The precise name for Wat Chang Hai

The precise name for Wat Chang Hai should be Wat Ratburanaram, nevertheless villagers and devotees tended to called Wat Chang Hai meaning " Elephant Present or Elephant Give “. The history of Wat Chang Hai has been told millions of times from generation to generation, but the main attentions are Somdet Luang Pu Thuat the most famous monk in whole of Thailand and faraway land, where this great master personal history centered in the old Siam. Somdet Luang Pu Thuat is a very well-known and famous monk during the Kingdom of Ayutthaya. His Buddhist preaching was well received from Southern Thailand and right to the capital of Krung Sri Ayutthaya, where his knowledge of Dhamma and Buddhist Tripitaka has captured the heart of royalties and the commoner right through his lifetimes.

According to legend, Phraya Kamdum the Lord of Sai Buri was exploring a site to build a new town as a gifts for his younger sister, as he was indecisive which location to choose and pick, he used his shrewdness by using two of his owned elephants to lead the way in seeking the most suitable site whereas the new town will be situated. After several days of travelling, the elephant come to complete stopped at the present-day Wat Chang Hai location, where the elephant walks the surrounding area for three rounds and thereafter roared out loud. Lord Phraya Kamdum was very contented on the location but his younger sister was not satisfied and she requested Phraya Kamdum to looks for another location. To please his sister, Lord Phraya Kamdum continue to search for new location, finally they found a new place called Krue Se in today Pattani province where he built a new town for his sister. Lord Phraya Kamdum of Sai Buri still cannot stop thinking about the first location and decided to build a monastery on the site and named it Wat Chang Hai “ Elephant Presents “ and presented it to the revered Lanka “ Somdet Luang Pu Thuat ” of Sai Buri and appointed him chief abbot of Wat Chang Hai, villagers in and around started to addressed him Sir Chang Hai or Master Lanka and some even called him Luang Phor Dam of Sai Buri.

In what manner the names of Somdet Luang Pu Thuat came about in different regions and places no one knows the actual answers, because this great revered monk hold many names and titles during the Ayutthaya period, and yet every followers believed and agreed that Somdet Luang Pu Thuat, Somdet Chao Phra Kho, Phrarajchamuni Sameeram Khunupanachan, Luang Phor Dam or Sir Chang Hai is the only one and same holy monk that every followers mentioned about, where his distinguishable personality and knowledge of Tripitaka and mystical powers have won the hearts of many followers.

When Somdet Luang Pu Thuat was staying in Sai Buri, he passes his wishes to his close followers, that should he departed this world, he would like his body brought back to Wat Chang Hai for cremation and his ashes be kept there, he even told his followers that should his body fluids drop along the way to Wat Chang Hai, all they have to do is just light a sandalwood incense stick and stick onto the ground, where it will became a sacred place liked the final journey he made back from Ayutthaya to Wat Phra Kho also known as Wat Ratchapraditsathan, Sathing Phra district, Songhkla province.

When Phra Archan Thim Dhamma Tharo was appointed chief abbot of Wat Chang Hai, He was wondering how the monastery came to exist for hundreds of years, he try to find as much information as possible, but villagers are unable to provide him a clear answer. Then one night, he had a strange dream where he saw four monks walking out from the reservoir toward the monastery, the first monk that emerge were Luang Phor Sri, follow by Luang Phor Thong and Luang Phor Chan while the last one he saw was an elderly monk walking slowly with a twisted walking cane. Phra Archan Thim Dhamma Tharo was very peculiar on that elderly monk with a walking twisted cane by inquiring various issue concerning Wat Chang Hai, through which the elderly monk with a walking twisted cane begin to explains each and every details regarding Wat Chang Hai and leisurely walks through Phra Archan Thim Dhamma Tharo by describing the monastery’s boundaries in all four directions. Before dawn, the elderly monk with a walking twisted cane told Phra Archan Thim Dhamma Tharo “ Should you have any queries concerning Wat Chang Hai, all you need is let me know in your dream and I will assist you whatever I can “ with that words, the elderly monk with a walking twisted cane and the other monks just disappeared into the mist.

