“I use Facebook mostly for organizi

“I use Facebook mostly for organizing, for work with Tufts Divest [for Our Future] and Students for a Just and Stable Future and to connect with people all around the country who all are on Facebook,” he said. “It’s just a tool. You can use it well, you can use it poorly, you can use it productively or you can waste time on it.”
Sharew found that the time he spends online can usually be better spent studying or spending time with friends. He explained that he deactivated his Facebook account about one year ago.
“I cut out Facebook because I realized the time that I was spending on Facebook was making inroads into the time that I should’ve spent studying and connecting with other people,” he said. “Time spent with real people or time spent doing things I was supposed to be doing was much more valuable time spent than the time spent on Facebook.”
A 2010 article in The New Yorker examined various studies linking Facebook use and mood and found that the way in which people use the site — and not the duration of use — was the deciding factor in determining whether there was an increase or decrease in level of happiness. According to the article, researchers from Carnegie Mellon University observed positive mood changes when participants directly engaged with others through messages, wall posts or “likes,” but there was an increase in loneliness and disconnect when people passively browsed content.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

"ใช้ Facebook เพื่อการจัดการ งานทัฟส์ Divest [สำหรับอนาคตของเรา] และนักเรียนเพียงและอนาคตที่มั่นคง และเชื่อมต่อกับคนทั่วประเทศทั้งหมดใน Facebook เขากล่าวว่า "มันเป็นเพียงเครื่องมือ คุณสามารถใช้มันดี คุณสามารถใช้งาน คุณสามารถใช้มันบันเทิงทั้ง หรือคุณสามารถเสียเวลากับมัน"
Sharew พบว่า เวลาที่เขาใช้ออนไลน์สามารถมักจะดีกว่าใช้เรียน หรือใช้เวลากับเพื่อน เขาอธิบายว่า เขาปิดบัญชีเฟสบุ๊คของเขาประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา
"ผมตัดออก Facebook เนื่องจากฉันรู้เวลาที่ฉันถูกใช้บน Facebook ได้ทำรองเวลาที่ฉันควรใช้การศึกษา และเชื่อมต่อกับคนอื่น, " เขากล่าวว่า "เวลาที่ใช้กับผู้คน หรือเวลาทำสิ่งที่ฉันควรจะทำถูกเวลามากคุณค่ามากกว่าเวลาที่ใช้ใน Facebook"
บทความใน The New Yorker ใน 2010 การตรวจสอบการเชื่อมโยงการใช้ Facebook และอารมณ์ต่าง ๆ ศึกษา และพบว่าวิธีการที่ผู้ใช้เว็บไซต์ — และไม่ระยะเวลาการใช้งาน — ถูกตัดสินใจในปัจจัยในการกำหนดว่า มีการเพิ่ม หรือลดระดับของความสุข ตามบทความ นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอนสังเกตการเปลี่ยนแปลงอารมณ์บวกเมื่อผู้เข้าร่วมโดยตรงร่วมกับผู้อื่นผ่านข้อความ ผนังโพสต์หรือ "ชอบ" แต่มีการเพิ่มขึ้นของความเหงา และปลดเมื่อคน passively เรียกดูเนื้อหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

