Public Domain SoftwarePublic Domain

Public Domain Software
Public Domain software is software that "is in the Public Domain." In layman's terms, it has no owner of the intellectual property. Somebody created the program but has no ownership on the program. Public Domain software are allowed to be edited, changed, copied, and distributed with no restrictions. The reason that there is no ownership of the original program is because they have relinquished the copyright of it. Due to the Berne Convention, everything program created is copyrighted. Therefore in order to make a program that is in the program in the Public Domain there must be steps taken to disown the copyright. [3] One of the big confusions that arises with distinguishing Public Domain Software is the similarity to Freeware and Open Source software. Both of these types of software have the potential to have no limitations on the usage of the program, just like Public domain, but the copyright remains on Freeware and Open Source.
Freeware
Freeware software is software that is available with no cost or has an optional "donation" fee. The software can be fully functional for an unlimited time, or have certain restrictions on functionality that can be changed with shareware or a commercially licensed software. Freeware come coupled with one or more restrictions normally. The author or creator of the program will restrict the ability to copy and distribute the software, or reverse engineer and modify the code of the software. In the license, the software may also restrict the use, such as private, public, non-commercial, non-profit, or non-military use. Another way that the Freeware can be restricted is by not allowing use over a server, network, or disallowing use in combination with another program. The Free Software Foundation often has issues with the term "Freeware". "True Free Software" is software that is supposed to be without restrictions on distribution, modification or use, which Freeware has the potential to not be. The first example of software that was initially deemed classified as Freeware was created by Andrew Fluegelman, and it was called PC-Talk. It has its source code available to the public and was initially distributed without cost. Later, this would become known as "Shareware" as cost was later added to use of it.
Open Source
Open Source software is software that comes with permission for anybody to use, copy, distribute with either modifications or as produced. Open Source software is available free of charge to a user. The important distinction about this type of software is that it needs to have the source code available for view. Open source software is very similar to free software, but it has a distinction. Open source software has available less control in the licenses than free software. The video below is an explanation of Open Source software as well. Open Source software has a large number of criterion that it must fill.
