A comparison of several EFB pretrea

A comparison of several EFB pretreatment procedures is presented in Table 3. Jung et al. [17] reported that in EFB pretreatment using dilute sulfuric acid, enzymatic saccharification yielded nearly 90% of the pretreated materials obtained in a microwave at 190 °C. Conversely, mild steam pretreatment conditions (auto-hydrolysis) of 140 °C for 15 min resulted in 29% glucose hydrolysis [18]. Sudiyani et al. [19] reported on alkaline (sodium hydroxide) pretreatment of EFB. A 64% conversion of glucose from pretreated biomass was achieved at 30 °C for 90 min. Jung et al. [20] reported on the use of aqueous ammonia for EFB pretreatment; 41.4% cellulose was converted to glucose through pretreatment with 21% (w/w) aqueous ammonia for 12 h at 60 °C. Kim et al. [21] conducted a two-step EFB pretreatment. In the first step, 4% (v/v) H2SO4 was used as a catalyst for removing hemicellulose, and 10 M NaOH was applied in a second pretreatment step for removing lignin. Although the conversion rate of glucose was over 80%, the pretreatment process was complicated and required much time. In our CHEMEX pretreatment, 83.6% enzymatic digestibility was obtained at 130 °C for 20 min with 2.9 M sodium hydroxide. In general, acid and thermal pretreatment require high temperature and short time. In comparison, alkali-catalyzed pretreatment requires lower temperature and longer time. Increase of enzymatic digestibility due to dilute NaOH treatment is caused by the swelling of biomass, leading to an increase in the internal surface area, a decrease in crystallinity, the separation of structural linkages between lignin and carbohydrates, and the disruption of the lignin structure [22] and [23].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การเปรียบเทียบกระบวนการ pretreatment EFB ต่าง ๆ แสดงในตาราง 3 Al. ร้อยเอ็ด Jung [17] รายงานว่า ในการใช้กรดซัลฟิวริก dilute pretreatment, EFB saccharification เอนไซม์ในระบบผลเกือบ 90% ของวัสดุ pretreated ที่ได้รับในไมโครเวฟที่ 190 องศาเซลเซียส ในทางกลับกัน อบอ่อน pretreatment เงื่อนไข (อัตโนมัติไฮโตรไลซ์) 140 องศาเซลเซียส 15 นาทีผลในไฮโตรไลซ์กลูโคส 29% [18] รายงาน Sudiyani et al. [19] ในด่าง (โซเดียมไฮดรอกไซด์) pretreatment ของ EFB แปลงเป็น 64% ของกลูโคสจากชีวมวล pretreated สำเร็จที่ 30 ° C สำหรับ 90 นาที Jung et al. [20] รายงานการใช้แอมโมเนียอควีสำหรับ EFB pretreatment 41.4% เซลลูโลสถูกแปลงเป็นน้ำตาลกลูโคสผ่าน pretreatment ด้วย 21% (w/w) แอมโมเนียอควีสำหรับ h 12 ที่ 60 องศาเซลเซียส คิม et al. [21] ดำเนินการ pretreatment EFB สองขั้นตอน ในขั้นแรก 4% (v/v) กำมะถันใช้เป็นเศษที่สำหรับเอา hemicellulose และ 10 M NaOH ใช้ในขั้นตอนที่สอง pretreatment สำหรับเอา lignin แม้ว่าอัตราแลกเปลี่ยนของกลูโคสได้กว่า 80% กระบวนการ pretreatment ที่ซับซ้อน และต้องใช้เวลามาก ในเรา CHEMEX pretreatment, 83.6% digestibility เอนไซม์ในระบบได้รับที่ 130 ° C สำหรับ 20 นาทีกับ 2.9 M โซเดียมไฮดรอกไซด์ ทั่วไป pretreatment กรด และความร้อนต้องใช้อุณหภูมิสูงและช่วงเวลาสั้น ๆ ในการเปรียบเทียบ pretreatment ด่างกระบวนต้องอุณหภูมิต่ำและเวลานาน เพิ่มเอนไซม์ในระบบ digestibility เนื่องจาก NaOH dilute รักษาเกิดจากการบวมของชีวมวล นำไปสู่การเพิ่มพื้นที่ผิวภายใน ลดลง crystallinity