depolymerises the native cellulose

depolymerises the native cellulose structure and exposes the short
length crystallites [14]. Acrylic acid treatment was also reported to
be effective in modifying the natural fibers surface. A study on flax
fibers-reinforced polyethylene bio-composites by Li et al. found
that the efficiency of such a treatment was higher than alkali and
silane treatment [14].
The chemical coupling method is also one of the important
chemical methods, which improve the interfacial adhesion. In this
method the fiber surface is treated with a compound that forms a
bridge of chemical bonds between fiber and matrix. The chemical
composition of coupling agents allows them to react with the fiber
surface forming a bridge of chemical bonds between the fiber and
matrix. Most researchers found these treatments were effective
and showed better interfacial bonding [13]. Among different coupling
agents, maleic anhydride is the most commonly used. In general,
the literature reports improvements in tensile strength and
elongation at break when maleic anhydride grafted matrices are
used as compatibilizers (coupling agent) [15].
Hu and Lim [18] investigated that alkali treatment significantly
improved the tensile properties of hemp fiber reinforced polylactic
acid (PLA) compare to those untreated. Figs. 14 and 15 showed that
the composites with 40% volume fraction of alkali treated fiber
have the best tensile properties. The tensile strength and tensile
modulus of the composites with 40% treated fiber are 54.6 MPa
and 85 GPa respectively, which are much higher than neat PLA,
especially for the tensile modulus which is more than twice of that
of neat PLA (35 GPa).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

depolymerises โครงสร้างดั้งเดิมเซลลูโลส และ exposes สั้นความยาว crystallites [14] นอกจากนี้รายงานการรักษากรดอะคริลิมีประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนพื้นผิวเส้นใยธรรมชาติ การศึกษาบนลินินไบโอ-คอมโพสิตเสริมเส้นใยพลาสติกโดย Li et al.พบว่าประสิทธิภาพของการรักษาสูงกว่าเป็นด่าง และไซเลนบำบัด [14]สารเคมี coupling วิธียังเป็นหนึ่งสำคัญวิธีทางเคมี ซึ่งเพิ่มการยึดเกาะแรง ในการนี้วิธีคือรักษาพื้นผิวเส้นใย ด้วยสารที่มีสะพานของพันธะเคมีระหว่างเส้นใยและเมตริกซ์ สารเคมีองค์ประกอบของตัวแทนได้ทำปฏิกิริยากับเส้นใยพื้นผิวขึ้นรูปเป็นสะพานของพันธะเคมีระหว่างเส้นใย และเมทริกซ์ นักวิจัยส่วนใหญ่พบการรักษาเหล่านี้มีประสิทธิภาพและแสดงให้เห็นดีกว่า interfacial พันธะ [13] ระหว่างข้อต่อต่าง ๆกันมากที่สุดมีใช้ตัวแทน maleic ด ทั่วไปวรรณกรรมรายงานการปรับปรุงในความแข็งแรง และมียืดที่เมื่อด maleic ทาบเมทริกซ์ใช้เป็น compatibilizers (ควบ) [15]Hu และ Lim [18] การตรวจสอบการรักษาด่างมากปรับปรุงสมบัติแรงดึงของ polylactic เสริมใยป่านกรด (PLA) เปรียบเทียบกับผู้ได้รับการรักษา มะเดื่อ. 14 และ 15 แสดงให้เห็นว่าคอมโพสิต มีปริมาณ 40% เศษของด่างถือว่าไฟเบอร์มีคุณสมบัติแรงดึงที่ดีที่สุด แรงดึง และแรงดึงโมดูลัสของวัสดุผสมกับไฟเบอร์ 40% ถือว่าเป็น 54.6 MPaและ 85 GPa ตามลำดับ ซึ่งมีมากขึ้นกว่าปลาเรียบร้อยโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับโมดูลัสแรงดึงที่มี มากกว่าสองเท่า ของที่ของปลาเรียบร้อย (35 เกรดเฉลี่ย)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