Phra Archan Thim Dhamma Tharo began to recall those words that the elderly monk told him, upon which he becomes conscious that the elderly monk was none other than Revered Somdet Luang Pu Thuat. Phra Archan Thim Dhamma Tharo took many events into consideration and brings to mind those words mentioned by Revered Somdet Luang Pu Thuat, and with that inspiration whatever matter or issue Phra Archan Thim Dhamma Tharo carry out, it become visible that every issue went smoothly without much problem. Ultimately, Wat Chang Hai monastery was fully restored, but unfortunately Phra Archan Thim Dhamma Tharo was succumbed to digestive tract cancer and passed away peacefully on 30th November 1969. Currently, the ashes of Revered Somdet Luang Pu Thuat and Venerable Phra Archan Thim Dhamma Tharo were enshrined and kept inside the sacred pagoda of Wat Chang Hai.

Wat Chang Hai Ratburanaram sacred pagoda final gold leafs topping ceremony was performed by his Majesty the King Bhumibol Adulyadej on 13th April 1988.

For the past few hundred years, Wat Chang Hai has encountered all kinds of calamities from natures to man-made disasters and yet it has withstood and endured the unanticipated environments till it present day. In keeping with Buddha belief and practices, all the past and present abbots of Wat Chang Hai have dutifully upholds their Buddhist principles in addition to disseminating the teachings of Buddha to many of its followers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัดช้างไหชื่อแม่นยำควรวัด Ratburanaram อย่างไรก็ตามชาวบ้านและเลือกสรรค์ที่มีแนวโน้มที่ไหช้างวัดเรียกว่าหมายถึง "ปัจจุบันช้างหรือช้างให้" ประวัติความเป็นมาของวัดช้างไหได้รับการบอกล้านครั้งจากรุ่นสู่รุ่น แต่ attentions หลักมีสมเด็จหลวงปู่ Thuat สงฆ์ทั้งของไทยและดินแดนไกล ประวัติส่วนตัวหลักนี้มากศูนย์กลางสยามเก่าที่มีชื่อเสียงมากที่สุด Thuat สมเด็จหลวงปู่เป็นพระที่รู้จัก และมีชื่อเสียงในช่วงอาณาจักรอยุธยา พระพุทธวิหารทั้งจากประเทศไทยและสิทธิในการเป็นเมืองหลวงของกรุงศรีอยุธยา ซึ่งความรู้ธรรมะและพุทธศาสนาพระไตรปิฏกได้จับหัวใจของค่าภาคหลวงและขวา commoner ผ่านอายุการใช้งานของเขารับตามตำนาน Kamdum พระยาพระทรายบุรีถูกสำรวจไซต์เพื่อสร้างเมืองใหม่เป็นของขวัญสำหรับน้องของเขา เขาปล่อยสถานที่เก็บที่เลือก และรับ เขาใช้ shrewdness ของเขา โดยใช้ช้างเป็นเจ้าของของเขาทั้งสองเพื่อนำทางในการหาเว็บไซต์ที่เหมาะสมที่สุดในขณะที่การเมืองใหม่จะอยู่ หลังจากที่หลายวันของการเดินทาง ช้างมาทำหยุดที่ตำแหน่งวัดช้างไหเหตุการณ์ ที่ช้างเดินบริเวณสำหรับรอบที่สาม และหลังจากนั้น roared ดัง ๆ พระพระยา Kamdum ถูกมากพึงพอใจในสถานที่ แต่ไม่พอใจน้องสาวของเขา และเธอร้อง Kamdum เจ้าพระยาเพื่อหาตำแหน่งที่ตั้งอื่น เพื่อน้อง Kamdum พระยาพระกรุณาค้นหาตำแหน่งที่ตั้งใหม่ ในที่สุด พวกเขาพบใหม่ที่เรียกว่ากรือในจังหวัดปัตตานีวันนี้ที่เขาสร้างเมืองใหม่สำหรับน้อง Kamdum พระยาเจ้าของทรายบุรียังไม่หยุดคิดเกี่ยวกับตำแหน่งแรก และตัดสินใจที่จะสร้างวัดบนเว็บไซต์ และชื่อว่าวัดช้างไห "ช้างนำเสนอ" แสดงให้ศรีลังกาสิ่ง "สมเด็จหลวงปู่ Thuat" ของทรายบุรี และแต่งตั้งเขาประธานเจ้าอาวาสวัดช้างไห ชาวบ้าน และสถานเริ่มส่งเขารักช้างไฮ หรือ ศรีลังกาต้น และบางส่วนอาจเรียกเขาหลวงพ่อดำของทรายบุรีในลักษณะใดชื่อของสมเด็จหลวงปู่ Thuat มาในภูมิภาคต่าง ๆ และสถานไม่มีใครรู้คำตอบแท้จริง เพราะพระสิ่งดีนี้ค้างไว้หลายชื่อและชื่ออยุธยา และยังติดตามทุกเชื่อ และตกลงว่า Thuat สมเด็จหลวงปู สมเด็จเจ้าพระคอ Phrarajchamuni Sameeram Khunupanachan หลวงพ่อดำ หรือรักช้างไฮเป็นเพียงหนึ่งเดียวพระศักดิ์สิทธิ์ที่กล่าวถึงลูกศิษย์ทุกเกี่ยวกับและ ซึ่งบุคลิกภาพที่แตกต่างและความรู้พระไตรปิฏกและพลังอำนาจของเขาได้รับรางวัลหัวใจของลูกศิษย์มากขึ้นเมื่อ Thuat สมเด็จหลวงปู่ได้อยู่ในทรายบุรี เขาผ่านความปรารถนาของเขาไปปิดลูกศิษย์ของเขา ที่ควรเขาเสด็จจากไปโลกนี้ เขาต้องการให้ร่างกายของเขานำกลับไปวัดช้างไหสำหรับเผาศพ และขี้เถ้าของเขาถูกเก็บไว้มี เขาได้บอกลูกศิษย์ของเขาที่ ควรของเหลวที่ร่างกายของเขาวางตามวิธีการวัดช้างไห สิ่งที่พวกเขาต้องทำมีเพียงไฟไม้จันทน์ธูปและติดลงบนพื้นดิน ซึ่งมันจะกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชอบเดินทางสุดท้ายที่เขาทำกลับจากอยุธยาวัดพระคอหรือที่เรียกว่าวัด Ratchapraditsathan อำเภอสทิงพระ จังหวัด Songhklaเมื่อพระอาจารย์ Thim ธรรม Tharo ถูกแต่งตั้งหัวหน้าเจ้าอาวาสวัดช้างไห เขาถูกสงสัยว่า