The first is free Redistribution. an Open Source license will not restrict either in part or whole the distribution of the software. As by its name, the product needs to have its source code available. While the source code does not need to be distributed with the product, there needs to be a publicly available area to view and copy the source code. Open source licenses also require for free modification of the original product and allow for distribution of the modification. Open source licenses cannot discriminate against who is able to modify the program. This includes other countries, the government, and certain religions and races. The license may not limit the way that the program, or modification of the program, is used. Open source programs are intended to be used in many facets, and not prevent it from benefiting in every way that it can. The Open Source program cannot be required to be apart of a bundle or be used with another program. Finally, the program is not allowed to be restricted to a certain media or type of technology. [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ซอฟต์แวร์สาธารณซอฟต์แวร์สาธารณะเป็นซอฟต์แวร์ที่ "อยู่ในโดเมนสาธารณะ" ในแง่ของ มีเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาไม่มี คนสร้างโปรแกรม แต่มีความเป็นเจ้าของไม่มีในโปรแกรม โดเมนสาธารณะซอฟต์แวร์สามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลง คัดลอก และแจกจ่ายไม่ เหตุผลที่ว่าไม่มีความเป็นเจ้าของโปรแกรมต้นฉบับเป็น เพราะพวกเขามีกิจการก็ลิขสิทธิ์ของมัน เนื่องจากนว่า ทุกอย่างที่สร้างโปรแกรมมีลิขสิทธิ์ ดังนั้น เพื่อให้โปรแกรมที่อยู่ในโปรแกรมในโดเมนสาธารณะ ต้องถูกขั้นตอนนำไป disown ลิขสิทธิ์ [3] confusions ใหญ่ที่เกิดขึ้นกับซอฟต์แวร์โดเมนสาธารณะแตกต่างมีความคล้ายคลึงกับฟรีแวร์และโอเพนซอร์สซอฟต์แวร์ ทั้งสองชนิดของซอฟต์แวร์เหล่านี้มีศักยภาพที่จะมีไม่มีข้อจำกัดในการใช้งานของโปรแกรม เช่นเดียวกับโดเมนสาธารณะ แต่ลิขสิทธิ์ยังคงฟรีแวร์และโอเพนซอร์ส ฟรีแวร์ซอฟแวร์ฟรีแวร์คือ ซอฟต์แวร์ ที่มีต้นทุนไม่มีธรรมเนียมเสริม "บริจาค" ซอฟต์แวร์สามารถทำงานเต็มที่โดยไม่จำกัดเวลา หรือมีข้อจำกัดบางประการในฟังก์ชันการทำงานที่สามารถเปลี่ยนกับ shareware หรือเป็นซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ นั้น ฟรีแวร์มาคู่ มีข้อจำกัดมากกว่า หนึ่งตามปกติ ผู้เขียนหรือผู้สร้างโปรแกรมจะจำกัดความสามารถในการคัดลอก และแจกจ่ายซอฟต์แวร์ หรือวิศวกรรมย้อนกลับ และปรับเปลี่ยนโค้ดของซอฟต์แวร์ ในใบอนุญาต ซอฟต์แวร์อาจยังจำกัดการใช้ เช่นใช้ส่วนตัว สาธารณะ ไม่ ไม่แสวงหากำไร หรือไม่ทหาร อีกวิธีที่ฟรีแวร์ที่สามารถจำกัดคือไม่อนุญาตให้ใช้ผ่านเซิร์ฟเวอร์ เครือข่าย หรือไม่อนุญาตให้ใช้ร่วมกับโปรแกรมอื่น มูลนิธิซอฟต์แวร์ฟรีมักจะมีปัญหากับคำว่า "ฟรีแวร์" "ซอฟต์แวร์ฟรีจริง" คือ ซอฟต์แวร์ที่ควรจะเป็น โดยไม่มีข้อจำกัดในการแจกจ่าย แก้ไข หรือ ใช้ ซึ่งอาจไม่มีฟรีแวร์ ตัวอย่างแรกของซอฟต์แวร์ที่เริ่มต้นถือว่าจัดเป็นฟรีแวร์ที่ถูกสร้างขึ้น โดยแอนดรู Fluegelman และมันถูกเรียกว่า PC พูดคุย มันมีรหัสแหล่งที่มาของบริการสาธารณะ และกระจาย โดยไม่มีต้นทุนเริ่มแรก ในภายหลัง นี้จะกลายเป็นที่รู้จักกันเป็น "Shareware" เป็นต้นทุนในภายหลังเพิ่มการใช้ของมันเปิดแหล่งที่มาเปิดแหล่งซอฟต์แวร์คือ ซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับสิทธิ์สำหรับใครที่จะใช้ คัดลอก กระจาย กับการปรับเปลี่ยนอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือ เป็นการผลิต มีเปิดแหล่งซอฟต์แวร์ฟรีสำหรับผู้ใช้ ความแตกต่างที่สำคัญเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ประเภทนี้คือ ว่า มันต้องมีรหัสแหล่งที่มาสำหรับมุมมอง ซอฟต์แวร์คล้ายคลึงกับซอฟต์แวร์ฟรี แต่ก็มีแตกต่าง ซอฟต์แวร์มีการควบคุมมีน้อยกว่าในใบอนุญาตกว่าซอฟต์แวร์ฟรี วิดีโอด้านล่างเป็นคำอธิบายซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเป็นอย่างดี