ชื่อรายงาน : ความคิดเห็นของนักศึกษา

ชื่อรายงาน : ความคิดเห็นของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่มีต่อการนวดน้ำมัน
คณะผู้ศึกษา :
การศึกษา : ระดับปริญญาตรี
สถานศึกษา : มหาวิทยาลัยรังสิต
อาจารย์ผู้สอน : อาจารย์สายใจ ทองเนียม

บทคัดย่อ
รายงานเรื่อง “ความคิดเห็นของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่มีต่อการนวดน้ำมัน”
การนวดน้ำมัน การนวดตัวร่วมกับการบำบัดด้วยกลิ่นหรือการนวดอโรมาเทอราพี เป็นการนวดแบบตะวันตกโดยใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยผสานกับเทคนิคการนวดด้วยมือ เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ อีกทั้งยังช่วยให้น้ำมันหอมระเหยซึมผ่านเข้าสู่ร่างกาย คณะ(จัดทำจริงมีความสนใจจะรายงานเรื่อง “ความคิดเห็นของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ที่มีต่อการนวดน้ำมัน” โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คน มาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติพื้นฐาน ซึ่งได้ผลดังนี้ จากการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการนวดน้ำมัน พบว่านักศึกษารู้จักการนวดน้ำมัน พบว่านักศึกษารู้จักการนวดน้ำมันผ่านทาง internet มากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 40 และพบว่านักศึกษาเคยได้รับข้อมูลการน้ำมันจากพ่อแม่ เพื่อน และญาติพี่น้อง ความถี่มากที่สุดคือ เป็นบ้างครั้ง คิดเป็นร้อยละ 40 ละพบว่านักศึกษาเคยนวดน้ำมันหรือไม่ ความถี่สูงสุดคือ ไม่เคย คิดเป็นร้อยละ 73.33 และพบว่านักศึกษาไม่เคยรู้จักสถานที่นวดน้ำมันสูงสุด จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 66.67 และพบว่านักศึกษาทั้งหมดมีความเห็นว่าการนวดน้ำมันส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ทราบว่านักศึกษาสนใจในการนวดน้ำมันในภาพรวมอยู่ในระดับมาก แต่มีความสนใจในในการนวดน้ำมันเพื่อผิวสุขภาพดีมากที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ชื่อรายงาน: ความคิดเห็นของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิตที่มีต่อการนวดน้ำมันคณะผู้ศึกษา: การศึกษา: ระดับปริญญาตรี สถานศึกษา: มหาวิทยาลัยรังสิตอาจารย์ผู้สอน: อาจารย์สายใจทองเนียมบทคัดย่อรายงานเรื่อง "ความคิดเห็นของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิตที่มีต่อการนวดน้ำมัน" การนวดน้ำมันการนวดตัวร่วมกับการบำบัดด้วยกลิ่นหรือการนวดอโรมาเทอราพีเป็นการนวดแบบตะวันตกโดยใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยผสานกับเทคนิคการนวดด้วยมือเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจอีกทั้งยังช่วยให้น้ำมันหอมระเหยซึมผ่คณะานเข้าสู่ร่างกาย (จัดทำจริงมีความสนใจจะรายงานเรื่อง "ความคิดเห็นของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิตที่มีต่อการนวดน้ำมัน" โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คนมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติพื้นฐานซึ่งได้ผลดังนี้จากการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการนวดน้ำมันพบว่านักศึกษารู้จักการนวดน้ำมันพบว่านักศึกษารู้จักการนวดน้ำมันผ่านทาง internet มากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 40 และพบว่านักศึกษาเคยได้รับข้อมูลการน้ำมันจากพ่อแม่เพื่อนและญาติพี่น้องความถี่มากที่สุดคือเป็นบ้างครั้งคิดเป็นร้อยละ 40 ละพบว่านักศึกษาเคยนวดน้ำมันหรือไม่ความถี่สูงสุดคือไม่เคยคิดเป็นร้อยละ 73.33 และพบว่านักศึกษาไม่เคยรู้จักสถานที่นวดน้ำมันสูงสุดจำนวน 20 คนคิดเป็นร้อยละ 66.67 และพบว่านักศึกษาทั้งหมดมีความเห็นว่าการนวดน้ำมันส่งผลดีต่อร่างกายทำให้ทราบว่านักศึกษาสนใจในการนวดน้ำมันในภาพรวมอยู่ในระดับมากแต่มีความสนใจในในการนวดน้ำมันเพื่อผิวสุขภาพดีมากที่สุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ชื่อรายงาน: รังสิตที่ผู้แต่ง: มหาวิทยาลัยมีต่อหัวเรื่อง: การนวดน้ำมัน
คณะคุณผู้ศึกษาเป็น:
การศึกษา: สูงสุดปริญญาตรีวุฒิการระดับ
สถานศึกษาเป็น: รังสิตผู้แต่ง: มหาวิทยาลัย
อาจารย์คุณผู้สอน: สายใจทองอาจารย์เนียมบทคัดย่อรายงานเรื่อง มหาวิทยาลัยรังสิตที่มีต่อการนวดน้ำมัน " การนวดน้ำมัน มหาวิทยาลัยรังสิตที่มีต่อการนวดน้ำมัน "โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คน ซึ่งได้ผลดังนี้ พบว่านักศึกษารู้จักการนวดน้ำมัน อินเทอร์เน็ตมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 40 เพื่อนและญาติพี่น้องความถี่มากที่สุดคือ เป็นบ้างครั้งคิดเป็นร้อยละ 40 ความถี่สูงสุดคือไม่เคยคิดเป็นร้อย ละ 73.33 จำนวน 20 คนคิดเป็นร้อยละ 66.67

