Discussion/ConclusionThe last three

Discussion/Conclusion
The last three decades have been a time of transition and expansion in the higher education sector in Ireland. The
institute of technology sector has been at the forefront of these developments and has had to cope with rising student
numbers and expectations and the diversification and differentiation of institutions and courses. The publication of
the Qualifications (Education and Training) Act 1999 brought new challenges and placed the issue of accountability
and quality assurance to the forefront of most agendas. The growing need for quality assurance impacts on all staff
and levels within the sector but has a particular impact on academic staff that has experienced a degree of autonomy
and with limited individual assessment and accountability.
This study confirms that the implementation of quality assurance and the balancing of autonomy with
accountability is an intricate process and needs to be looked at in the context of other major trends such as the
expansion of the higher education system and the changing student profile. Despite the investment in campus
development, administration and management functions, the respondents in this study felt that such developments
had provided little or no benefit to them and had not helped them in their role and had led to more bureaucracy and
structure. Although the institute of technology sector was set up to increase participation rates and support widening
access to the HE system, it was evident from the responses that some of the academics had ideologies that were in
conflict with this and were more in line with ‘elitist’ or ‘traditionalist’ view of higher education. They were
particularly concerned about the fall in the general standard of the student. Perhaps this was related to their own
background and time spent as a student in the higher education system and their professional background.
The respondents’ attitude towards the growing focus on quality assurance was consistent with the findings in
Henkel’s (2000) study. The respondents accepted the need for quality assurance and accountability. However they
were concerned about the form it would take and that it would lead to bureaucratisation and paperwork and was
driven by consumerism and academic surveillance. This conflicted with the academics’ beliefs, as they wanted to
see the process enhancing the students learning environment and that quality assurance should permeate all areas of
the organisation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อภิปราย/สรุปสามทศวรรษได้เวลาเปลี่ยนและขยายตัวในภาคการศึกษาในประเทศไอร์แลนด์ ที่สถาบันเทคโนโลยีภาคแล้วจึงพัฒนาเหล่านี้ และก็ต้องรับมือกับนักเรียนที่เพิ่มขึ้นตัวเลข และความคาดหวัง และวิสาหกิจ และสร้างความแตกต่างของสถาบันและหลักสูตร การเผยแพร่พระราชบัญญัติคุณสมบัติ (ศึกษาและฝึกอบรม) ปี 1999 นำความท้าทายใหม่ และวางเรื่องความรับผิดชอบและคุณภาพรวดเร็วของวาระการประชุมมากที่สุด ผลกระทบต่อการประกันคุณภาพพนักงานทั้งหมดต้องเติบโตและระดับภายในภาคแต่มีผลกระทบเฉพาะอาจารย์ที่มีประสบการณ์ระดับของอิสระและประเมินผลแต่ละจำกัดและความรับผิดชอบการศึกษานี้ยืนยันที่ปฏิบัติคุณภาพและสมดุลอิสระด้วยความรับผิดชอบมีกระบวนการซับซ้อน และต้องการจะมองในบริบทของแนวโน้มหลักอื่น ๆ เช่นการการขยายตัวของระบบอุดมศึกษาและประวัตินักเรียนเปลี่ยนแปลง แม้ มีการลงทุนในวิทยาเขตพัฒนา ดูแล และบริหาร ผู้ตอบในการศึกษานี้ความรู้สึกดังกล่าวที่พัฒนาได้ให้น้อย หรือไม่มีประโยชน์กับพวกเขา และไม่ช่วยพวกเขาในบทบาทของตน และได้นำไปสู่ระบบราชการมากขึ้น และโครงสร้างการ แม้ว่าสถาบันเทคโนโลยีภาคถูกตั้งค่าเพื่อเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วม และสนับสนุนในการขยับขยายaccess to the HE system, it was evident from the responses that some of the academics had ideologies that were inconflict with this and were more in line with ‘elitist’ or ‘traditionalist’ view of higher education. They wereparticularly concerned about the fall in the general standard of the student. Perhaps this was related to their ownbackground and time spent as a student in the higher education system and their professional background.The respondents’ attitude towards the growing focus on quality assurance was consistent with the findings inHenkel’s (2000) study. The respondents accepted the need for quality assurance and accountability. However theywere concerned about the form it would take and that it would lead to bureaucratisation and paperwork and wasdriven by consumerism and academic surveillance. This conflicted with the academics’ beliefs, as they wanted tosee the process enhancing the students learning environment and that quality assurance should permeate all areas ofthe organisation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

คำอธิบาย / สรุป
ช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมาได้รับเวลาของการเปลี่ยนแปลงและการขยายตัวในภาคการศึกษาที่สูงขึ้นในไอร์แลนด์
สถาบันของภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่ได้รับอยู่ในระดับแนวหน้าของการพัฒนาเหล่านี้และได้มีการรับมือกับการเพิ่มขึ้นของนักเรียน
ตัวเลขและความคาดหวังและความหลากหลายและความแตกต่างของสถาบันการศึกษาและหลักสูตร สิ่งพิมพ์ของ
คุณสมบัติของผู้สมัคร (การศึกษาและการฝึกอบรม) ปี 1999 นำความท้าทายใหม่และวางปัญหาของความรับผิดชอบ
และการประกันคุณภาพแถวหน้าของวาระการประชุมมากที่สุด ต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับผลกระทบต่อความเชื่อมั่นที่มีคุณภาพในพนักงานทุกคน
และระดับภายในภาค แต่มีผลกระทบเฉพาะในนักวิชาการที่มีประสบการณ์ระดับของความเป็นอิสระ
และมีการประเมินแต่ละ จำกัด และความรับผิดชอบ.
การศึกษานี้ยืนยันว่าการดำเนินการประกันคุณภาพและการสมดุล ของตนเองที่มี
ความรับผิดชอบเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและจะต้องมีการมองในบริบทของแนวโน้มที่สำคัญอื่น ๆ เช่น
การขยายตัวของระบบการศึกษาที่สูงขึ้นและรายละเอียดของนักเรียนที่เปลี่ยนแปลง แม้จะมีการลงทุนในวิทยาเขต
พัฒนาฟังก์ชั่นการบริหารและการจัดการผู้ตอบแบบสอบถามในการศึกษาครั้งนี้รู้สึกว่าการพัฒนาดังกล่าว
ได้ให้ประโยชน์น้อยหรือไม่มีเลยกับพวกเขาและไม่ได้ช่วยให้พวกเขาในบทบาทของพวกเขาและได้นำไปสู่ระบบราชการมากขึ้นและ
โครงสร้าง แม้ว่าสถาบันของภาคเทคโนโลยีที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วมและการสนับสนุนการขยับขยาย
การเข้าถึงระบบ HE ก็เห็นได้ชัดจากการตอบสนองว่าบางส่วนของนักวิชาการมีเจตนารมณ์ที่อยู่ใน
ความขัดแย้งกับเรื่องนี้และมีมากขึ้นสอดคล้องกับ 'ชั้นนำ' หรือ 'อนุรักษนิยม' มุมมองของการศึกษาที่สูงขึ้น พวกเขามีความ
กังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการตกอยู่ในมาตรฐานทั่วไปของนักเรียน บางทีนี่อาจเป็นที่เกี่ยวข้องกับพวกเขาเอง
พื้นหลังและเวลาที่ใช้เป็นนักเรียนในระบบการศึกษาที่สูงขึ้นและพื้นหลังที่เป็นมืออาชีพของพวกเขา.
ทัศนคติของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อการเจริญเติบโตของการมุ่งเน้นเกี่ยวกับการประกันคุณภาพสอดคล้องกับผลการวิจัยใน
เฮงเค็ล (2000) การศึกษา ผู้ตอบแบบสอบถามได้รับการยอมรับความจำเป็นในการประกันคุณภาพและความรับผิดชอบ แต่พวกเขา
มีความกังวลเกี่ยวกับรูปแบบที่จะใช้เวลาและมันจะนำไปสู่ ​​bureaucratisation และเอกสารและได้รับ
แรงหนุนจากการบริโภคและการเฝ้าระวังทางวิชาการ ซึ่งขัดแย้งกับความเชื่อของนักวิชาการ 'เช่นที่พวกเขาต้องการที่จะ
เห็นกระบวนการที่สนับสนุนให้นักเรียนเรียนรู้สภาพแวดล้อมและการประกันคุณภาพที่ควรซึมทุกพื้นที่ของ
องค์กร