เปิดแหล่งซอฟต์แวร์ที่มีเงื่อนไขที่ต้องการกรอกข้อมูลเป็นจำนวนมาก แรกคือ แจกฟรี ใบอนุญาตมาเปิดจะไม่จำกัด ในส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดการกระจายซอฟต์แวร์ เป็นตามชื่อ สินค้าต้องมีรหัสแหล่งที่มาของ ในขณะที่รหัสแหล่งที่มาไม่จำเป็นที่จะแจกจ่ายสินค้า ต้องมี บริเวณเผยดู และคัดลอกรหัสแหล่งที่มา ใบอนุญาตมาเปิดยังฟรีต้องการเปลี่ยนแปลงผลิตภัณฑ์เดิม และอนุญาตให้มีการกระจายของการปรับเปลี่ยน ใบอนุญาตเปิดแหล่งที่มาไม่สามารถแบ่งแยกผู้ที่จะสามารถปรับเปลี่ยนโปรแกรม ซึ่งรวมถึงประเทศอื่น ๆ รัฐบาล และบางศาสนา และเชื้อชาติ ใบอนุญาตไม่อาจจำกัดวิธีการว่า โปรแกรม หรือการแก้ไขของโปรแกรม ใช้ โปรแกรมที่มาเปิดมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในหลายแง่มุม และไม่ป้องกันจากการรับประโยชน์ในทุกวิถีทางที่จะสามารถ ไม่ต้องมาเปิดโปรแกรมกันของกลุ่ม หรือใช้กับโปรแกรมอื่น ในที่สุด โปรแกรมไม่ได้จะถูกจำกัดไปยังสื่อหรือเทคโนโลยีชนิดบาง [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ซอฟท์แวโดเมนสาธารณะ
ซอฟต์แวร์โดเมนสาธารณะเป็นซอฟต์แวร์ที่ "เป็นในโดเมนสาธารณะ." ในแง่ของคนธรรมดาก็มีเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาไม่มี ใครบางคนสร้างโปรแกรม แต่มีกรรมสิทธิ์ที่ไม่มีในโปรแกรม ซอฟแวร์โดเมนสาธารณะได้รับอนุญาตให้มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงคัดลอกและจัดจำหน่ายโดยไม่มีข้อ จำกัด ด้วยเหตุผลที่ว่ามีความเป็นเจ้าของของโปรแกรมเดิมไม่เป็นเพราะพวกเขาได้ถูกทิ้งร้างลิขสิทธิ์ของมัน เนื่องจากอนุสัญญาเบิร์นโปรแกรมทุกอย่างที่สร้างขึ้นมีลิขสิทธิ์ ดังนั้นเพื่อที่จะทำให้โปรแกรมที่อยู่ในโปรแกรมในโดเมนสาธารณะที่จะต้องมีขั้นตอนการดำเนินการเพื่อบอกปัดลิขสิทธิ์ [3] หนึ่งในความสับสนขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นกับความแตกต่างซอฟท์แวโดเมนสาธารณะความคล้ายคลึงกันที่จะฟรีแวร์และซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส ทั้งสองประเภทของซอฟต์แวร์เหล่านี้มีศักยภาพที่จะมีข้อ จำกัด เกี่ยวกับการใช้งานของโปรแกรมเช่นเดียวกับโดเมนสาธารณะ แต่ลิขสิทธิ์ยังคงอยู่ในฟรีแวร์และเปิดแหล่งที่มา.
ฟรีแวร์
ซอฟแวร์ฟรีแวร์เป็นซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้ได้กับไม่มีค่าใช้จ่ายหรือมีตัวเลือก "บริจาค" ค่าธรรมเนียม ซอฟต์แวร์ที่สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ไม่ จำกัด เวลาหรือมีข้อ จำกัด บางอย่างในการทำงานที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ด้วย Shareware หรือซอฟต์แวร์ที่ได้รับใบอนุญาตในเชิงพาณิชย์ ฟรีแวร์มาคู่กับหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งข้อ จำกัด ตามปกติ ผู้เขียนหรือผู้สร้างของโปรแกรมที่จะ จำกัด การความสามารถในการคัดลอกและแจกจ่ายซอฟต์แวร์หรือวิศวกรรมย้อนกลับและแก้ไขโค้ดของซอฟต์แวร์ ในใบอนุญาตซอฟต์แวร์ยังอาจมีการ จำกัด การใช้งานเช่นส่วนตัวของประชาชนที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ที่ไม่แสวงหากำไรหรือการใช้ที่ไม่ใช่ทหาร วิธีการที่ฟรีแวร์สามารถถูก จำกัด ก็คือโดยไม่อนุญาตให้ใช้งานในเซิร์ฟเวอร์เครือข่ายหรือไม่อนุญาตให้ใช้งานร่วมกับโปรแกรมอื่น มูลนิธิซอฟต์แวร์เสรีมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับคำว่า "ฟรีแวร์" "ทรูซอฟแวร์ฟรี" เป็นซอฟต์แวร์ที่ควรจะเป็นโดยไม่มีข้อ จำกัด เกี่ยวกับการกระจายการดัดแปลงหรือการใช้งานที่ฟรีแวร์มีศักยภาพที่จะไม่เป็น ตัวอย่างแรกของซอฟต์แวร์ที่ถือว่าเป็นครั้งแรกจัดเป็นฟรีแวร์ที่ถูกสร้างขึ้นโดยแอนดรู Fluegelman และมันถูกเรียกว่า PC-Talk มันมีรหัสแหล่งที่มาให้บริการแก่ประชาชนและถูกเผยแพร่ครั้งแรกไม่มีค่าใช้จ่าย ต่อมาเรื่องนี้จะกลายเป็นที่รู้จักในฐานะ "Shareware" เป็นค่าใช้จ่ายต่อมาก็เพิ่มการใช้งานของมัน.
