On May 31, 2001, Xerox Corporation

On May 31, 2001, Xerox Corporation announced that its auditors, KPMG LLP, had certified Xerox's financial statements for the three years ended December 31, 2000. And the financials included some restatements.[40] On March 31, 2002, Xerox restated its financials which reflected the reallocation of equipment sales revenue of more than $2 billion.[41] On April 11, 2002, the U.S. Securities and Exchange Commission filed a complaint against Xerox.[42] The complaint alleged Xerox deceived the public between 1997 and 2000 by employing several "accounting maneuvers," the most significant of which was a change in which Xerox recorded revenue from copy machine leases – recognizing a "sale" when a lease contract was signed, instead of recognizing revenue over the entire length of the contract. At issue was when the revenue was recognized, not the validity of the revenue. Xerox's restatement only changed what year the revenue was recognized. On December 20, 2002, Xerox Corporation reported that it had discovered an error in the calculation of its non-cash interest expense related to a debt instrument and associated interest rate swap agreements, resulted in after-tax understatement of interest expense of approximately $5 million to $6 million or less than 1 cent per share in each of the four quarters of 2001 and for the first three quarters of 2002.[43]

In response to the SEC's complaint, Xerox Corporation neither admitted nor denied wrongdoing. It agreed to pay a $10 million penalty and to restate its financial results for the years 1997 through 2000. On June 5, 2003, six Xerox senior executives accused of securities fraud settled their issues with the SEC and neither admitted nor denied wrongdoing. They agreed to pay $22 million in penalties, disgorgement, and interest. The company received approval to settle the securities lawsuit in 2008.[44]

