I even feel like I over acted that.

I even feel like I over acted that. In real life if it was me, it would be inside my head cause I don’t cry very often, so I would be looking at her and I would just talk to her. That was probably a tough scene for me because it felt so unnatural to react at all to something like that, I feel like I would just talk as if nothing happened while thinking about it in my head. But the more challenging scenes were the scenes where we were we ended up going in to the heavy improv because it has never been my comfort zone. The films that I’ve done before were always heavily scripted. A lot of them were studio films where to go off the script would mean a lot of wasted time and money.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แม้แต่ฉันรู้สึกเหมือนฉันไปดำเนินการที่ ในชีวิตจริง ถ้าเป็นฉัน มันจะอยู่ภายในสาเหตุใหญ่ของฉันฉันไม่ร้องไห้บ่อย ดังนั้นฉันจะมองที่เธอ และฉันเพียงแค่จะพูดคุยกับเธอ ที่ได้คงเป็นฉากที่ยากสำหรับผม เพราะมันรู้สึกธรรมชาติดังนั้นการตอบสนองที่เป็นเช่นนั้น ฉันรู้สึกเหมือนฉันจะพูดเพียงว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในขณะที่คิดเกี่ยวกับมันในหัวของฉัน แต่ฉากท้าทายมาก ฉากที่เรามีเราสิ้นสุดไปใน improv หนัก เพราะมันไม่เคยมีฉันสบายโซน เสมอมากมีสคริปต์ภาพยนตร์ที่ฉันได้กระทำก่อน ส่วนมากมีสตูดิโอภาพยนตร์ว่าจะไปปิดสคริปต์จะหมายถึง เสียเวลาและเงินจำนวนมาก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฉันยังรู้สึกเหมือนฉันมากกว่าที่ทำหน้าที่ ในชีวิตจริงถ้าเป็นผมก็จะอยู่ในหัวของฉันทำให้ฉันไม่ร้องไห้บ่อยมากดังนั้นฉันจะมองมาที่เธอและฉันก็จะพูดคุยกับเธอ นั่นอาจจะเป็นฉากที่ยากสำหรับฉันเพราะมันให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติเพื่อที่จะตอบสนองที่ทุกสิ่งที่ต้องการที่ฉันรู้สึกเหมือนฉันก็จะพูดคุยราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นในขณะที่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ในหัวของฉัน แต่ฉากที่ท้าทายมากขึ้นเป็นฉากที่เราเป็นเราสิ้นสุดขึ้นไปในอิหนักเพราะมันไม่เคยได้รับความสะดวกสบายโซนของฉัน ภาพยนตร์ที่ผมเคยทำมาก่อนถูกเสมอสคริปต์อย่างหนัก จำนวนมากของพวกเขาเป็นฟิล์มสตูดิโอที่จะไปปิดสคริปต์จะหมายถึงมากเสียเวลาและเงิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฉันรู้สึกเหมือนฉันไปทำแบบนั้น ในชีวิตจริง ถ้าเป็นผม คงจะอยู่ในหัวของฉัน เพราะฉันจะไม่ร้องไห้บ่อยมาก ดังนั้นผมจะมองเธอ และผมก็พูดคุยกับเธอ นี่อาจเป็นฉากที่ยากสำหรับผม เพราะมันให้ความรู้สึกประหลาด ตอกกลับเลยอะไรประมาณนั้น ผมรู้สึกว่าผมจะพูดเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ในขณะที่คิดอยู่ในหัวของฉันแต่ยิ่งท้าทายฉากเป็นฉากที่เราอยู่ เราก็เลยไปในการยกระดับหนัก เพราะมันไม่เคยมีโซนความสะดวกสบายของฉัน ภาพยนตร์ที่ผมเคยทำมาก่อนก็เขียนบทอย่างหนัก มากของพวกเขาเป็นสตูดิโอภาพยนตร์ที่ไปปิดบทมีความหมายมากเสียเวลาและเงิน