แบ่งแยกโครงสร้างการเชื่อมโยงระหว่าง lignin และคาร์โบไฮเดรต และทีมของโครงสร้าง lignin [22] [23]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การเปรียบเทียบขั้นตอนการปรับสภาพ EFB หลายจะนำเสนอในตารางที่ 3 Jung et al, [17] รายงานว่าในการปรับสภาพ EFB ใช้เจือจางกรดกำมะถัน saccharification เอนไซม์ผลเกือบ 90% ของวัสดุที่ได้รับการปรับสภาพในไมโครเวฟที่ 190 ° C ตรงกันข้ามเงื่อนไขการปรับสภาพน้ำอ่อน (อัตโนมัติไฮโดรไลซิ) 140 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 15 นาทีส่งผลให้ 29% การย่อยสลายน้ำตาลกลูโคส [18] Sudiyani และคณะ [19] รายงานด่าง (โซเดียมไฮดรอกไซ) การปรับสภาพของ EFB แปลง 64% ของน้ำตาลกลูโคสจากชีวมวลปรับสภาพก็ประสบความสำเร็จวันที่ 30 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 90 นาที Jung et al, [20] รายงานเกี่ยวกับการใช้แอมโมเนียในน้ำสำหรับการปรับสภาพ EFB; 41.4% เซลลูโลสถูกแปลงเป็นน้ำตาลกลูโคสผ่านการปรับสภาพที่มี 21% (w / W) แอมโมเนียในน้ำเป็นเวลา 12 ชั่วโมงที่อุณหภูมิ 60 องศาเซลเซียส คิมและคณะ [21] การดำเนินการปรับสภาพ EFB สองขั้นตอน ในขั้นตอนแรก, 4% (v / v) H2SO4 ถูกนำมาใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการลบเฮมิเซลลูโลสและ 10 M NaOH ถูกนำไปใช้ในขั้นตอนการปรับสภาพเป็นครั้งที่สองสำหรับการลบลิกนิน แม้ว่าอัตราการแปลงของน้ำตาลกลูโคสเป็นกว่า 80% ขั้นตอนการปรับสภาพที่มีความซับซ้อนและต้องใช้เวลามาก ในการปรับสภาพ CHEMEX ของเรา 83.6% การย่อยของเอนไซม์ที่ได้รับที่ 130 องศาเซลเซียสเป็นเวลา 20 นาทีกับ 2.9 M โซเดียมไฮดรอกไซ โดยทั่วไปกรดและปรับสภาพความร้อนที่ต้องใช้อุณหภูมิสูงและระยะเวลาอันสั้น ในการเปรียบเทียบปรับสภาพด่างเร่งต้องใช้อุณหภูมิที่ต่ำกว่าและใช้เวลานาน การเพิ่มขึ้นของการย่อยของเอนไซม์จากการเจือจางรักษา NaOH จะเกิดจากการบวมของชีวมวลที่นำไปสู่​​การเพิ่มขึ้นของพื้นที่ผิวภายในลดลงในผลึกแยกโครงสร้างความเชื่อมโยงระหว่างลิกนินและคาร์โบไฮเดรตและการหยุดชะงักของโครงสร้างลิกนิน [ 22] และ [23]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การเปรียบเทียบการใช้วิธีการหลายได้แสดงไว้ในตารางที่ 3 . จอง et al . [ 17 ] รายงานว่า ในการใช้แก๊สเจือจางกรดซัลฟูริค และเอนไซม์ที่ถูกเกือบ 90% ของวัสดุที่ผ่านได้ในไมโครเวฟที่ 190 องศา ในทางกลับกัน การอ่อนอบสภาพรถยนต์ ( hydrolysis ) 140 ° C เป็นเวลา 15 นาที ส่งผลให้ ในการย่อยสลายกลูโคสร้อยละ 29 [ 18 ]sudiyani et al . [ 19 ] รายงานในด่าง ( โซเดียมไฮดรอกไซด์ ) การใช้ . 64 % การเปลี่ยนกลูโคสจากชีวมวลที่ผ่านเท่ากับร้อยละ 30 ° C เป็นเวลา 90 นาที จอง et al . [ 20 ] รายงานการใช้แอมโมเนียน้ำสำหรับใช้ทำ ; 41.4% เซลลูโลสถูกเปลี่ยนเป็นกลูโคสผ่านการ 21 % ( w / w ) สารละลายแอมโมเนีย 12 ชั่วโมง ที่อุณหภูมิ 60 องศา คิม et al .[ 21 ] ดำเนินการโดยใช้สองขั้นตอน ในขั้นตอนแรก , 4 เปอร์เซ็นต์ ( v / v ) กรดซัลฟิวริกถูกใช้เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการเอาเฮมิเซลลูโลสและ 10 M NaOH ใช้ในขั้นตอนที่สองสำหรับการขจัดลิกนิน แม้ว่าอัตราการแปลงของกลูโคส กว่า 80 % ปรับสภาพกระบวนการมีความซับซ้อนและต้องใช้มาก เวลา ในการ chemex ของเรา , 83 .6 % โดยการย่อยได้ 130 องศา C เป็นเวลา 20 นาที 2.9 M โซเดียม ไฮดรอกไซด์ โดยทั่วไปการใช้กรดและความร้อนอุณหภูมิสูงเวลาสั้น ในการเปรียบเทียบ และการต้องเร่งอุณหภูมิต่ำและเวลา เพิ่มเอนไซม์ในการย่อย เนื่องจากมีการเจือจาง เกิดจากการบวมของชีวมวลนำไปสู่การเพิ่มขึ้นในพื้นที่ผิวภายใน ลดความเป็นผลึก แยกโครงสร้างความเชื่อมโยงระหว่างลิกนินและคาร์โบไฮเดรต และการหยุดชะงักของลิกนินโครงสร้าง [ 22 ] และ [ 23 ]