มีอยู่หลายร้อยปีมาบูรณะ เขาพยายามที่จะหาข้อมูลมากที่สุด แต่ชาวบ้านไม่ให้เขาได้คำตอบที่ชัดเจน แล้ว คืนหนึ่ง เขามีความฝันแปลก ๆ ที่เขาเห็นพระสงฆ์สี่เดินออกจากอ่างเก็บน้ำไปสู่อาราม พระครั้งแรกนั้นมีหลวงพ่อศรี ตามหลวงพ่อทองและหลวงพ่อจันทร์ขณะหนึ่งสุดท้ายที่เขาเห็นพระสูงอายุเดินช้ากับคนเดินเท้าบิด พระอาจารย์ Thim ธรรม Tharo ถูกมากเฉพาะบนพระที่สูงอายุด้วยเดินเท้าบิดโดยสอบถามปัญหาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดช้างไห ซึ่งพระสงฆ์ผู้สูงอายุ ด้วยเดินบิดเท้าเริ่มอธิบายรายละเอียดแต่ละวัดช้างไหและเดินสบาย ๆ ผ่านพระอาจารย์ Thim ธรรม Tharo โดยอธิบายขอบเขตของวัดทั้งหมดสี่ทิศ ก่อนรุ่งอรุณ พระผู้สูงอายุ ด้วยเดินเท้าบิดบอกพระอาจารย์ Thim ธรรม Tharo "คุณควรมีการสอบถามใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดช้างไห คุณมีแจ้งให้เราทราบในความฝันของคุณ และฉันจะช่วยให้คุณสิ่งที่ฉันสามารถ" ด้วยว่า คำ พระผู้สูงอายุ ด้วยเดินเท้าบิด และพระสงฆ์อื่น ๆ เพียงหายไปในม่านหมอกพระอาจารย์ Thim ธรรม Tharo เริ่มจำคำเหล่านั้นว่า พระแก่บอก ซึ่งเขาจะตระหนักว่า พระสูงอายุที่ไม่มีอื่น ๆ กว่าสักการะสมเด็จหลวงปู่ Thuat พระอาจารย์ Thim ธรรม Tharo เอาเหตุการณ์ต่าง ๆ มาพิจารณา และนำไปใจคำเหล่านั้นกล่าวถึงสักการะสมเด็จหลวงปู่ Thuat และ มีแรงบันดาลใจว่าสิ่งสำคัญ หรือออกพระอาจารย์ Thim ธรรม Tharo ดำเนินการ จะมองเห็นได้ที่จากไปได้อย่างราบรื่นไม่ มีปัญหามาก สุด อารามวัดช้างไหเต็มคืนกลับมา ได้แต่ยอมจำนนต่อโรคมะเร็งทางเดินอาหาร และผ่านไปสงบบน 30 1969 พฤศจิกายนพระอาจารย์ Thim ธรรม Tharo ปัจจุบัน ขี้เถ้าของสักการะสมเด็จหลวงปู่ Thuat และมินท์พระอาจารย์ Thim ธรรม Tharo ขึ้นประดิษฐาน และเก็บไว้ภายในพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ของวัดช้างไห วัดช้างไห Ratburanaram leafs เจดีย์มงคลสุดท้ายทองเติมพิธีทำ โดยพระภูมิพลอดุลยเดชบน 13 1988 เมษายนสำหรับผ่านมาไม่กี่ร้อยปี วัดช้างไหพบทุกชนิดของ calamities จากธรรมชาติถึงภัยที่มนุษย์สร้างขึ้น และยัง มีความทนทาน และทนสภาพแวดล้อมสภาวะจนมันแสดงวันนั้น เพื่อความเชื่อพระพุทธเจ้าและปฏิบัติ abbots อดีต และปัจจุบันของวัดช้างไหมี dutifully ปีพ.ศ.พุทธธรรมของพวกเขานอกจากการเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้าหลายลูกศิษย์ของ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชื่อที่ถูกต้องสำหรับวัดช้างไห้ควรจะวัด Ratburanaram แต่ชาวบ้านและสาวกมีแนวโน้มที่จะเรียกว่าวัดช้างไห้ความหมาย "ปัจจุบันช้างหรือช้างให้". ประวัติศาสตร์ของวัดช้างไห้ได้รับการบอกล้านครั้งจากรุ่นสู่รุ่น แต่ ความสนใจหลักคือสมเด็จหลวงปู่ทวดพระภิกษุสงฆ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในภาพรวมของประเทศไทยและที่ดินที่ห่างไกลที่นี้ประวัติส่วนตัวเจ้านายที่ยิ่งใหญ่เป็นศูนย์กลางในเก่าสยาม. สมเด็จหลวงปู่ทวดเป็นพระภิกษุสงฆ์มากที่รู้จักกันดีและมีชื่อเสียงในระหว่างราชอาณาจักรอยุธยา พระธรรมทางพุทธศาสนาของเขาได้รับการตอบรับอย่างดีจากภาคใต้ของประเทศไทยและสิทธิในการเป็นเมืองหลวงของกรุงศรีอยุธยาที่ความรู้ของเขาและพุทธธรรมพระไตรปิฎกได้จับหัวใจของลิขสิทธิ์และปุถุชนขวาผ่านช่วงชีวิตของเขา. ตามตำนานพระยา Kamdum ลอร์ด สายบุรีได้รับการสำรวจเว็บไซต์ที่จะสร้างเมืองใหม่เป็นของขวัญสำหรับน้องสาวของเขาขณะที่เขากำลังลังเลที่จะเลือกสถานที่และรับเขาใช้ความฉลาดของเขาโดยใช้สองของช้างที่เป็นเจ้าของของเขาที่จะนำวิธีการในการแสวงหาที่เหมาะสมที่สุด เว็บไซต์ในขณะที่เมืองใหม่จะตั้งอยู่ หลังจากที่หลายวันของการเดินทางช้างมาหยุดที่สมบูรณ์ปัจจุบันวัดช้างไห้ที่ตั้งที่ช้างเดินบริเวณโดยรอบเป็นเวลาสามรอบและหลังจากนั้นคำรามออกมาดัง ๆ พระเจ้าพระยา Kamdum เป็นที่พึงพอใจมากในสถานที่ แต่น้องสาวของเขาก็ยังไม่พอใจและเธอขอพระยา Kamdum ลักษณะสำหรับสถานที่อื่น เพื่อโปรดน้องสาวของเขาพระเจ้าพระยา Kamdum ยังคงค้นหาสถานที่ใหม่ในที่สุดพวกเขาก็พบสถานที่ใหม่ที่เรียกว่ากรือเซะในวันนี้จังหวัดปัตตานีที่เขาสร้างเมืองใหม่สำหรับน้องสาวของเขา พระเจ้าพระยา Kamdum ของบุรีทรายยังไม่สามารถหยุดคิดเกี่ยวกับสถานที่แรกและตัดสินใจที่จะสร้างวัดบนเว็บไซต์และตั้งชื่อว่าวัดช้างไห้ "ช้าง Presents" และนำเสนอไปยังเคารพลังกา "สมเด็จหลวงปู่ทวด" ของบุรีทรายและ เขาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสหัวหน้าของวัดช้างไห้ชาวบ้านและเริ่มไปรอบ ๆ เพื่อที่เขาเซอร์ช้างไห้โทลังกาและบางคนยังเรียกเขาว่าหลวงพ่อของเขื่อนสายบุรี. ในลักษณะสิ่งที่ชื่อของสมเด็จหลวงปู่ทวดมาเกี่ยวกับในภูมิภาคต่างๆ และสถานที่ที่ไม่มีใครรู้ว่าคำตอบที่เกิดขึ้นจริงเพราะพระภิกษุสงฆ์ที่เคารพนับถือยิ่งใหญ่นี้ถือหลายชื่อและชื่อในสมัยอยุธยาและยังติดตามทุกความเชื่อและตกลงกันว่าสมเด็จหลวงปู่ทวด, สมเด็จเจ้าพระค้อ Phrarajchamuni Sameeram Khunupanachan, หลวงพ่อเขื่อนหรือ เซอร์ช้างไห้เป็นเพียงหนึ่งเดียวศักดิ์สิทธิ์ที่พระภิกษุสงฆ์สาวกทุกคนกล่าวถึงเกี่ยวกับที่บุคลิกแตกต่างของเขาและความรู้ของพระไตรปิฎกและอำนาจลึกลับที่ได้รับรางวัลในหัวใจของผู้ติดตามจำนวนมาก. เมื่อสมเด็จหลวงปู่ทวดพักอยู่ในสายบุรีเขาผ่านเขา มีความประสงค์จะติดตามอย่างใกล้ชิดของเขาว่าเขาควรจะออกโลกนี้เขาต้องการร่างกายของเขานำกลับไปยังวัดช้างไห้สำหรับเผาศพและเถ้าถ่านของเขาจะถูกเก็บไว้ที่นั่นเขาบอกลูกน้องของเขาที่ควรของเหลวในร่างกายของเขาลดลงไปพร้อมกันกับวัดช้าง Hai ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำคือเพียงแค่แสงธูปไม้จันทน์และติดลงบนพื้นดินที่มันจะกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ชอบการเดินทางครั้งสุดท้ายที่เขาทำกลับมาจากอยุธยาไปยังวัดพระค้อที่เรียกกันว่าวัด Ratchapraditsathan อำเภอสทิงพระ จังหวัด Songhkla. เมื่อพระอาจารย์ทิมธรรม Tharo ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสหัวหน้าของวัดช้างไห้เขาถูกสงสัยว่าวัดมาจะมีอยู่หลายร้อยปีที่ผ่านมาเขาพยายามที่จะหาข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ แต่ชาวบ้านไม่สามารถที่จะให้เขา คำตอบที่ชัดเจน แล้วคืนหนึ่งเขามีความฝันที่แปลกประหลาดที่เขาเห็นสี่พระสงฆ์เดินออกมาจากอ่างเก็บน้ำที่มีต่อวัดที่พระภิกษุสงฆ์แรกที่โผล่ออกมามีหลวงพ่อศรี, ตามด้วยหลวงพ่อทองและหลวงพ่อจันทร์ในขณะที่คนสุดท้ายที่เขาเห็นก็คือ พระภิกษุสงฆ์ผู้สูงอายุที่เดินช้าด้วยอ้อยเดินบิด พระอาจารย์ทิมธรรม Tharo เป็นที่แปลกประหลาดมากในการที่พระภิกษุสงฆ์ผู้สูงอายุกับการเดินอ้อยบิดสอบถามปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับวัดช้างไห้ผ่านที่พระภิกษุสงฆ์ผู้สูงอายุที่มีอ้อยบิดเดินเริ่มต้นที่จะอธิบายรายละเอียดแต่ละคนและทุกที่เกี่ยวกับการวัดช้างไห้และเดินสบาย ผ่านพระอาจารย์ทิมธรรม Tharo โดยการอธิบายขอบเขตของวัดในทุกสี่ทิศทาง ก่อนฟ้าสาง, พระภิกษุสงฆ์ผู้สูงอายุที่มีอ้อยบิดเดินบอกพระอาจารย์ทิมธรรม Tharo "หากท่านมีข้อสงสัยใด ๆ เกี่ยวกับการวัดช้างไห้จทั้งหมดที่คุณต้องการก็คือให้เราทราบในความฝันของคุณและฉันจะช่วยให้คุณสิ่งที่ฉันสามารถ" ด้วยคำพูดที่ว่า , พระภิกษุสงฆ์ผู้สูงอายุที่มีอ้อยบิดเดินและพระอื่น ๆ เพียงแค่หายไปในหมอก. พระอาจารย์ทิมธรรม Tharo เริ่มที่จะจำคำพูดเหล่านั้นว่าพระภิกษุสงฆ์ผู้สูงอายุบอกเขาตามที่เขาจะกลายเป็นสติที่พระภิกษุสงฆ์ผู้สูงอายุไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเคารพ สมเด็จหลวงปู่ทวด พระอาจารย์ทิมธรรม Tharo เอาหลายเหตุการณ์ที่เข้าสู่การพิจารณาและนำมาสู่ใจคำพูดเหล่านั้นกล่าวโดยเคารพสมเด็จหลวงปู่ทวดและมีแรงบันดาลใจในสิ่งที่เรื่องปัญหาหรือพระอาจารย์ทิมธรรม Tharo ดำเนินการนั้นก็กลายเป็นมองเห็นว่าปัญหาทุกไปอย่างราบรื่นโดยไม่ต้องมาก ปัญหา ในที่สุดวัดช้างไห้วัดได้รับการบูรณะอย่างเต็มที่ แต่น่าเสียดายที่พระอาจารย์ทิมธรรม Tharo ก็ยอมจำนนต่อโรคมะเร็งระบบทางเดินอาหารและผ่านไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 1969 ขณะนี้เถ้าถ่านของเคารพสมเด็จหลวงปู่ทวดและหลวงพระอาจารย์ทิมธรรม Tharo เป็น และเก็บไว้ที่ประดิษฐานอยู่ภายในพระเจดีย์อันศักดิ์สิทธิ์ของวัดช้างไห้จ. วัดช้างไห้ Ratburanaram เจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ใบไม้ทองสุดท้ายเครื่องประดับพิธีได้ดำเนินการโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในวันที่ 13 เมษายน 1988 สำหรับที่ผ่านมาไม่กี่ร้อยปีวัดช้างไห้พบทั้งหมด ชนิดของภัยพิบัติจากธรรมชาติที่จะเกิดภัยพิบัติที่มนุษย์สร้างขึ้นและยังมีความคงตัวและทนสภาพแวดล้อมที่ไม่คาดคิดจนปัจจุบัน ในการรักษาด้วยความเชื่อและการปฏิบัติพระพุทธรูปทั้งหมดที่ผ่านมาและปัจจุบันของเจ้าอาวาสวัดช้างไห้มีหน้าที่เป็นอันขาดหลักการทางพุทธศาสนาของพวกเขานอกเหนือจากการเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้าไปหลายสาวก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชื่อวัดช้างไห้ถูกต้อง ควรวัด ratburanaram อย่างไรก็ตามชาวบ้านและศิษย์มีแนวโน้มที่จะเรียก วัดช้างให้ความหมาย " ช้างปัจจุบัน หรือช้างให้ " ประวัติวัดช้างไห้ ได้บอกเป็นล้านครั้ง จากรุ่นสู่รุ่น แต่ความสนใจหลักคือสมเด็จหลวงปู่ทวดพระที่มีชื่อเสียงที่สุดในทั้งไทยและ ไกลที่ดินที่ปรมาจารย์ประวัติส่วนบุคคลเป็นศูนย์กลางในสยามเก่า สมเด็จหลวงปู่ทวดคือพระที่รู้จักกันดีมากและมีชื่อเสียงในอาณาจักรกรุงศรีอยุธยา เขาผลัดผ้าเป็นอย่างดีจากภาคใต้ของประเทศไทยและขวาไปยังเมืองหลวงของกรุงศรีอยุธยาที่เขามีความรู้ของธรรมะและพุทธศาสนา ในพระไตรปิฎกได้จับหัวใจของราชวงศ์และสามัญชนผ่านช่วงชีวิตของเขา . . . . . .