"ผมใช้ Facebook เป็นส่วนใหญ่สำหรับการจัดระเบียบสำหรับการทำงานร่วมกับทัฟส์ปลด [อนาคตของเรา] และนักเรียนเพื่อเพียงและมั่นคงในอนาคตและการเชื่อมต่อกับทุกคนทั่วประเทศที่ทุกคนอยู่ใน Facebook," เขากล่าวว่า "มันเป็นเพียงเครื่องมือ คุณสามารถใช้มันอย่างดีคุณสามารถใช้มันไม่ดีคุณสามารถใช้งานได้มีประสิทธิภาพหรือคุณสามารถเสียเวลาในมัน. "
Sharew พบว่าเวลาที่เขาใช้เวลาออนไลน์มักจะมีการใช้จ่ายที่ดีขึ้นหรือการศึกษาการใช้เวลาอยู่กับเพื่อน ๆ เขาอธิบายว่าเขาปิดการใช้งานบัญชี Facebook ของเขาประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา
"ผมตัดออก Facebook เพราะผมรู้ว่าเวลาที่ฉันได้รับการใช้จ่ายใน Facebook ได้ทำให้ inroads ในเวลาที่ฉันควรจะได้ใช้เวลาศึกษาและการเชื่อมต่อกับคนอื่น ๆ " เขา กล่าวว่า "เวลาที่ใช้กับคนจริงหรือเวลาที่ใช้ในการทำสิ่งที่ผมควรจะทำมีคุณค่ามากขึ้นกว่าเวลาที่ใช้ในเวลาที่ใช้ใน Facebook."
2010 บทความในเดอะนิวยอร์กเกอร์การตรวจสอบการเชื่อมโยงการศึกษาต่างๆ Facebook และใช้อารมณ์และพบว่า วิธีที่คนใช้เว็บไซต์ - และไม่ได้ระยะเวลาการใช้งาน - เป็นปัจจัยในการตัดสินใจในการกำหนดว่ามีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงในระดับของความสุข อ้างอิงจากบทความนักวิจัยจาก Carnegie Mellon University สังเกตอารมณ์เชิงบวกการเปลี่ยนแปลงเมื่อผู้เข้าร่วมมีส่วนร่วมโดยตรงกับผู้อื่นผ่านข้อความโพสต์ผนังหรือ "ชอบ" แต่มีการเพิ่มขึ้นในความเหงาและตัดการเชื่อมต่อเมื่อมีคนเรียกดูเนื้อหาอย่างอดทน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

" ฉันใช้ Facebook ส่วนใหญ่สำหรับการทำงานกับ Tufts ปลด [ สำหรับนักศึกษา ] อนาคตของเรา และเพื่ออนาคตและมีเสถียรภาพและเพื่อเชื่อมต่อกับคนทั่วประเทศ ซึ่งทั้งหมดอยู่ใน Facebook , " เขากล่าวว่า " มันเป็นแค่เครื่องมือ คุณสามารถใช้มัน คุณสามารถใช้มันได้ คุณสามารถใช้มันอย่างหรือคุณจะต้องเสียเวลากับมัน "
.sharew พบว่า เวลาเขาใช้ออนไลน์สามารถมักจะดีกว่า ใช้เวลาเรียนหรือใช้เวลากับเพื่อน ๆ เขาอธิบายว่าเขาใช้บัญชี Facebook ของเขาเมื่อปีก่อน .
" ฉันตัด Facebook เพราะฉันรู้ว่าเวลาที่ฉันได้ใช้ใน Facebook คือ inroads ในเวลาที่ผมควรได้ใช้เวลาศึกษาและเชื่อมต่อกับคนอื่น ๆ " เขากล่าว" เวลาที่ใช้กับคนจริงๆ หรือเวลาที่ใช้ทำในสิ่งที่ฉันควรจะทำคือมีคุณค่ามากขึ้นใช้เวลามากกว่าเวลาที่ใช้ใน Facebook . "
2010 บทความในนิวยอร์กตรวจสอบการศึกษาต่างๆเชื่อมโยงใช้ Facebook และอารมณ์ และพบว่าวิธีที่ผู้คนใช้เว็บไซต์ - และระยะเวลาของการใช้เป็นปัจจัยในการตัดสินใจในการพิจารณาว่ามีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงในระดับของความสุข ตามบทความนักวิจัยจาก Carnegie Mellon University ได้เปลี่ยนอารมณ์เป็นบวกเมื่อผู้เข้าร่วมโดยตรงร่วมกับผู้อื่นผ่านทางข้อความที่โพสต์ผนังหรือ " ชอบ " แต่เป็นเพิ่มความเหงาและตัดการเชื่อมต่อเมื่อคนเฉยๆ
ดูเนื้อหา