โอเพนซอร์ส
ซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สเป็นซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับได้รับอนุญาตสำหรับใครที่จะใช้คัดลอกแจกจ่ายกับทั้งการปรับเปลี่ยนหรือผลิต ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สสามารถใช้ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายให้กับผู้ใช้ ความแตกต่างที่สำคัญเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ประเภทนี้ก็คือว่ามันจะต้องมีรหัสที่มาพร้อมใช้งานสำหรับมุมมอง ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สจะคล้ายกับซอฟต์แวร์ฟรี แต่มันก็มีความแตกต่าง ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สมีการควบคุมน้อยกว่าที่มีอยู่ในใบอนุญาตกว่าซอฟต์แวร์ฟรี วิดีโอด้านล่างคือคำอธิบายของซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สเช่นกัน ซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สมีจำนวนมากของเกณฑ์ที่จะต้องกรอก.
แรกคือการกระจายฟรี ใบอนุญาตเปิดแหล่งที่มาจะไม่ จำกัด ทั้งในบางส่วนหรือทั้งการกระจายของซอฟแวร์ โดยชื่อของผลิตภัณฑ์ที่จะต้องมีรหัสที่มาที่มีอยู่ ในขณะที่รหัสที่มาไม่ได้จะต้องมีการกระจายกับสินค้าที่มีความต้องการที่จะเป็นพื้นที่ที่เปิดเผยต่อสาธารณชนเพื่อดูและคัดลอกโค้ดแหล่งที่มา ใบอนุญาตเปิดแหล่งที่มานอกจากนี้ยังต้องสำหรับการปรับเปลี่ยนฟรีของผลิตภัณฑ์เดิมและอนุญาตให้มีการกระจายตัวของการปรับเปลี่ยน ใบอนุญาตเปิดแหล่งที่มาไม่สามารถเลือกปฏิบัติกับคนที่มีความสามารถในการปรับเปลี่ยนโปรแกรม ซึ่งรวมถึงประเทศอื่น ๆ รัฐบาลและศาสนาบางอย่างและการแข่งขัน ใบอนุญาตอาจจะไม่ จำกัด วิธีการที่โปรแกรมหรือการปรับเปลี่ยนของโปรแกรมที่ถูกนำมาใช้ โปรแกรมโอเพนซอร์สมีวัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ในหลายแง่มุมและไม่ป้องกันไม่ให้ได้รับประโยชน์ในทุกวิถีทางที่จะสามารถ โปรแกรมโอเพนซอร์สไม่สามารถที่จำเป็นในการเป็นส่วนหนึ่งของมัดหรือจะใช้กับโปรแกรมอื่น สุดท้ายโปรแกรมไม่ได้รับอนุญาตให้ถูก จำกัด ให้สื่อบางอย่างหรือประเภทของเทคโนโลยี [6]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ซอฟต์แวร์สาธารณะซอฟต์แวร์โดเมนสาธารณะเป็นซอฟต์แวร์ที่เป็นสาธารณสมบัติ " ในแง่ของฆราวาส ไม่มีเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา ใครสร้างโปรแกรม แต่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในโปรแกรม ซอฟต์แวร์โดเมนสาธารณะที่ได้รับอนุญาตให้มีการแก้ไข , เปลี่ยน , คัดลอก , และการกระจายโดยไม่มีข้อจํากัด เหตุผลที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในโปรแกรมต้นฉบับที่เป็น เพราะพวกเขายอมลิขสิทธิ์มัน เนื่องจากอนุสัญญาเบอร์น ทุกอย่างถูกสร้างขึ้นเป็นโปรแกรมมีลิขสิทธิ์ ดังนั้นเพื่อสร้างโปรแกรมที่เป็นโปรแกรมในโดเมนสาธารณะต้องมีขั้นตอนละเอียดยิบลิขสิทธิ์ แบบ [ 3 ] หนึ่งในความสับสนที่เกิดขึ้นกับความแตกต่างใหญ่ซอฟต์แวร์สาธารณสมบัติคือความคล้ายคลึงกับซอฟแวร์ฟรีแวร์และโอเพนซอร์ส ทั้งสองประเภทของซอฟต์แวร์ที่มีศักยภาพที่จะไม่มีข้อ จำกัด ในการใช้งานของโปรแกรม เหมือนโดเมนสาธารณะ แต่ลิขสิทธิ์ยังคงอยู่ในโปรแกรมฟรีและเปิดแหล่งที่มาฟรีแวร์ฟรีแวร์ ซอฟต์แวร์ คือ ซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้ได้กับไม่มีค่าใช้จ่ายหรือมีตัวเลือก " บริจาค " ค่าธรรมเนียม ซอฟต์แวร์ที่สามารถใช้งานได้เต็มที่ สำหรับไม่ จํากัด เวลา หรือ มีข้อ จำกัด บางอย่างในการทำงานที่สามารถเปลี่ยนใบอนุญาต Shareware หรือซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ . ฟรีแวร์มาคู่กับหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งข้อ จำกัด ตามปกติ ผู้เขียนหรือผู้สร้างของโปรแกรมจะ จำกัด ความสามารถในการคัดลอกและแจกจ่ายซอฟต์แวร์ หรือวิศวกรรมย้อนกลับและแก้ไขรหัสของซอฟต์แวร์ ในใบอนุญาตซอฟต์แวร์อาจ จำกัด การใช้ เช่น เอกชน ภาครัฐ ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ที่ไม่แสวงหากำไร หรือ ไม่ใช่ทหารใช้ อีกวิธีที่สามารถถูก จำกัด เป็นฟรีแวร์ไม่อนุญาตให้ใช้มากกว่าเซิร์ฟเวอร์เครือข่ายหรือ disallowing ใช้ร่วมกับโปรแกรมอื่น มูลนิธิซอฟต์แวร์ฟรีมักจะมีปัญหากับคำว่า " ฟรีแวร์ " . ซอฟต์แวร์ฟรี " ที่แท้จริงคือซอฟต์แวร์ที่ควรจะเป็น โดยไม่มีข้อ จำกัด ในการดัดแปลงหรือใช้ซึ่งคุณสามารถมีศักยภาพที่จะไม่ ตัวอย่างแรกของซอฟต์แวร์ที่ได้รับการเริ่มต้นถือว่าจัดเป็นฟรีแวร์ที่ถูกสร้างขึ้นโดย Andrew Fluegelman พีซีและมันก็โทรมาคุยกัน มันมีรหัสแหล่งที่มาใช้ได้ต่อสาธารณชนและได้เริ่มแจก โดยไม่มีต้นทุน ต่อมา ก็กลายเป็นที่รู้จักในฐานะ " Shareware " เป็นค่าใช้จ่ายก็เพิ่มในภายหลังเพื่อใช้มันเปิดแหล่งที่มาซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สเป็นซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมกับอนุญาตให้ใครใช้ คัดลอก แจกจ่าย ด้วยการปรับเปลี่ยน หรือผลิต เปิดแหล่งซอฟต์แวร์เป็นบริการฟรีสำหรับผู้ใช้ ที่สำคัญความแตกต่างเกี่ยวกับชนิดของซอฟต์แวร์นี้ก็คือว่ามันต้องมีรหัสที่มาสำหรับมุมมอง เปิดแหล่งซอฟต์แวร์ที่คล้ายกันมากกับซอฟต์แวร์ฟรี แต่มันมีความแตกต่าง เปิดแหล่งซอฟต์แวร์ที่มีการควบคุมที่มีอยู่น้อยในใบอนุญาตกว่าซอฟต์แวร์ฟรี วิดีโอด้านล่างนี้เป็นคำอธิบายของซอฟต์แวร์เปิดแหล่งที่มาเช่นกัน ซอฟต์แวร์เปิดแหล่งที่มามีจำนวนมากของเกณฑ์ที่ต้องกรอกก่อนจะแจกจ่ายฟรี เปิดแหล่งที่มาจะไม่ จำกัด ใบอนุญาตส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมด การกระจายของซอฟต์แวร์ โดยชื่อของมัน ผลิตภัณฑ์ต้องมีแหล่งที่มาของรหัสที่มีอยู่ ในขณะที่แหล่งที่มารหัสไม่ต้องแจกจ่ายให้กับผลิตภัณฑ์ ต้องมีพื้นที่สาธารณะที่มีมุมมองและคัดลอกรหัสแหล่งที่มา ใบอนุญาตเปิดแหล่งที่มายังต้องปรับปรุงฟรีของผลิตภัณฑ์เดิมและอนุญาตให้มีการกระจายของการปรับเปลี่ยน เปิดแหล่งที่มาของใบอนุญาตไม่สามารถเลือกปฏิบัติกับผู้ที่สามารถปรับเปลี่ยนโปรแกรม รวมถึงประเทศอื่น รัฐบาล และศาสนาและเชื้อชาติหนึ่ง ใบอนุญาตไม่จำกัดวิธีที่โปรแกรมหรือแก้ไขโปรแกรมที่ใช้ โปรแกรมเปิดแหล่งที่มามีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในหลายแง่มุม และไม่ป้องกันไม่ให้มันได้รับประโยชน์ในทุกทางที่ทำได้ เป็นแหล่งเปิดโปรแกรมไม่สามารถจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม หรือจะใช้ร่วมกับโปรแกรมอื่น สุดท้าย โปรแกรมจะไม่อนุญาตให้มีการ จำกัด การบางประเภทของสื่อ หรือ เทคโนโลยี [ 6 ]