ตามตำนานพระยา kamdum ลอร์ดแห่งสายบุรีคือการสำรวจเว็บไซต์ในการสร้างเมืองใหม่ให้เป็นของขวัญสำหรับน้องสาวของเขา ขณะที่เขากำลังลังเล ซึ่งสถานที่ที่จะเลือกและเลือกเขาใช้ความเฉลียวฉลาดของเขาโดยใช้สองของเขาเป็นเจ้าของช้างเพื่อนำทางในการค้นหาเว็บไซต์ที่เหมาะสมที่สุด ส่วนเมืองใหม่จะตั้งอยู่ หลังจากที่หลายวันของการเดินทาง เพื่อให้ช้างมาหยุดที่ปัจจุบันวัดช้างไห ที่ตั้ง ที่ช้างเดินบริเวณรอบ 3 รอบ และหลังจากนั้นคำรามออกมาเสียงดังท่านพระยา kamdum พึงพอใจมากกับสถานที่ แต่น้องสาวเขาไม่พอใจและขอให้พระยา kamdum ที่จะมองหาสถานที่อื่นอีก เพื่อช่วยน้องสาวของเขา องค์พระยา kamdum อย่างต่อเนื่องเพื่อค้นหาสถานที่ใหม่ ในที่สุดพวกเขาพบสถานที่ใหม่ที่เรียกว่ากระฉิ่ง จังหวัดปัตตานี ในวันนี้ที่เขาสร้างเมืองใหม่ให้น้องสาวของเขาท่านพระยา kamdum ของไทรบุรี ยังไม่เลิกคิดเรื่องสถานที่ก่อน และตัดสินใจที่จะสร้าง วัด ใน เว็บไซต์ และตั้งชื่อว่า วัดช้างให้ช้างแสดงและนำเสนอให้เคารพศรีลังกา " สมเด็จหลวงปู่ทวด " ของไทรบุรีและแต่งตั้งเขาเป็นท่านเจ้าอาวาสวัดชางไห่ชาวบ้านใน และ รอบ ๆเริ่มให้ความสนใจเขา ท่านช้างให้ หรือ โท ศรีลังกา และบางส่วนยังเรียกเขาว่าหลวงพ่อดำของไทรบุรี

