Background/Purpose Diagnosis with b

Background/Purpose Diagnosis with breast cancer recurrence
often brings high levels of stress. Successful coping
to alleviate stress could improve patients’ quality of life
(QoL). The intervening role coping plays between stress
and QoL may depend on the types of stress encountered
and the types of coping strategies used. The present study
investigates the longitudinal relationships between stress,
coping, and mental health QoL.
Methods Breast cancer patients recently diagnosed with
recurrence (N=65) were assessed shortly after the diagnosis
and 4 months later. Four moderation and four mediation
models were tested using hierarchical multiple regressions
and path analyses. In the models, either traumatic stress or
symptom-related stress at recurrence diagnosis was a
predictor of mental health QoL at follow-up. Both
engagement and disengagement coping strategies were
tested as moderators or mediators between stress and QoL.
Results Engagement coping moderated the effect of symptom
stress on mental health QoL, whereas disengagement
coping mediated the effects of both traumatic stress and
symptom stress on mental health QoL.
Conclusion The findings imply that interventions teaching
engagement coping strategies would be important for
patients experiencing high symptom stress, while discouraging
the use of disengagement coping strategies would be
important for all patients.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลังจุดประสงค์/วินิจฉัย ด้วยการเกิดซ้ำของมะเร็งเต้านมมักจะนำความเครียดในระดับสูง รับมือประสบความสำเร็จเพื่อบรรเทาความเครียดสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย(QoL) เล่นรับมือบทบาทแทรกแซงระหว่างความเครียดและ QoL อาจขึ้นกับชนิดของความเครียดที่พบและประเภทของใช้กลยุทธ์รับมือ การศึกษาปัจจุบันตรวจสอบความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างความเครียดรับมือ และจิตใจสุขภาพ QoLผู้ป่วยมะเร็งเต้านมวิธีวินิจฉัยเมื่อเร็ว ๆ นี้กับการเกิดซ้ำ (N = 65) ถูกประเมินหลังจากการวินิจฉัยและ 4 เดือนต่อมา ควบคุมสี่และสี่ mediationทดสอบแบบจำลองโดยใช้หลายลำดับชั้นแสดงและการวิเคราะห์เส้นทาง ในรูปแบบ ความเครียดบาดแผลอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือแก้ไขความเครียดที่เกี่ยวข้องกับอาการที่วินิจฉัยโรคประจำตัวทำนายของ QoL สุขภาพจิตที่ติดตาม ทั้งสองการมีส่วนร่วมและยุทธศาสตร์การรับมือ disengagementทดสอบเป็นผู้ควบคุมหรือผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างความเครียดและ QoLมีควบคุมผลการมีส่วนร่วมรับมือผลกระทบของอาการความเครียดสุขภาพจิต QoL ขณะ disengagementรับมือสื่อผลกระทบของความเครียดทั้งบาดแผล และความเครียดอาการสุขภาพจิต QoLสรุปผลการวิจัยนัยว่าแทรกแซงการเรียนการสอนบรรเทาปัญหาการมีส่วนร่วมจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยที่เครียดอาการสูง ในขณะที่ท้อใจจะเป็นการใช้กลยุทธ์รับมือ disengagementสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง / วินิจฉัยวัตถุประสงค์กับการเป็นซ้ำมะเร็งเต้านม
มักจะนำระดับสูงของความเครียด ที่ประสบความสำเร็จในการรับมือ
เพื่อบรรเทาความเครียดสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย
(คุณภาพชีวิต) บทบาทแทรกแซงการรับมือเล่นระหว่างความเครียด
และคุณภาพชีวิตอาจขึ้นอยู่กับชนิดของความเครียดพบ
และประเภทของกลวิธีการเผชิญปัญหาที่ใช้ การศึกษาครั้งนี้
สำรวจความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างความเครียด
การเผชิญปัญหาและคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพจิต.
ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมเมื่อเร็ว ๆ นี้วิธีการวินิจฉัยว่ามี
การเกิดซ้ำ (N = 65) ได้รับการประเมินไม่นานหลังจากที่การวินิจฉัย
และ 4 เดือนต่อมา สี่การดูแลและสี่ไกล่เกลี่ย
รูปแบบการทดสอบโดยใช้การถดถอยหลายลำดับชั้น
และวิเคราะห์เส้นทาง ในรูปแบบทั้งบาดแผลความเครียดหรือ
ความเครียดอาการที่เกี่ยวข้องกับการวินิจฉัยโรคที่เกิดขึ้นอีกเป็น
ปัจจัยบ่งชี้คุณภาพชีวิตด้านสุขภาพจิตที่ติดตาม ทั้งสอง
มีส่วนร่วมและความหลุดพ้นกลวิธีการเผชิญปัญหาถูก
ทดสอบเป็นผู้ดูแลหรือผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างความเครียดและคุณภาพชีวิต.
ผลการมีส่วนร่วมในการรับมือการตรวจสอบผลกระทบของอาการ
ความเครียดในคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพจิตในขณะที่หลุดพ้น
เผชิญพึ่งผลกระทบของทั้งสองบาดแผลความเครียดและ
ความเครียดอาการเกี่ยวกับคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพจิต.
สรุป ผลการวิจัยบ่งบอกว่าการแทรกแซงการเรียนการสอน
กลยุทธ์การรับมือการสู้รบจะเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ
ผู้ป่วยที่ประสบความเครียดอาการสูงในขณะที่ท้อใจ
ใช้หลุดพ้นกลวิธีการเผชิญปัญหาจะเป็น
สิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยทุกราย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลังที่มีการวินิจฉัยมะเร็งเต้านม / วัตถุประสงค์มักจะนำระดับสูงของความเครียด การประสบความสำเร็จบรรเทาความเครียดสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย( คุณภาพชีวิต ) การเล่นบทบาทแทรกแซงระหว่างความเครียดคุณภาพชีวิตและอาจขึ้นอยู่กับชนิดของความเครียดที่พบและประเภทของกลวิธีที่ใช้ การศึกษาปัจจุบันศึกษาความสัมพันธ์ระยะยาวระหว่างความเครียดการเผชิญความเครียด , คุณภาพชีวิตและสุขภาพจิตวิธีผู้ป่วยมะเร็งเต้านมวินิจฉัยเมื่อเร็วๆ นี้ซ้ำ ( n = 65 ) มีการประเมินหลังจากการวินิจฉัย4 เดือนต่อมา สี่สายกลางและสี่การไกล่เกลี่ยรุ่นที่ใช้ในการทดสอบการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณและการวิเคราะห์เส้นทาง ในรูปแบบ ความเครียดให้เขาหรืออาการที่เกี่ยวข้องกับความเครียดในการวินิจฉัยคือทำนายสุขภาพจิตผู้ป่วยที่ติดตาม ทั้งและกลวิธีการเผชิญปัญหาและมุ่งหมั้นทดสอบเป็นผู้ควบคุมหรือผู้ไกล่เกลี่ยระหว่างความเครียดและคุณภาพชีวิต .ผลการตรวจสอบผลของอาการหมั้นความเครียดกับคุณภาพชีวิต สุขภาพจิต และความเป็นอิสระโดยผลของการเผชิญความเครียดและทั้งบาดแผลอาการเครียดในผู้ป่วยสุขภาพจิตสรุป สรุปได้ว่าแทรกแซงการสอนงานหมั้นกลวิธีการเผชิญปัญหาจะมากผู้ป่วยที่มีอาการเครียดอาการท้อใจสูง ในขณะที่การใช้กลวิธีการเผชิญปัญหาจะเป็นอิสระที่สำคัญสำหรับผู้ป่วยทั้งหมด