บทความ เรื่อง ร่วมมือแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชน
ประเทศไทยประสบกับปัญหายาเสพติดมาเป็นเวลาช้านาน ซึ่งปัญหายาเสพติดได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะการของโลกปัจจุบันซึ่งมีการติดต่อสื่อสารที่สะดวกรวดเร็ว โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ผู้เสพโดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง คือ เด็กและเยาวชน ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายที่มีความสำคัญมากที่สุด และมีสัดส่วนมากกว่ากลุ่มประชากรอื่น ๆ เข้าถึงและใช้ยาเสพติดได้ง่ายสะดวกกว่าในอดีต ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวมเนื่องจากเด็กและเยาวชนไม่รู้เท่าทันต่อเล่ห์กลของผู้ค้ายาเสพติด ประกอบกับ ความอยากรู้ อยากลอง ความคึกคะนอง การต้องการความยอมรับในกลุ่มเพื่อน จิตใจที่ไม่หนักแน่น ถือเป็นจุดด้อยที่ทำให้เด็กและเยาวชนหลงกลเข้าไปติดบ่วงหรือตกเป็นทาสของยาเสพติด
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยที่เกิดจากความอ่อนแอของหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม คือ ครอบครัว ซึ่งเกิดจากพ่อแม่ด้อยคุณภาพ การที่เอาแต่รักลูกโดยที่ไม่รู้จักสอนลูก
จึงทำให้ยาเสพติดสามรถแพร่ระบาดในเข้าไปยังกลุ่มเด็กและเยาวชนเป็นไปได้โดยง่ายอีกทางหนึ่ง การแก้ไขปัญหายาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนจึงต้องยังคงดำเนินการอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ซึ่งรัฐบาลทุกยุคทุกสมัยได้ให้ความสำคัญการแก้ไขปัญหา
ยาเสพติดมาโดยตลอด รวมถึงรัฐบาลชุดปัจจุบันที่ได้ประกาศเป็นวาระแห่งชาติ ภายใต้ "พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด” ที่ทุกภาคส่วนในสังคมจะต้องมีความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจเร่งแก้ไขปัญหายาเสพติด อย่างจริงจังและต่อเนื่อง
แม้รัฐบาลจะประกาศเอาชนะยาเสพติดก็ตาม ก้ไมได้หมายความว่าการป้องกัน รวมถึงการปราบปรามยาเสพติดจะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่เพียงฝ่ายเดียว การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหน้าที่ของทุกคนทุกฝ่ายที่ต้องร่วมมือกัน สิ่งหนึ่งที่สามารถทำได้ คือ การให้การศึกษาและความรู้เรื่องพิษภัยและโทษของยาเสพติดอย่างต่อเนื่องแก่เด็กและเยาวชน เมื่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง ครู และประชาชน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับปัญหายาเสพติดแล้ว ต้องเอาใจใส่ดูแลลูกหลาน ให้ความรักความอบอุ่นรวมทั้งเป็นที่พึ่งของเด็กได้ เมื่อเด็กมีปัญหาสามารถพูดคุย ช่วยแก้ปัญหาให้เด็กและใช้เหตุผลกับเด็กไม่ใช้อารมณ์ เพราะการใช้อารมณ์จะทำให้เด็กเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ กลุ้มใจซึ่งเป็นเหตุให้หนีออกจากบ้านหรือหันไปพึ่งพายาเสพติด
เพื่อเป็นของขวัญให้เด็กและเยาวชนเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติที่กำลังจะมาถึงในเร็ววันนี้ ขอให้เราทุกคนช่วยกันร่วมกันสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันแก้ไขปัญหา
ยาเสพติดในกลุ่มเด็กและเยาวชนให้ลดระดับลงเรื่อย ๆ และให้มากที่สุด ทั้งนี้หากเราสกัดไม่ให้ยาเสพติดเข้าไปแพร่ระบาดในกลุ่มนี้ได้ ประเทศจะมีรากฐานที่มั่นคงมีพลังในการพัฒนาประเทศต่อไปในอนาคต
เมื่อผู้ใหญ่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันที่จะแก้ไขปัญหาหรือสกัดกั้นยาเสพติดไม่ให้เข้าไปในกลุ่มของเด็กและเยาวชนแล้ว ตัวเด็กและเยาวชนเองต้องให้ความร่วมมือ ด้วยการหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด คาถาที่ช่วยให้รอดพ้นได้ คือ คำว่า "ไม่” เท่านั้น แม้จะผิดใจกับเพื่อนหรืออาจถูกมองว่าไม่เข้าพวกนั้นไม่ต้องสนใจ เด็กและเยาวชนต้องปฏิเสธเป็น เพื่อนที่ดีต้องไม่ชวนเราไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องที่ทุกคนสามารถร่วมแรงร่วมใจสามารถแก้ไขได้.