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ชื่อรายงาน : ความคิดเห็นของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิตที่มีต่อการนวดน้ำมันคณะผู้ศึกษา :การศึกษา : ระดับปริญญาตรีสถานศึกษา : มหาวิทยาลัยรังสิตอาจารย์ผู้สอน : อาจารย์สายใจทองเนียมบทคัดย่อรายงานเรื่อง " ความคิดเห็นของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิตที่มีต่อการนวดน้ำมัน "การนวดน้ำมันการนวดตัวร่วมกับการบำบัดด้วยกลิ่นหรือการนวดอโรมาเทอราพีเป็นการนวดแบบตะวันตกโดยใช้น้ำมันที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยผสานกับเทคนิคการนวดด้วยมือเพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจอีกทั้งยังช่วยให้น้ำมันหอมระเหยซึมผ่านเข้าสู่ร ่างกายคณะ ( จัดทำจริงมีความสนใจจะรายงานเรื่อง " ความคิดเห็นของนักศึกษาคณะรัฐศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิตที่มีต่อการนวดน้ำมัน " โดยใช้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 30 คนมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติพื้นฐานซึ่งได้ผลดังนี้จากการสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการนวดน้ำมันพบว่านักศึกษ ารู้จักการนวดน้ำมันพบว่านักศึกษารู้จักการนวดน้ำมันผ่านทางอินเทอร์เน็ตมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 40 และพบว่านักศึกษาเคยได้รับข้อมูลการน้ำมันจากพ่อแม่เพื่อนและญาติพี่น้องความถี่มากที่สุดคือเป็นบ้างครั้งคิดเป็นร้อยละ 40 ละพบว่านักศึกษาเคยนวดน้ำมันหรือไม่ความถี่สูงสุดค ือไม่เคยคิดเป็นร้อยละ 73.33 และพบว่านักศึกษาไม่เคยรู้จักสถานที่นวดน้ำมันสูงสุดจำนวน 20 คนคิดเป็นร้อยละความรู้และพบว่านักศึกษาทั้งหมดมีความเห็นว่าการนวดน้ำมันส่งผลดีต่อร่างกายทำให้ทราบว่านักศึกษาสนใจในการนวดน้ำมันในภาพรวมอยู่ในระดับมากแต่มีความสนใจในในการนวดน้ ำมันเพื่อผิวสุขภาพดีมากที่สุด