The objective of this study was to

The objective of this study was to address knowledge gaps identified in an earlier risk assessment of Staphylococcus aureus and raw milk cheese. A survey of fresh and short-time ripened cheeses produced on farm-dairies in Sweden was conducted to investigate the occurrence and levels of S. aureus, Listeria monocytogenes and Escherichia coli, to characterize S. aureus isolates with special emphasis on enterotoxin genes, antibiotic resistance, bio-typing and genetic variation, and to collect information related to production practices. In general, the hygienic quality of farm-dairy cheeses appeared to be of an acceptable microbiological quality, e.g. L. monocytogenes and staphylococcal enterotoxin were not detected in cheese samples. However, E. coli and enterotoxigenic S. aureus were frequently found in raw milk cheeses and sometimes at levels that are of concern, especially in fresh cheese. Interestingly, levels in raw milk fresh cheese were significantly lower when starter cultures were used. Up to fiveS. aureus colonies per cheese, if possible, were characterized and about 70% of isolates carried one or more enterotoxin genes, most common were sec and sea. The Ovine biotype (73%) was most common among isolates from goat milk cheese and the Human biotype (60%) from cow milk cheese. Of all isolates, 39% showed decreased susceptibility to penicillin, but the proportion of isolates from cows' cheese (66%) compared to isolates from goats' cheese (27%) was significantly higher. S. aureus isolates with different properties were detected in cheese from the same farm and, sometimes even the same cheese. Isolates with the same pulsed-field gel electrophoresis (PFGE)-pattern were detected on geographically distant dairies. This indicates that multiple sources and routes of contamination are important. To improve the safety of these products efforts to raise awareness of the importance of hygiene barriers and raw milk quality as well as improved process control can be suggested, e.g. use of starter cultures and monitoring of fermentation with a pH-meter. For future safety assessments, a better understanding of factors determining toxin production in these cheeses is needed.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือเพื่อ แก้ไขช่องว่างความรู้ที่ระบุไว้ในการประเมินความเสี่ยงก่อนหน้านี้ของหมอเทศข้างลาย Staphylococcus และน้ำนมดิบเนยแข็ง การสำรวจของสด และ เวลาสั้น ๆ สุกเนยแข็งที่ผลิตจากฟาร์มนมในสวีเดนดำเนินการตรวจสอบเกิดขึ้นและระดับของ S. หมอเทศข้างลาย สมอง Listeria และ Escherichia coli, S. แยกหมอเทศข้างลายพิเศษเน้น enterotoxin ยีน ความต้านทานยาปฏิชีวนะ ความผันแปรทางพันธุกรรม และชีวภาพพิมพ์ลักษณะ และ การรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม