The industrial revolution has been

The industrial revolution has been the central cause for the increase in pollutants in the atmosphere over the last three centuries. Before 1950, the majority of this pollution was created from the burning of coal for energy generation, space heating, cooking, and transportation. Under the right conditions, the smoke and sulfur dioxide produced from the burning of coal can combine with fog to create industrial smog. In high concentrations, industrial smog can be extremely toxic to humans and other living organisms. London is world famous for its episodes of industrial smog. The most famous London smog event occurred in December, 1952 when five days of calm foggy weather created a toxic atmosphere that claimed about 4000 human lives. Today, the use of other fossil fuels, nuclear power, and hydroelectricity instead of coal has greatly reduced the occurrence of industrial smog. However, the burning of fossil fuels like gasoline can create another atmospheric pollution problem known as photochemical smog. Photochemical smog is a condition that develops when primary pollutants (oxides of nitrogen and volatile organic compounds created from fossil fuel combustion) interact under the influence of sunlight to produce a mixture of hundreds of different and hazardous chemicals known as secondary pollutants. The Table below describes the major toxic constituents of photochemical smog and their effects on the environment. Development of photochemical smog is typically associated with specific climatic conditions and centers of high population density. Cities like Los Angeles, New York, Sydney, and Vancouver frequently suffer episodes of photochemical smog. In recent years, scientists have also noticed that smaller communities, like Kelowna and Kamloops, can develop similar pollution problems if conditions are right

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การปฏิวัติอุตสาหกรรมมีสาเหตุการเพิ่มขึ้นของสารมลพิษในบรรยากาศกว่าสามศตวรรษกลาง ก่อนปี 1950 มลภาวะนี้ส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นจากการเผาถ่านหินสำหรับผลิตพลังงาน ความร้อนพื้นที่ ทำอาหาร และการขนส่ง ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม ควันและซัลเฟอร์ไดออกไซด์ผลิตจากการเผาไหม้ของถ่านหินสามารถรวมกับหมอกเพื่อสร้างหมอกควันอุตสาหกรรม ในความเข้มข้นสูง หมอกควันอุตสาหกรรมสามารถพิษมากกับชีวิตอื่น ๆ และมนุษย์ ลอนดอนเป็นเรื่องเป็นตอนของหมอกควันอุตสาหกรรมโลก หมอกควันเหตุการณ์โด่งดังที่สุดของลอนดอนที่เกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 1952 เมื่อห้าวันมีหมอกอากาศสงบสร้างบรรยากาศที่เป็นพิษที่อ้างว่า ชีวิตประมาณ 4000 วันนี้ การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล นิวเคลียร์ และอื่น ๆ ขนาดแทนถ่านหินมีมากลดการเกิดหมอกควันอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นน้ำมันสามารถสร้างปัญหามลพิษทางอากาศอีกที่เรียกว่า photochemical หมอกควัน หมอกควัน photochemical เป็นเงื่อนไขที่พัฒนาเมื่อสารมลพิษหลัก (ออกไซด์ของไนโตรเจนและสารอินทรีย์ระเหยจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล) โต้ตอบภายใต้อิทธิพลของแสงแดดการผสมกันของสารเคมีต่าง ๆ และเป็นอันตรายเป็นสารมลพิษรอง ตารางด้านล่างนี้อธิบาย constituents พิษสำคัญของหมอกควัน photochemical และผลกระทบสิ่งแวดล้อม พัฒนาของหมอกควัน photochemical คือมักจะเกี่ยวข้องกับเงื่อนไข climatic เฉพาะและศูนย์กลางของความหนาแน่นประชากรสูง เมืองลอสแอนเจลิส นิวยอร์ก ซิดนีย์ และแวนคูเวอร์บ่อยทรมานตอนของหมอกควัน photochemical ในปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ได้ยังสังเกตเห็นว่า ชุมชนมีขนาดเล็กลง เช่นเคโลว์น่า Kamloops สามารถพัฒนาคล้ายมลพิษถ้าเงื่อนไขที่เหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การปฏิวัติอุตสาหกรรมได้รับสาเหตุที่กลางสำหรับการเพิ่มขึ้นของสารมลพิษในบรรยากาศในช่วงสามศตวรรษที่ผ่านมา