The high cost of conventional const

The high cost of conventional construction materials is a dominating factor affecting housing system around the world. This has necessitated research work into alternative materials in the construction field. The aim of this study was to investigate experimentation on physical and mechanical characteristics of concrete produced using chopped coconut fibres composites incorporating different volume percentage of fibres 1.0, 3.0, 5.0 and 7.0 subjected to static loading. Prisms size of 100×100×300 mm and cubes having dimension of 100×100×100 mm were cast from the same batches of concrete. For coconut fibre, micro structural analysis (scanning electron microscopy) test was conducted in the laboratory to get a better understanding of the bonding behaviour of fibres. Chemically treated coir fibre reinforced specimens yielded better mechanical properties compared to the raw ones. The results of the tests showed that the compressive strength of the concrete decreased as the fibres volume percentage of the coconut increased in the concrete mix. Experimental results also demonstrated that the coconut fibre concrete performed satisfactorily on the growth of cracks, crack widths compared with conventional concrete. Finally, it is concluded that the use of coconut fibre has great potential in the production of structural lightweight concrete especially in the construction of low-cost concrete structures.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ต้นทุนสูงของวัสดุก่อสร้างทั่วไปเป็นปัจจัยอำนาจเหนือระบบบ้านทั่วโลกส่งผลกระทบต่อ นี้มี necessitated งานวิจัยลงในวัสดุทางเลือกในเขตข้อมูล จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือการ ตรวจสอบลักษณะทางกายภาพ และทางกลของคอนกรีตที่ผลิตโดยใช้วัสดุผสมเส้นใยมะพร้าวสับเพจเปอร์เซ็นต์ปริมาณแตกต่างกันเส้นใย 1.0, 3.0, 5.0 และ 7.0 โหลดคงต้องทำการทดลอง ขนาด 100 × 100 × 300 มม.และก้อนที่มีขนาด 100 × 100 × 100 mm ปริซึมถูกโยนจากชุดเดียวกันของคอนกรีต สำหรับเส้นใยมะพร้าว ทดสอบวิเคราะห์โครงสร้างไมโคร (การสแกนชาวดัตช์) ดำเนินการในห้องปฏิบัติการจะได้รับการเข้าใจพฤติกรรมติดยึดของเส้นใย บผ่านชิ้นงานไฟเบอร์เสริมใยมะพร้าวผลให้สมบัติเชิงกลที่เทียบกับคนดิบ ผลการทดสอบพบว่า แรงอัดของคอนกรีตลดลงเป็นเปอร์เซ็นต์ปริมาณเส้นใยของมะพร้าวที่เพิ่มขึ้นในการผสมคอนกรีต ผลการทดลองยังแสดงให้เห็นว่า โคโคนัทไฟเบอร์คอนกรีตดำเนินน่าพอใจในการเติบโตของรอยแตก รอยแตกกว้างเมื่อเทียบกับคอนกรีตธรรมดา ในที่สุด ก็สรุปได้ว่า การใช้เส้นใยมะพร้าวมีศักยภาพที่ดีในการผลิตคอนกรีตน้ำหนักเบาโครงสร้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการก่อสร้างโครงสร้างคอนกรีตต้นทุนต่ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ค่าใช้จ่ายสูงของวัสดุการก่อสร้างแบบเดิมเป็นระบบที่อยู่อาศัยปัจจัยที่มีผลต่อการมีอำนาจเหนือทั่วโลก นี้มีงานวิจัยเพียงพอลงในวัสดุทางเลือกในด้านการก่อสร้าง จุดมุ่งหมายของการศึกษาครั้งนี้เป็นการศึกษาทดลองเกี่ยวกับลักษณะทางกายภาพและเชิงกลของคอนกรีตที่ผลิตโดยใช้เส้นใยมะพร้าวสับคอมโพสิตผสมผสานเปอร์เซ็นต์ปริมาณที่แตกต่างกันของเส้นใย 1.0, 3.0, 5.0 และ 7.0 ภายใต้การโหลดแบบคง ขนาดปริซึม 100 × 100 × 300 มิลลิเมตรและมีก้อนขนาด 100 × 100 × 100 มมถูกปลดจากแบตช์เดียวกันของคอนกรีต สำหรับใยมะพร้าว, การวิเคราะห์โครงสร้าง Micro (กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอน) การทดสอบได้ดำเนินการในห้องปฏิบัติการที่จะได้รับความรู้ความเข้าใจของพฤติกรรมพันธะของเส้นใย มะพร้าวเส้นใยการรักษาทางเคมีตัวอย่างผลเสริมสมบัติเชิงกลที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับคนดิบ ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าแรงอัดของคอนกรีตลดลงเป็นร้อยละปริมาณเส้นใยมะพร้าวเพิ่มขึ้นในการผสมคอนกรีต ผลการทดลองยังแสดงให้เห็นว่าคอนกรีตใยมะพร้าวดำเนินการเป็นที่น่าพอใจในการเจริญเติบโตของรอยแตกกว้างแตกเมื่อเทียบกับคอนกรีตธรรมดา ในที่สุดก็จะได้ข้อสรุปว่าการใช้ใยมะพร้าวมีศักยภาพที่ดีในการผลิตคอนกรีตมวลเบาที่มีโครงสร้างโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการก่อสร้างโครงสร้างคอนกรีตที่มีราคาต่ำ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ค่าใช้จ่ายสูงของวัสดุก่อสร้างปกติคือ เป็นปัจจัยที่มีผลต่อที่อยู่อาศัยระบบทั่วโลก นี้มี necessitated งานวิจัยเป็นวัสดุทางเลือกในด้านการก่อสร้าง จุดมุ่งหมายของการศึกษานี้คือ เพื่อศึกษาการทดลองในลักษณะทางกายภาพและเชิงกลของคอนกรีตที่ผลิตโดยใช้เส้นใยคอมโพสิตจึงสับมะพร้าวร้อยละปริมาณที่แตกต่างกันของเส้นใย 1.0 , 3.0 และ 5.0 7.0 ภายใต้การโหลดแบบคงที่ ปริซึมขนาด 100 × 100 × 300 มม. และก้อนมีขนาด 100 × 100 × 100 มม. ถูกโยนจากชุดเดียวกันของคอนกรีต สำหรับ ใยมะพร้าว การวิเคราะห์โครงสร้างจุลภาค ( กล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนแบบส่องกราด ) ดำเนินการทดสอบในห้องปฏิบัติการ เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจในการพฤติกรรมของเส้นใย รักษาทางเคมีใยมะพร้าวเสริมตัวอย่างให้ผลเชิงกลดีกว่า เมื่อเทียบกับวัตถุดิบ ผลการทดสอบพบว่ากำลังอัดของคอนกรีตลดลง เป็นร้อยละของปริมาณเส้นใยมะพร้าวผสมเพิ่มในคอนกรีต ผลการทดลองยังแสดงให้เห็นว่ามะพร้าวไฟเบอร์คอนกรีตแสดงได้ดีในการเจริญเติบโตของรอยแตกร้าวของคอนกรีตเมื่อเทียบกับปกติ ในที่สุดก็สรุปได้ว่า การใช้ใยมะพร้าวมีศักยภาพในการผลิตของโครงสร้างคอนกรีตมวลเบาโดยเฉพาะในการก่อสร้างโครงสร้างคอนกรีตราคาถูก