ในทั่วไป คุณภาพถูกสุขอนามัยของฟาร์มโคนมชีปรากฏเป็นยอมรับคุณภาพทางจุลชีววิทยา เช่น สมอง L. และ staphylococcal enterotoxin ไม่พบในตัวอย่างชี อย่างไรก็ตาม หมอเทศข้างลาย S. E. coli และ enterotoxigenic มักพบ ในน้ำนมดิบเนยแข็ง และบางครั้ง ในระดับที่มีความกังวล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีสสด น่าสนใจ ระดับในชีสสดน้ำนมดิบได้ต่ำเมื่อใช้วัฒนธรรมที่เริ่มต้น ถึง fiveS หมอเทศข้างลายอาณานิคมต่อชี ถ้าเป็นไปได้ มีลักษณะ 70% แยกดำเนินการมากกว่า หนึ่งยีน enterotoxin ถูกบ่อยวินาทีและทะเล Biotype แกะ (73%) ถูกพบมากที่สุดในหมู่แยกจากชีสนมแพะและ biotype มนุษย์ (60%) จากวัวนมชีส ของทั้งหมดที่แยก 39% แสดงให้เห็นความอ่อนแอลดลงเพนนิซิลลิน แต่สัดส่วนแยกจากชีของวัว (66%) เมื่อเทียบกับแยกจากแพะชี (27%) ก็สูง S. แยกหมอเทศข้างลาย มีคุณสมบัติแตกต่างกันพบในชีสจากฟาร์มเดียวกัน และ บางครั้งแม้แต่ชีเดียวกัน แยกกับแฟลชฟิลด์เดียวเจอิ (PFGE) -ตรวจพบรูปบนเห็นภูมิศาสตร์ บ่งชี้ว่า หลายแหล่งและเส้นทางการปนเปื้อนสำคัญ เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของความพยายามเหล่านี้ผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของสุขอนามัย อุปสรรคและคุณภาพน้ำนมดิบสามารถแนะนำ การควบคุมกระบวนการปรับปรุงเป็นอย่างดีเช่นใช้ของวัฒนธรรมที่เริ่มต้นและการตรวจสอบของการหมักด้วยเครื่องวัดค่า pH สำหรับการประเมินความปลอดภัยในอนาคต การเข้าใจปัจจัยกำหนดผลิตสารพิษในชีเหล่านี้จำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้เพื่อที่อยู่ช่องว่างความรู้ที่ระบุไว้ในการประเมินความเสี่ยงก่อนหน้า Staphylococcus aureus และชีสนมดิบ จากการสำรวจของเนยแข็งสดและสั้นเวลาสุกผลิตในฟาร์มนมในสวีเดนได้ดำเนินการในการตรวจสอบการเกิดขึ้นและระดับของเชื้อ S. aureus, Listeria monocytogenes และ Escherichia coli, ลักษณะแยกเชื้อ S. aureus โดยเน้นเป็นพิเศษเกี่ยวกับยีน enterotoxin ยาปฏิชีวนะ ต้านทานชีวภาพในการพิมพ์และการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมและการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติที่ผลิต โดยทั่วไปที่มีคุณภาพถูกสุขอนามัยของชีสฟาร์มโคนมที่ดูเหมือนจะเป็นของที่มีคุณภาพทางจุลชีววิทยาที่ยอมรับเช่น monocytogenes ลิตรและ enterotoxin เชื้อไม่ได้ถูกตรวจพบในตัวอย่างชีส อย่างไรก็ตามเชื้อ E. coli และ enterotoxigenic เชื้อ S. aureus ถูกพบบ่อยในเนยแข็งน้ำนมดิบและบางครั้งก็อยู่ในระดับที่มีความกังวลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในชีสสด ที่น่าสนใจในระดับชีสสดน้ำนมดิบที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเชื้อจุลินทรีย์เริ่มต้นถูกนำมาใช้ ได้ถึงห้า อาณานิคม aureus ต่อชีสถ้าเป็นไปได้มีลักษณะและประมาณ 70% ของเชื้อดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือมากกว่ายีน enterotoxin ที่พบบ่อยที่สุดคือสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. และท้องทะเล โอไวท์ไบโอไทป์ (73%) เป็นเรื่องธรรมดามากที่สุดในหมู่ไอโซเลทจากชีสนมแพะและไบโอไทป์ของมนุษย์ (60%) จากชีสนมวัว ของเชื้อทั้งหมด 