Corn stover is an agricultural resi

Corn stover is an agricultural residue consisting of lignocellulose, cellulose and hemicellulose polymers,
sheeted in a lignin barrier. Corn stover can be used as feedstock for biogas production. Previous studies
have shown biological pretreatment of lignocellulose materials can increase digestibility of the substrate
improving hydrolysis, the rate-limiting step in biogas production.
The impact of pretreating with different enzymes (laccase, manganese peroxidase and versatile peroxidase)
and different incubation times, (0, 6 and 24 h) was studied. The effect on the matrix and biomethane
production was determined. Pretreatments did not yield high concentrations of phenolic
compounds, inhibitors of biogas production. The laccase enzyme showed an increase in biomethane production
of 25% after 24 h of incubation. Pretreatment with peroxidase enzymes increased biomethane
production with 17% after 6 h of incubation. As such it can be concluded that by introducing the different
enzymes at different stages during pretreatment an increased biomethane production can be obtained.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Stover ข้าวโพดมีสารตกค้างการเกษตรประกอบด้วย lignocellulose เซลลูโลส และ hemicellulose โพลิเมอร์sheeted ในอุปสรรค lignin Stover ข้าวโพดสามารถใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตก๊าซชีวภาพ การศึกษาก่อนหน้านี้มีแสดงชีวภาพ pretreatment lignocellulose วัสดุสามารถเพิ่ม digestibility ของพื้นผิวปรับปรุงไฮโตรไลซ์ ขั้นตอนการจำกัดอัตราการผลิตก๊าซชีวภาพผลกระทบของ pretreating กับเอนไซม์ต่าง ๆ (laccase, peroxidase แมงกานีส และ peroxidase เอนกประสงค์)และ เวลาฟักตัวแตกต่างกัน, (0, 6 และ 24 h) ได้ศึกษาการ ผลเมตริกซ์และ biomethaneผลิตถูกกำหนด Pretreatments ไม่ได้ผลผลิตสูงความเข้มข้นของฟีนอสาร inhibitors ผลิตก๊าซชีวภาพ เอ็นไซม์ laccase พบเพิ่มผลิต biomethane25% หลังจาก 24 ชมของคณะทันตแพทยศาสตร์ Pretreatment ด้วย biomethane เพิ่มเอนไซม์ peroxidaseการผลิต 17% หลัง 6 h ของคณะทันตแพทยศาสตร์ ดังนั้นสามารถสรุปได้ที่ โดยการแนะนำต่าง ๆเอนไซม์ในระยะต่าง ๆ ในระหว่างการผลิตเพิ่มขึ้น biomethane pretreatment สามารถได้รับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซังข้าวโพดเป็นสารตกค้างทางการเกษตรซึ่งประกอบด้วยลิกโนเซลลูโลสเซลลูโลสเฮมิเซลลูโลสและโพลิเมอร์,
sheeted ในอุปสรรคลิกนิน ซังข้าวโพดสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตก๊าซชีวภาพ ศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงให้เห็นการปรับสภาพทางชีวภาพของวัสดุลิกโนเซลลูโลสสามารถเพิ่มการย่อยได้ของพื้นผิวการปรับปรุงการย่อยสลายในขั้นตอนการจำกัด อัตราการในการผลิตก๊าซชีวภาพ. ผลกระทบของการ pretreating กับเอนไซม์ที่แตกต่างกัน (แลคเคส, peroxidase และแมงกานีสเปอร์ออกซิเดหลากหลาย) และเวลาการบ่มที่แตกต่างกัน (0 , 6 และ 24 ชั่วโมง) คือการศึกษา ผลกระทบต่อเมทริกซ์และก๊าซมีเทนทางชีวภาพผลิตกำหนด การเตรียมการไม่ได้ผลความเข้มข้นสูงของฟีนอลสารยับยั้งการผลิตก๊าซชีวภาพ เอนไซม์แลคเคสแสดงให้เห็นว่าการเพิ่มขึ้นของการผลิตก๊าซมีเทนทางชีวภาพ25% หลังจาก 24 ชั่วโมงของการบ่ม ปรับสภาพด้วยเอนไซม์ peroxidase เพิ่มขึ้นก๊าซมีเทนทางชีวภาพการผลิตที่มี17% หลังจาก 6 ชั่วโมงของการบ่ม เช่นนี้มันสามารถสรุปได้ว่าโดยการแนะนำที่แตกต่างกันของเอนไซม์ในขั้นตอนที่แตกต่างกันในระหว่างการปรับสภาพก๊าซมีเทนทางชีวภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้นสามารถรับได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฝักข้าวโพดมีกากการเกษตรประกอบด้วยลิกโนเซลลูโลส เฮมิเซลลูโลส , เซลลูโลส และลิกนิน พอลิเมอร์ ,
sheeted ในอุปสรรค ฝักข้าวโพดที่สามารถใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตก๊าซชีวภาพ การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แสดงการ
ทางชีวภาพของวัสดุลิกโนเซลลูโลสสามารถเพิ่มการย่อยได้ของพื้นผิว
ปรับปรุงโดยใช้อัตราการขั้นตอนในการผลิตก๊าซชีวภาพ .
ผลกระทบของ pretreating ด้วยเอนไซม์ ( เอนไซม์แลคเคสที่แตกต่างกัน , แมงกานีสและหลากหลาย peroxidase )
และเวลาการบ่มที่แตกต่างกัน ( 0 , 6 และ 24 ชั่วโมง ) ผลการทดลองพบว่า ผลในเมทริกซ์และการผลิตไบโอมีเทน
ถูกกำหนดไว้ การเตไม่ได้ผลความเข้มข้นสูงของฟีนอล
สารยับยั้งการผลิตก๊าซชีวภาพ