ในลักษณะชื่อที่สมเด็จหลวงปู่ทวดมาเกี่ยวกับในภูมิภาคต่าง ๆและสถานที่ที่ไม่มีใครรู้คำตอบที่แท้จริง เพราะดีเคารพพระไว้หลายชื่อและชื่อระหว่าง สมัยอยุธยาแต่ทุกคนเชื่อและเห็นด้วยที่จะติดตามสมเด็จหลวงปู่ทวดสมเด็จเจ้าพระยา , พระค้อ , phrarajchamuni sameeram khunupanachan หลวงพ่อดำ , หรือท่านชางไห่เป็นเพียงหนึ่งและเดียวกันศักดิ์สิทธิ์พระทุกลูกศิษย์พูดถึงที่บุคลิกภาพที่แตกต่างของเขา และความรู้ในพระไตรปิฎก และพลังลึกลับที่ได้รับหัวใจของผู้ติดตามมากมาย

เมื่อสมเด็จหลวงปู่ทวดอยู่ในอำเภอสายบุรี เขาผ่านความปรารถนาของเขาเพื่อสาวกใกล้ชิดของเขา ที่เขาได้จากโลกนี้ไป เขาต้องการร่างของเขาถูกนำกลับไปวัดช้างไห้ สำหรับเผาศพ และเถ้ากระดูกของเขาถูกเก็บไว้ที่นั่น เขาได้บอกกับลูกศิษย์ของเขาว่าควรของเขา ของเหลวในร่างกายลดลงตามวิธีการวัดช้าง ไฮทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำคือเพียงแค่แสงจันทน์ธูปแทงลงบนพื้นดินที่มันจะกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ชอบการเดินทางครั้งสุดท้ายเขาทำกลับจากอยุธยา วัดพระค้อเรียกว่าวัด ratchapraditsathan เขตอำเภอ สทิงพระ จังหวัด สงขลา ,