39% แสดงให้เห็นว่าลดลงไวต่อยาปฏิชีวนะ แต่สัดส่วนของไอโซเลทจาก 'ชีส (66%) เมื่อเทียบกับไอโซเลทจากแพะวัวชีส (27%) สูงอย่างมีนัยสำคัญ เชื้อ S. aureus แยกที่มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันถูกตรวจพบในชีสจากฟาร์มเดียวกันและบางครั้งแม้ชีสเดียวกัน แยกแบบเดียวกับที่ชีพจรสนาม gel electrophoresis (PFGE) -pattern ถูกตรวจพบในนมที่ห่างไกลทางภูมิศาสตร์ นี้บ่งชี้ว่าหลายแหล่งที่มาและเส้นทางของการปนเปื้อนที่มีความสำคัญ เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของความพยายามของผลิตภัณฑ์เหล่านี้เพื่อสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาและอุปสรรคที่สุขอนามัยและคุณภาพน้ำนมดิบรวมทั้งการควบคุมกระบวนการผลิตที่ดีขึ้นสามารถแนะนำเช่นการใช้เชื้อจุลินทรีย์เริ่มต้นและการตรวจสอบของการหมักมีค่า pH เมตร สำหรับการประเมินความปลอดภัยในอนาคตมีความเข้าใจที่ดีขึ้นของปัจจัยการผลิตสารพิษในเนยแข็งเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้เพื่อที่อยู่ช่องว่างความรู้ที่ระบุในก่อนหน้านี้การประเมินความเสี่ยงของเชื้อ Staphylococcus aureus และชีสนมดิบ การสำรวจสดและสุกเนยแข็งที่ผลิตในโรงนมฟาร์มระยะสั้นในสวีเดน ศึกษาการเกิด และระดับของ S . aureus , วงแหวนแวนอัลเลนและ Escherichia coli ในลักษณะของเชื้อ S . aureus เน้นปนยีนต้านทานยาปฏิชีวนะ , ประวัติ , พิมพ์และการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรม และเก็บรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการผลิต ทั่วไป สุขลักษณะของชีสฟาร์มโคนมที่ปรากฏจะเป็นคุณภาพทางจุลชีววิทยาที่ยอมรับได้ เช่น . monocytogenes staphylococcal ปนและไม่ได้ถูกตรวจพบในตัวอย่างชีส อย่างไรก็ตาม เชื้ออีโคไล E และ S . aureus ถูกพบในเนยแข็งนมดิบ และบางครั้งในระดับว่ามีความกังวล โดยเฉพาะชีสสด ที่น่าสนใจในระดับดิบนมสดชีสถูกลดลงเมื่อเริ่มต้นวัฒนธรรมมาใช้ ได้ถึงห้า ) โคโลนีต่อ ชีส ถ้าเป็นไปได้ มีลักษณะ และประมาณ 70% ของการหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งสายพันธุ์ปนยีน เป็นส่วนใหญ่ คือ ก.ล.ต. และทะเล การ ovine ไบโอไทป์ ( 73% ) พบมากที่สุดในหมู่ที่แยกได้จากน้ำนมแพะและไบโอไทป์ของมนุษย์ ( 60% ) จากน้ำนมวัว ของทุกสายพันธุ์ 39 เปอร์เซ็นต์ แสดงความไวลดลง เพนนิซิลิน แต่สัดส่วนของเชื้อจากวัวชีส ( 66 เปอร์เซ็นต์ ) เทียบกับไอโซเลตจากชีสแพะ ( 27% ) สูงกว่า . S . aureus สายพันธุ์ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันและตรวจพบในเนยแข็งจากฟาร์มเดียวกัน และบางครั้งแม้เหมือนชีส สายพันธุ์เดียวกันกับการเจลอิเล็กสนาม ( PFGE ) - รูปแบบถูกตรวจพบในทางภูมิศาสตร์ที่ห่างไกลโรงนม . นี้แสดงให้เห็นว่าหลายแหล่งและเส้นทางของการเป็นสำคัญ เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในความพยายามที่จะเพิ่มความตระหนักในความสำคัญของปัญหาด้านสุขอนามัยและคุณภาพน้ำนมดิบ ตลอดจนควบคุมกระบวนการปรับปรุง สามารถแนะนำ เช่น การใช้วัฒนธรรมและการเริ่มต้นของการหมักด้วยเครื่องวัด . สำหรับการประเมินความปลอดภัยในอนาคต ความเข้าใจที่ดีขึ้นของปัจจัยการผลิตสารพิษในเนยแข็งเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น