ก่อนปี 1950 ส่วนใหญ่ของมลพิษนี้ถูกสร้างขึ้นจากการเผาไหม้ของถ่านหินในการผลิตพลังงานความร้อนพื้นที่ปรุงอาหารและการขนส่ง ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมควันและก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่ผลิตจากการเผาไหม้ของถ่านหินสามารถรวมกับมีหมอกในการสร้างหมอกควันในภาคอุตสาหกรรม ในระดับความเข้มข้นสูงอุตสาหกรรมหมอกควันสามารถเป็นพิษอย่างมากต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ลอนดอนเป็นโลกที่มีชื่อเสียงสำหรับตอนของหมอกควันในภาคอุตสาหกรรม ที่มีชื่อเสียงที่สุดเหตุการณ์หมอกควันที่เกิดขึ้นในกรุงลอนดอนในเดือนธันวาคม 1952 เมื่อวันที่ห้าของสภาพอากาศมีหมอกหนาสงบสร้างบรรยากาศที่เป็นพิษที่อ้างว่าประมาณ 4000 ชีวิตมนุษย์ วันนี้การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอื่น ๆ ที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์และ hydroelectricity แทนถ่านหินได้ลดลงอย่างมากของการเกิดหมอกควันในภาคอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามการเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิลเช่นน้ำมันสามารถสร้างปัญหามลพิษทางอากาศอื่นที่รู้จักกันเป็นหมอกควันแสง หมอกควันแสงเป็นสภาพที่พัฒนาเมื่อสารมลพิษหลัก (ออกไซด์ของไนโตรเจนและสารอินทรีย์ระเหยที่สร้างขึ้นจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล) โต้ตอบภายใต้อิทธิพลของแสงแดดในการผลิตส่วนผสมของหลายร้อยของสารเคมีที่แตกต่างกันและอันตรายที่รู้จักกันเป็นมลพิษรอง ตารางด้านล่างอธิบายองค์ประกอบที่สำคัญของการเป็นพิษหมอกควันแสงและผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาของหมอกควันแสงปกติจะเกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศที่เฉพาะเจาะจงและศูนย์รวมของความหนาแน่นของประชากรสูง เมืองเช่น Los Angeles, New York, ซิดนีย์และแวนคูเวอร์บ่อยประสบตอนของหมอกควันแสง ในปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ได้สังเกตเห็นได้ว่าชุมชนเล็ก ๆ เช่นคีโลว์นาและแคมลูปส์สามารถพัฒนาปัญหามลพิษเหมือนกันถ้าเงื่อนไขที่เหมาะสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การปฏิวัติอุตสาหกรรมได้ เพราะกลางเพื่อเพิ่มมลพิษในบรรยากาศ เมื่อสามศตวรรษ ก่อนปี 1950 ส่วนใหญ่ของมลพิษที่ถูกสร้างขึ้นจากการเผาไหม้ของถ่านหินในการผลิตพลังงาน พื้นที่ ความร้อน อาหาร และขนส่ง ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสมควันและก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาไหม้ของถ่านหินสามารถรวมกับหมอกสร้างหมอกควันอุตสาหกรรม ในความเข้มข้นสูง หมอกควันอุตสาหกรรมสามารถมากเป็นพิษต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ลอนดอนเป็นโลกที่มีชื่อเสียงสำหรับตอนของหมอกควันพิษอุตสาหกรรม ที่มีชื่อเสียงที่สุดในลอนดอนหมอกเกิดเหตุในเดือนธันวาคม1952 เมื่อ 5 วันแห่งความสงบ อากาศเป็นพิษ หมอกสร้างบรรยากาศที่อ้างว่า ประมาณ 4 , 000 คนอาศัยอยู่ วันนี้ การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลอื่น ๆพลังงานนิวเคลียร์ และพลังน้ำแทนถ่านหินได้ลดการเกิดหมอกควันในอุตสาหกรรมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การเผาไหม้ของเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น น้ำมัน สามารถสร้างบรรยากาศหรือที่เรียกว่า 2 ปัญหามลพิษหมอกควันหมอกควันพิษจากสารเคมีเป็นเงื่อนไขที่พัฒนาเมื่อหลักมลพิษ ( ออกไซด์ของไนโตรเจนและสารระเหยอินทรีย์ที่สร้างขึ้นจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล ) โต้ตอบภายใต้อิทธิพลของแสงแดดเพื่อผลิตเป็นส่วนผสมของหลายร้อยที่แตกต่างกันและสารเคมีอันตรายที่รู้จักกันเป็นสารมลพิษทุติยภูมิตารางด้านล่างอธิบายถึงองค์ประกอบหลักของหมอกควันพิษเคมี และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การพัฒนาของหมอกควันพิษจากสารเคมีโดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับเฉพาะสภาพภูมิอากาศและศูนย์ความหนาแน่นของประชากรสูง เมืองเช่น Los Angeles , New York , ซิดนีย์ และ แวนคูเวอร์มักประสบตอนแสงหมอก ใน ปี ล่าสุดนักวิทยาศาสตร์ยังพบว่า ชุมชนมีขนาดเล็กลง เช่น Kelowna แคมลูปส์และสามารถพัฒนาปัญหามลภาวะที่คล้ายกันถ้าเงื่อนไขถูกต้อง