It was found that Euflexxa had the

It was found that Euflexxa had the lowest
cost–utility ratio of all the treatments at
$5785.52/QALY gained when compared to no
treatment, while Hyalgan had the highest
cost–utility ratio at $24,171.43/QALY gained.
It was also determined that Euflexxa, Synvisc
and Supartz were cost-effective options over
conventional care assuming a
willingness-to-pay threshold of $50,000/QALY.
When comparing Euflexxa to all other IA-HA
brands, Euflexxa is a cost-effective option over
Hyalgan, Supartz and Durolane assuming a
willingness-to-pay threshold of $50,000/QALY,
and was a dominant treatment strategy over
Synvisc.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พบว่า Euflexxa มีต่ำที่สุดอัตราส่วนต้นทุนอรรถประโยชน์ของการรักษาที่$5785.52/QALY ได้รับเมื่อเทียบกับไม่มีรักษา ขณะที่การมีสูงที่สุดอัตราส่วนต้นทุนอรรถประโยชน์ที่ $24,171.43/QALY รับมันก็ตั้งใจว่า Euflexxa, Synviscและ Supartz มีตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าดูแลทั่วไปโดยถือว่าเป็นขีดจำกัดความตั้งใจเพื่อชำระเงินค่าของ $50,000/QALYเมื่อเปรียบเทียบ Euflexxa การทั้งหมดอื่น ๆ IA-ฮาแบรนด์ Euflexxa เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าการ Supartz และ Durolane โดยถือว่าเป็นเกณฑ์ความตั้งใจเพื่อชำระเงินค่าของ $50,000/QALYและกลยุทธ์หลักในการรักษามากกว่าSynvisc

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันก็พบว่า Euflexxa มีต่ำสุด
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายประโยชน์ของการรักษาทั้งหมดที่
$ 5,785.52 / รับ QALY เมื่อเทียบกับไม่มี
การรักษาในขณะที่ Hyalgan ได้สูงสุด
อัตราส่วนค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคที่ $ 24,171.43 / รับ QALY.
นอกจากนั้นยังระบุว่า Euflexxa, Synvisc
และ Supartz ตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
การดูแลการชุมนุมสมมติให้มีการ
เกณฑ์ความเต็มใจที่จะจ่าย $ 50,000 / QALY.
เมื่อเปรียบเทียบ Euflexxa อื่น ๆ ทั้งหมด IA-HA
แบรนด์ Euflexxa เป็นตัวเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่า
Hyalgan, Supartz และ Durolane สมมติให้มี
ความตั้งใจ เกณฑ์-to- จ่าย $ 50,000 / QALY,
และเป็นกลยุทธ์การรักษาที่โดดเด่นกว่า
Synvisc