1. States Parties shall establish c

1. States Parties shall establish comprehensive policies, programmes and other measures:
(a) To prevent and combat trafficking in persons; and
(b) To protect victims of trafficking in persons, especially women and children, from
revictimization.
2. States Parties shall endeavour to undertake measures such as research, information and mass
media campaigns and social and economic initiatives to prevent and combat trafficking in persons.
Protocol Annotation: Research is important in understanding trafficking and developing
policies and responses. For example, research needs to be done in countries of destination
to assess the manner in which restrictive immigration laws facilitate trafficking by preventing
people from entering legally to work at jobs begging for workers. Research is also needed
on best practices regarding prevention and reintegration.
Information and mass media campaigns have been carried out in many countries and the
best ones do not use scare tactics to deter people from migrating. Governments should
fund campaigns that provide information to potential migrants about their legal rights abroad
and safe migration so that people can decide whether or not their travel and work plans are
realistic and safe. The campaigns should also be linked to service providers and ways to
obtain more information.
3. Policies, programmes and other measures established in accordance with this article shall, as
appropriate, include cooperation with non-governmental organizations, other relevant
organizations and other elements of civil society.
Protocol Annotation: Governments that sign the Trafficking Protocol must find appropriate
ways to collaborate and cooperate with NGOs. This provision supports NGO demands for a
role in the development of policies, programs and measures related to the prevention of
trafficking. Part of the cooperation should also include government funding of NGO
activities.
4. States Parties shall take or strengthen measures, including through bilateral or multilateral
cooperation, to alleviate the factors that make persons, especially women and children, vulnerable
to trafficking, such as poverty, underdevelopment and lack of equal opportunity.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1. รัฐภาคีต้องกำหนดนโยบายที่ครอบคลุม โปรแกรม และมาตรการอื่น ๆ:(ก) การป้องกัน และต่อสู้กับการค้ามนุษย์ในบุคคล และ(ข) เพื่อป้องกันเหยื่อการค้ามนุษย์ในบุคคล เฉพาะผู้หญิงและเด็ก จากrevictimization2. รัฐภาคีต้องพยายามที่จะดำเนินมาตรการเช่นวิจัย ข้อมูล และมวลสื่อส่งเสริมการขายและโครงการทางเศรษฐกิจ และสังคมเพื่อป้องกัน และต่อสู้กับผู้ค้าในคำอธิบายของโพรโทคอล: การวิจัยเป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และการพัฒนานโยบายและการตอบสนอง ตัวอย่างเช่น วิจัยต้องทำในประเทศปลายทางเพื่อประเมินลักษณะที่เข้มงวด กฎหมายอำนวยความสะดวกในการค้า โดยการป้องกันท่านเข้าสู่การทำงานกับงานขอทานแรงงานตามกฎหมาย วิจัยยังไม่จำเป็นในแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการป้องกันและ reintegrationส่งเสริมการขายข้อมูลและสื่อมวลชนได้ดำเนินการในหลายประเทศและคนที่สุดไม่ได้ใช้กลยุทธ์ความหวาดกลัวเพื่อขัดขวางไม่ให้ท่านย้าย รัฐบาลควรกองทุนส่งเสริมการขายที่ให้ข้อมูลกับแรงงานที่มีศักยภาพเกี่ยวกับต่างประเทศสิทธิตามกฎหมายของพวกเขาและมีการย้ายเซฟเพื่อว่าคนสามารถตัดสินใจได้หรือไม่ เดินทางและงานแผนจริง และปลอดภัย ส่งเสริมการขายควรจะเชื่อมโยงกับผู้ให้บริการและวิธีการขอรับข้อมูลเพิ่มเติม3. นโยบาย โปรแกรม และมาตรการอื่น ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามบทความนี้จะ เป็นเหมาะสม มีความร่วมมือกับองค์กรพัฒนาเอกชน อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้ององค์กรและองค์ประกอบของประชาสังคมคำอธิบายของโพรโทคอล: รัฐบาลที่ลงโพรโทคอลการค้าต้องหาที่เหมาะสมวิธีการทำงานร่วมกัน และร่วมมือกับองค์กรพัฒนาเอกชน บทบัญญัตินี้รองรับความต้องการองค์กรพัฒนาเอกชนบทบาทในการพัฒนานโยบาย โปรแกรม และมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการค้ามนุษย์ เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือควรจะมีทุนรัฐบาลของโงกิจกรรม4. รัฐภาคีต้องใช้เวลา หรือเสริมสร้างมาตรการ รวมทั้งผ่านทวิภาคี หรือพหุภาคีความร่วมมือ เพื่อลดปัจจัยที่ทำให้คน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้หญิงและเด็ก ความเสี่ยงการค้า เช่นความยากจน ความไม่เจริญ และขาดโอกาสที่เท่าเทียม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

1. รัฐภาคีจะต้องกำหนดนโยบายที่ครอบคลุมโปรแกรมและมาตรการอื่น ๆ :
(ก) การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์; และ
(ข) เพื่อป้องกันผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์โดยเฉพาะสตรีและเด็กจาก
revictimization
2. รัฐภาคีจะต้องพยายามที่จะดำเนินมาตรการต่าง ๆ เช่นการวิจัยข้อมูลและมวล
แคมเปญสื่อและสังคมเศรษฐกิจและความคิดริเริ่มในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
หมายเหตุพิธีสาร: การวิจัยเป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจการค้ามนุษย์และการพัฒนา
นโยบายและการตอบสนอง ตัวอย่างเช่น,
การวิจัยจะต้องมีการทำในประเทศปลายทาง ในการประเมินในลักษณะที่กฎหมายคนเข้าเมืองที่เข้มงวดอำนวยความสะดวกในการค้ามนุษย์โดยป้องกันไม่ให้
ผู้คนจากการป้อนตามกฎหมายที่จะทำงานที่งานขอทานสำหรับคนงาน งานวิจัยยังเป็นสิ่งจำเป็น
ในการปฏิบัติที่ดีที่สุดเกี่ยวกับการป้องกันและการคืนสู่สังคม
สารสนเทศและการสื่อมวลแคมเปญได้รับการดำเนินการในหลายประเทศและ
คนที่ดีที่สุดไม่ได้ใช้กลยุทธ์ทำให้ตกใจที่จะยับยั้งคนจากการโยกย้าย รัฐบาลควร
กองทุนแคมเปญที่ให้ข้อมูลกับแรงงานข้ามชาติที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิของตนตามกฎหมายต่างประเทศ
และการย้ายถิ่นที่ปลอดภัยเพื่อให้ประชาชนสามารถตัดสินใจหรือไม่ในการเดินทางและการทำงานแผนการของพวกเขาเป็น
จริงและปลอดภัย
แคมเปญนี้ยังควรเชื่อมโยงกับผู้ให้บริการและวิธีการที่จะ ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม
3. นโยบายการโปรแกรมและมาตรการอื่น ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามข้อนี้จะเป็น
ที่เหมาะสมรวมถึงความร่วมมือกับองค์กรที่ไม่ใช่ภาครัฐอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
องค์กรและองค์ประกอบอื่น ๆ ของภาคประชาสังคม
พิธีสารหมายเหตุ: รัฐบาลที่ลงนามในพิธีสารการค้ามนุษย์จะต้องพบกับความเหมาะสม
วิธีการที่จะทำงานร่วมกันและให้ความร่วมมือกับองค์กรพัฒนาเอกชน บทบัญญัตินี้รองรับความต้องการขององค์กรพัฒนาเอกชนที่
มีบทบาทในการพัฒนานโยบายโปรแกรมและมาตรการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน
การค้ามนุษย์ เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือนอกจากนี้ยังควรรวมถึงการระดมทุนของรัฐบาลขององค์กรพัฒนาเอกชน
กิจกรรม
4. รัฐภาคีจะใช้หรือเสริมสร้างมาตรการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . รัฐภาคีจะสร้างนโยบายที่ครอบคลุม โครงการ และมาตรการอื่น ๆ :( ก ) เพื่อป้องกันและต่อสู้กับการค้ามนุษย์ และ( B ) เพื่อปกป้องผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์ โดยเฉพาะสตรีและเด็กจากrevictimization .2 . รัฐภาคีจะดำเนินมาตรการต่างๆ เช่น ความพยายามวิจัย ข้อมูล และ มวลแคมเปญสื่อสร้างสรรค์สังคมและเศรษฐกิจเพื่อป้องกันและต่อสู้กับการค้ามนุษย์ .หมายเหตุ : ขั้นตอนการวิจัยเป็นสิ่งสำคัญในการค้าและการพัฒนาความเข้าใจนโยบายและการตอบสนอง ตัวอย่างเช่น งานวิจัยต้องทำในประเทศปลายทางเพื่อศึกษาลักษณะที่กฎหมายตรวจคนเข้าเมืองเข้มงวดอำนวยความสะดวกการค้าโดยการป้องกันคนเข้าถูกต้องตามกฎหมายทำงานที่งานขอร้องให้คนงาน การวิจัยเป็นสิ่งจำเป็นที่ดีที่สุดวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการป้องกันและสังคม .ข้อมูลและสื่อมวลแคมเปญได้ดําเนินการในหลายๆ ประเทศ และดีที่สุดไม่ใช้กลยุทธ์หลอนเพื่อยับยั้งผู้คนจากการโยกย้าย รัฐบาลควรแคมเปญ กองทุนที่ให้ข้อมูลแก่ผู้อพยพที่อาจเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายของพวกเขาในต่างประเทศและปลอดภัยในการอพยพ เพื่อให้ผู้คนสามารถตัดสินใจหรือไม่พวกเขาเดินทางและทำงานแผนมีเหตุผลและปลอดภัย แคมเปญยังควรเชื่อมโยงกับผู้ให้บริการ และวิธีขอรับข้อมูลเพิ่มเติม3 . นโยบาย โครงการ และมาตรการอื่น ๆที่จัดตั้งขึ้นตามบทความนี้จะเป็นที่เหมาะสม รวมถึงความร่วมมือกับองค์กรพัฒนาเอกชนอื่น ๆที่เกี่ยวข้ององค์กรและองค์ประกอบอื่น ๆของภาคประชาสังคม( หมายเหตุ : รัฐบาลที่ลงนามในพิธีสารการค้ามนุษย์ต้องค้นหาที่เหมาะสมวิธีในการประสานงาน และร่วมมือกับองค์กรพัฒนาเอกชน บทบัญญัตินี้รองรับความต้องการขององค์กรสำหรับบทบาทในการพัฒนานโยบาย โครงการ และมาตรการด้านการป้องกันการค้ามนุษย์ ส่วนหนึ่งของความร่วมมือยังควรรวมถึงการระดมทุนของรัฐบาลของโงกิจกรรม4 . รัฐภาคีจะใช้หรือเสริมสร้างมาตรการ รวมทั้งผ่านทวิภาคีหรือพหุภาคีความร่วมมือ เพื่อลดปัจจัยที่ทําให้คน โดยเฉพาะผู้หญิงและเด็กเสี่ยงเพื่อการค้า เช่น ความยากจน ความด้อยพัฒนาและการขาดโอกาสที่เท่าเทียมกัน