เมื่อพระอาจารย์ทิม ธรรม tharo ได้รับการแต่งตั้งเจ้าอาวาส หัวหน้าของ วัดฉางไห่เขากำลังสงสัยว่า ทำไมวัดมาอยู่หลายร้อยปี เขาพยายามที่จะหาข้อมูลให้มากที่สุด แต่ชาวบ้านยังไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจน แล้ว คืนวันหนึ่ง เขามีความฝันประหลาดที่เขาเห็น 4 รูปเดินออกมาจากอ่างเก็บน้ำที่มีต่อวัด พระรูปแรกที่ออกมาคือ หลวงพ่อศรี ,ตามด้วย หลวงพ่อทอง และหลวงพ่อจัน ตอนสุดท้ายที่เขาเห็นคือพระสงฆ์ ผู้สูงอายุเดินช้าด้วยบิดเดินไม้เท้า พระอาจารย์ทิม ธรรม tharo มันประหลาดมากที่พระสูงอายุที่เดินบิดสอบถามปัญหาต่างๆเกี่ยวกับอ้อย วัดช้างครับซึ่งพระสูงอายุกับอ้อยเดินบิดเริ่มอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับแต่ละคนและทุกวัดช้างให้ และค่อยๆเดินผ่านพระอาจารย์ทิม ธรรม tharo โดยบรรยายวัดขอบเขตทั้ง 4 ทิศ ก่อนรุ่งอรุณ พระสูงอายุกับอ้อยเดินบิดบอกพระอาจารย์ทิม ธรรม tharo " หากท่านมีข้อสงสัยประการใดเกี่ยวกับวัดช้างครับทั้งหมดที่คุณต้องการคือให้ฉันรู้ในความฝันของคุณ และผมจะช่วยคุณเท่าที่ทำได้ " กับคำ พระสูงอายุ เดินเป๋ อ้อยและพระสงฆ์อื่น ๆหายไปในหมอก