depolymerises โครงสร้างเซลลูโลสพื้นเมืองและ exposes สั้น
crystallites ยาว [14] อะคริลิรักษากรดยังมีรายงานว่าจะ
มีประสิทธิภาพในการปรับเปลี่ยนพื้นผิวเส้นใยธรรมชาติ การศึกษาแฟลกซ์
เส้นใยเสริมแรงพลาสติกชนิดไบโอคอมโพสิตโดย Li et al, พบ
ว่าประสิทธิภาพของการบำบัดสูงกว่าอัลคาไลและ
ไซเลนรักษา [14].
วิธีการมีเพศสัมพันธ์ทางเคมียังเป็นหนึ่งในสิ่งที่สำคัญ
วิธีการทางเคมีซึ่งปรับปรุงยึดติด ในการนี้
วิธีเส้นใยผิวการรักษาด้วยสารประกอบที่มีรูปแบบเป็น
สะพานพันธะเคมีระหว่างเส้นใยและเมทริกซ์ สารเคมีที่
องค์ประกอบของตัวแทนการมีเพศสัมพันธ์ช่วยให้พวกเขาทำปฏิกิริยากับเส้นใย
ผิวการสร้างสะพานพันธะเคมีระหว่างเส้นใยและ
เมทริกซ์ นักวิจัยส่วนใหญ่พบว่าการรักษาเหล่านี้มีประสิทธิภาพ
และแสดงให้เห็นพันธะ interfacial ดีขึ้น [13] ท่ามกลางการมีเพศสัมพันธ์ที่แตกต่างกัน
ตัวแทนสารประกอบอัตราส่วนคือใช้กันมากที่สุด โดยทั่วไป
วรรณกรรมรายงานการปรับปรุงในการต้านทานแรงดึงและ
ความยืดเมื่อขาดเมื่ออัตราส่วนแอนไฮไดเมทริกซ์กราฟต์จะถูก
นำมาใช้เป็นเข้ากัน (ตัวแทน coupling) [15].
Hu และ Lim [18] การตรวจสอบว่าการรักษาด่างอย่างมีนัยสำคัญ
ปรับปรุงสมบัติแรงดึงของเส้นใยป่านเสริม polylactic
Acid (PLA) เปรียบเทียบกับผู้ที่ได้รับการรักษา มะเดื่อ 14 และ 15 แสดงให้เห็นว่า
คอมโพสิตที่มีส่วนปริมาณ 40% ของเส้นใยที่ได้รับการรักษาด่าง
ได้ดีที่สุดสมบัติแรงดึง ความต้านทานแรงดึงและแรงดึง
โมดูลัสคอมโพสิตที่มีเส้นใยได้รับการรักษา 40% เป็น 54.6 MPa
และ 85 GPa ตามลำดับซึ่งจะสูงกว่าเรียบร้อย PLA และ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโมดูลัสแรงดึงซึ่งเป็นมากกว่าสองเท่าของที่
ของเรียบร้อย PLA (35 GPA)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

depolymerises โครงสร้างเซลลูโลสพื้นเมืองและ exposes สั้นความยาว crystallites [ 14 ] มีการรักษากรดอะคริลิกมีประสิทธิภาพในการใช้เส้นใยธรรมชาติผิว การศึกษา ป่านไบโอพลาสติกเสริมเส้นใยคอมโพสิตโดย Li et al . พบที่ประสิทธิภาพของการรักษาดังกล่าวสูงกว่าและด่างไซเลนรักษา [ 14 ]การเชื่อมต่อวิธีทางเคมียังเป็นหนึ่งในที่สำคัญวิธีทางเคมี ซึ่งเพิ่มความสามารถในการยึดติดระหว่าง . ในนี้วิธีการรักษาพื้นผิวของเส้นใยด้วยสารประกอบที่รูปแบบสะพานของพันธะเคมีระหว่างเส้นใยและเมทริกซ์ ทางเคมีองค์ประกอบของสารหล่อลื่นให้ทำปฏิกิริยากับเส้นใยสร้างสะพานของพันธะเคมีระหว่างเส้นใยและพื้นผิวเมทริกซ์ นักวิจัยพบว่า การรักษานี้มีประสิทธิภาพมีขึ้นระหว่างเชื่อม [ 13 ] ระหว่างที่แตกต่างกันการเชื่อมต่อตัวแทนมาเลอิกแอนไฮไดรด์ เป็นผู้ใช้มากที่สุด โดยทั่วไปวรรณคดีรายงานการปรับปรุงความแข็งแรงดึงและการยืดตัวที่จุดแตกหักเมื่อมาเลอิกแอนไฮไดรด์กราฟต์เป็นเมทริกซ์ใช้เป็นตัว ( ตัวแทน coupling ) [ 15 ]โฮ และ ลิม [ 18 ] ตรวจสอบว่าด่างรักษาอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติการปรับปรุงสมบัติความต้านทานแรงดึงของเส้นใยป่านเสริม polylacticacid ( PLA ) เทียบกับผู้ที่ไม่ได้คุณภาพ มะเดื่อ . 14 และ 15 พบว่าคอมโพสิตกับ 40 % ปริมาณด่างถือว่าไฟเบอร์มีแรงดึง สมบัติที่ดีที่สุด แรงดึงและแรงดึงโมดูลัสของวัสดุไฟเบอร์กับ 40% ถือว่า 54.6 MPAและ 85 คะแนน ตามลำดับ ซึ่งจะสูงกว่ากินปลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับโมดูลัสแรงดึงที่มากกว่าสองเท่าของที่ของเรียบร้อย PLA ( 35 คะแนน )