งหลัก แต่อาจจะใช้สำหรับการได้ถึง 100 แชมพูในกรณีที่ผลต่างของราคาที่เป็นจริงเพียงหนึ่งร้อยละหลอกลวงภู่ โดยกรอบการตัดสินใจซื้อในแง่ของค่าใช้จ่ายต่อแชมพูพี& g แล้วสามารถโฆษณา "จะไม่คุ้มค่าเงินมากขึ้นที่จะได้รับหัวดีกว่ามองของผม?

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตัวอย่าง มีแบรนด์พรีเมี่ยมราคาถูกเช่น Pantene Procter หวย จะเผชิญแรงกดดันจากหลายแบรนด์แข่งขัน แต่เฉพาะป้าย ชื่อส่วนตัว และร้านค้า และส่วนลดแบรนด์ซึ่งอาจมากน้อยกว่า ในเวลาที่ยากลำบาก แม้เล็กประหยัดอาจเรื่องให้กับผู้บริโภคที่เหนียว คิดว่า ขวดของ Pantene ต้นทุน $1 มากกว่าคู่แข่งหลัก แต่สามารถใช้แชมพูถึง 100 ในกรณี ผลต่างของราคาได้จริง ๆ เพียงหนึ่งเปอร์เซ็นต์ต่อปูซัมซุยโป โดยเฟรมมีการตัดสินใจซื้อในแง่ของต้นทุนต่อแชมพู P&G สามารถโฆษณา, "ไม่คุ้มค่าเงินมากขึ้นได้ดียิ่งขึ้นมองผม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตัวอย่างเช่นใช้แบรนด์ระดับพรีเมี่ยมราคาเช่น pantene ของ Procter โรงแรมหันหน้าเข้าหาความดันจากแบรนด์แข่งขันกันจำนวนมากแต่แบรนด์โดยเฉพาะส่วนตัว - ป้ายและจัดเก็บและส่วนลดที่อาจมีต้นทุนน้อยลงมาก ในช่วงเวลาที่ยากลำบากแม้แต่การประหยัดต้นทุนขนาดเล็กอาจเป็นเรื่องสำคัญกับ ผู้บริโภค ราคา - pinching ขวดนมที่จะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายของ pantene $ 1 ที่มากกว่าคู่แข่งหลักของโรงแรมแต่สามารถใช้สำหรับผู้ใช้บริการสูงถึง 100 แชมพูครีมหรือโลชั่นในกรณีที่ความแตกต่างด้านราคาที่เป็นจริงๆเพียงหนึ่งปีต่อคนตบตา - ปู โดยวางกรอบการตัดสินใจซื้อในเงื่อนไขของราคาต่อแชมพู p&g ไม่สามารถโฆษณา"ไม่ได้มีมูลค่าเงินที่มากกว่าเพื่อมุ่งหน้าไปได้ดียิ่งขึ้นซึ่งมีมุมมองของผมแล้ว