ลักษณะทั่วไป
คำว่า "โรคกระเพาะ" ตามความหมายของแพทย์ หมายถึง แผลที่เกิดบนเยื่อบุกระเพาะอาหาร (stomach)
หรือลำไส้เล็กส่วนต้นหรือดูโอดีนัม (duodenum) ตรงกับคำว่า แผลเพ็ปติก (Peptic ulcer) แต่เนื่องจาก
เรามักจะวินิจฉัย ผู้ที่มีอาการปวดท้องตรงยอดอกหรือใต้ลิ้นปี่ที่เกิดก่อนหรือหลังกินอาหารว่าเป็น "โรคกระเพาะ"
โดยไม่มีการตรวจยืนยันด้วยการส่องกล้องตรวจ หรือเอกซเรย์โดยการกลืนแป้งแบเรียม ดังนั้น จึงมีความหมาย
ครอบคลุมกว้างขวางมากกว่า แผลเพ็ปติกเพียงอย่างเดียว และคงใกล้เคียงกับความหมายของคำว่า "อาหารไม
่ย่อย" ซึ่งมีสาเหตุอันหลากหลายดังนั้นในที่นี้ จะขอใช้คำว่า แผลเพ็ปติก เมื่อกล่าวถึงโรคแผลที่ลำไส้เล็กส่วน
ต้นหรือแผล ดียู (Duodenal ulcer/DU) และโรคแผลที่กระเพาะอาหาร หรือแผลจียู (Gastric ulcer/
GU) แผลเพ็ปติก เป็นโรคที่พบได้บ่อย ประมาณ 10-20% ของคนทั่วไปจะมีโอกาสเป็นโรคนี้ในช่วงใดช่วง
หนึ่งของชีวิต แผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น (ดียู) พบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง ประมาณ 2-4 เท่า และพบมากในช่วง
อายุประมาณ 30-55 ปี ขณะที่แผลที่กระเพาะอาหาร พบในผู้ชายพอ ๆ กับผู้หญิง และพบในช่วงอายุประมาณ
55-70 ปี แต่ทั้ง 2 โรคนี้ก็สามารถพบได้ในคนทุกวัย
อาการ
มักมีอาการปวดท้องเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง ตรงบริเวณกลางยอดอก หรือใต้ลิ้นปี่
บางคนอาจค่อนมาทางขวาหรือซ้ายก็ได้ เวลาที่ปวดมักจะสัมพันธ์กับมื้ออาหาร เช่น ก่อนหรือหลังอาหาร ลักษณะการ
ปวด อาจปวดแสบ ปวดตื้อ จุกเสียด หรือมีความรู้สึกหิวข้าวก่อนเวลาอาหาร บางครั้งอาจมีอาการ
คลื่นไส้อาเจียน หรือเรอเปรี้ยวร่วมด้วย ในผู้ป่วยที่มีแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น
มักมีอาการปวดท้อง หลังอาหารประมาณ 1-3 ชั่วโมง หรือขณะท้องว่าง โดยมากจะเริ่มปวดตอน
สาย ๆ หลังกินข้าวแล้ว จะปวดมากขึ้น
ในช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ และอาจปวดมากตอนดึก ๆ จนต้องตื่นนอนหรือนอนไม่หลับ อาการปวดมักจะดีขึ้น
ทันทีหลังกินอาหาร ดื่มนม กินยาลดกรด หรืออาเจียน ถ้าแผลลุกลามไปที่ตับอ่อน
อาจทำให้มีอาการปวดหลังร่วมด้วย และไม่หายปวดท้องหลังกินอาหาร ในผู้ป่วยที่มีแผลที่กระเพาะ
อาหาร มักมีอาการปวดท้องหลังอาหาร ประมาณ 1/2-1 ชั่วโมง บางคนอาจมีอาการเบื่ออาหาร
(ไม่อยากกิน เพราะกลัวปวดท้อง) และน้ำหนักลด อาการปวดท้องมักเป็นอยู่นานหลายสัปดาห์ แล้ว
อาจหายไปได้เอง แต่ก็มักจะมีอาการกำเริบภายใน 1-2 ปี เป็นส่วนใหญ่
อย่างไรก็ตาม ลักษณะอาการของผู้ป่วยแผลที่ลำไส้เล็กส่วนต้น กับแผลที่กระเพาะอาหาร บางครั้งก็
อาจจะแยกกันไม่ได้ชัดเจนเช่น อาการปวดท้องตอนดึก ก็อาจเกิดในผู้ป่วยแผลที่กระเพาะอาหารก็ได้
เช่นกัน ผู้ป่วยบางคนอาจเป็นแผลเพ็ปติกโดยไม่มีอาการแสดงก็ได้ เช่น พบว่า กลุ่มที่เป็นแผลจาก
ยาต้านอักเสบที่ไม่ใช่สเตอรอยด์ มีประมาณ 50% ที่ไม่ปรากฎอาการ หรือผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อน
(เช่น ถ่ายดำ) โดยไม่มีอาการปวดท้องมาก่อนก็ได้
การวินิจฉัยที่แน่นอน ต้องอาศัยการส่องกล้องตรวจกระเพาะอาหารและลำไส้ หรือเอกซเรย์โดยการ
กลืนแป้งแบเรียม