พระอาจารย์ทิม ธรรม tharo เริ่มนึกถึงคำพูดที่ผู้สูงอายุ พระบอกเขา ซึ่งเมื่อเขากลายเป็น ตระหนักว่า พระสงฆ์ ผู้สูงอายุ จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเคารพสมเด็จหลวงปู่ทวด .พระอาจารย์ทิม ธรรม tharo เอาเหตุการณ์หลายอย่างในการพิจารณาและทำให้นึกถึงคำที่กล่าวโดยเคารพสมเด็จหลวงปู่ทวด และด้วยแรงบันดาลใจที่สำคัญหรือปัญหาที่พระอาจารย์ทิม ธรรม tharo ดำเนินการก็จะมองเห็นว่าทุกเรื่องราบรื่นโดยไม่มีปัญหามาก สุด วัดช้างให้ วัดถูกเรียกคืนอย่างเต็มที่แต่น่าเสียดายที่พระอาจารย์ทิม ธรรม tharo คือยอมจำนนต่อโรคมะเร็งทางเดินอาหาร และเสียชีวิตอย่างสงบในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2512 ปัจจุบันอัฐิของสมเด็จหลวงปู่ทวด และเป็นที่เคารพนับถือพระอาจารย์ทิม ธรรม tharo ถูกประดิษฐานและเก็บไว้ในเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์แห่งวัดช้างใ .

วัดช้างไห้ ratburanaram ศักดิ์สิทธิ์ เจดีย์ทองใบสุดท้ายหน้าพิธีกระทำโดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเมื่อวันที่ 13 เมษายน 1988

สำหรับไม่กี่ร้อยปี วัดช้างไห้ ได้พบทุกชนิดของหายนะภัยจากธรรมชาติ ภัยที่มนุษย์สร้างขึ้น และยัง มีความคงตัว และทนต่อสภาพแวดล้อมที่ไม่คาดคิด จนถึงปัจจุบันในการรักษาด้วยพระพุทธเจ้า ความเชื่อ และการปฏิบัติ ทั้งอดีตและปัจจุบันเจ้าอาวาสวัดช้างให้มีตามหน้าที่ upholds หลักพระพุทธศาสนาของพวกเขานอกจากจะเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า หลายของผู้ติดตามของ