On January 29, 2003, the SEC filed a complaint against Xerox's auditors,[45] KPMG, alleging four partners in the "Big Five" accounting firm permitted Xerox to "cook the books" to fill a $3 billion "gap" in revenue and $1.4 billion "gap" in pre-tax earnings. In April 2005 KPMG settled with the SEC by paying a US$22.48 million fine.[46] Meanwhile, Xerox paid a civil penalty of $10 million.[47] As part of the settlement KPMG neither admits nor denies wrongdoings. During settlement with the Securities and Exchange Commission, Xerox began to revamp itself once more. As a symbol of this transformation, the relative size of the word "Xerox" was increased in proportion to "The Document Company" on the corporate signature and the latter was dropped altogether in September-2004, along with the digital X. However, the digital X and "The Document Company" were still used by Fuji Xerox until April-2008.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บน 31 พฤษภาคม 2001, Xerox Corporation ประกาศว่า เป็นผู้สอบบัญชี LLP เคพีเอ็มจี ได้รับรองงบการเงินของ Xerox สามปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2000 และเงินมีอยู่ restatements บาง [40] ในเดือน 31 มีนาคม 2002, Xerox ปรับปรุงใหม่เป็นเงินซึ่งสะท้อนการปันส่วนของอุปกรณ์รายได้จากการขายของมากกว่า 2 พันล้านเหรียญ [41] บน 11 เมษายน 2002 สหรัฐฯ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ยื่นร้องเรียนกับ Xerox [42] ร้องเรียนกล่าวหา Xerox หลอกลวงประชาชนระหว่างปี 1997 และ 2000 โดยใช้หลาย "บัญชีทัพ สำคัญที่สุดที่มีการเปลี่ยนแปลงที่ Xerox บันทึกรายได้จากการเช่าเครื่องสำเนา – จดจำการ"ขาย"เมื่อสัญญาเช่าเซ็น แทนรับรองรายได้ช่วงทั้งหมดของสัญญา ในปัญหาคือเมื่อมีการรับรู้รายได้ การไม่ถูกต้องของรายได้ ทำงบใหม่ของ Xerox เปลี่ยนปีใดมีการรับรู้รายได้เท่านั้น บน 20 ธันวาคม 2002 บริษัท Xerox รายงานว่า ได้ค้นพบข้อผิดพลาดในการคำนวณค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเงินสดไม่ใช่ของที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้มีข้อตกลงแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้อง ให้โดดแห่ง after-tax ของดอกเบี้ยจ่ายประมาณ $5 ล้านไป 6 ล้านดอลลาร์หรือน้อยกว่า 1 เปอร์เซ็นต์ ต่อหุ้นในไตรมาสสี่ ของปี 2001 และ ในไตร มาสสามแรกของ 2002 [43]In response to the SEC's complaint, Xerox Corporation neither admitted nor denied wrongdoing. It agreed to pay a $10 million penalty and to restate its financial results for the years 1997 through 2000. On June 5, 2003, six Xerox senior executives accused of securities fraud settled their issues with the SEC and neither admitted nor denied wrongdoing. They agreed to pay $22 million in penalties, disgorgement, and interest. The company received approval to settle the securities lawsuit in 2008.[44]On January 29, 2003, the SEC filed a complaint against Xerox's auditors,[45] KPMG, alleging four partners in the "Big Five" accounting firm permitted Xerox to "cook the books" to fill a $3 billion "gap" in revenue and $1.4 billion "gap" in pre-tax earnings. In April 2005 KPMG settled with the SEC by paying a US$22.48 million fine.[46] Meanwhile, Xerox paid a civil penalty of $10 million.[47] As part of the settlement KPMG neither admits nor denies wrongdoings. During settlement with the Securities and Exchange Commission, Xerox began to revamp itself once more. As a symbol of this transformation, the relative size of the word "Xerox" was increased in proportion to "The Document Company" on the corporate signature and the latter was dropped altogether in September-2004, along with the digital X. However, the digital X and "The Document Company" were still used by Fuji Xerox until April-2008.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2001, Xerox Corporation ประกาศว่าผู้สอบบัญชีของ บริษัท เคพีเอ็ LLP ซึ่งได้รับการรับรองงบการเงินของซีร็อกซ์สำหรับสามปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2000 และการเงินรวม restatements บาง. [40] ที่ 31 มีนาคมปี 2002 ซีร็อกซ์ปรับปรุงใหม่ของ การเงินซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการจัดสรรอุปกรณ์การขายรายได้มากกว่า 2 $ พันล้าน. [41] ที่ 11 เมษายน 2002 หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนกับซีร็อกซ์ได้. [42] ร้องเรียนกล่าวหาซีร็อกซ์หลอกประชาชนระหว่างปี 1997 และ 2000 โดยใช้หลาย "ประลองยุทธ์บัญชี" ที่สำคัญที่สุดซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ซีร็อกซ์ที่บันทึกรายได้จากการให้เช่าเครื่องถ่ายเอกสาร - ตระหนักถึงความเป็น "ขาย" เมื่อสัญญาเช่าลงนามแทนการรับรู้รายได้มากกว่าความยาวทั้งหมดของสัญญา ที่มีปัญหาคือเมื่อรายได้ที่ได้รับการยอมรับไม่ได้ความถูกต้องของรายได้ ปรับย้อนหลังซีร็อกซ์เพียงเปลี่ยนสิ่งที่ปีรายได้ได้รับการยอมรับ ที่ 20 ธันวาคม 2002 บริษัท Xerox Corporation รายงานว่าได้ค้นพบข้อผิดพลาดในการคำนวณค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ไม่ใช่เงินสดของตนที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้องสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยผลในการพูดหลังหักภาษีดอกเบี้ยจ่ายประมาณ $ 5,000,000 ไป $ 6,000,000 หรือน้อยกว่าร้อยละ 1 บาทต่อหุ้นในแต่ละแห่งที่สี่ในสี่ของปี 2001 และสำหรับสามไตรมาสแรกของปี 2002 [43] ในการตอบสนองต่อข้อร้องเรียนที่คณะกรรมการ ก.ล.ต. ของ บริษัท Xerox Corporation เข้ารับการรักษามิได้ปฏิเสธการกระทำผิด มันตกลงที่จะจ่าย $ 10,000,000 โทษและเพื่อย้ำผลการดำเนินงานสำหรับปี 1997 ผ่าน 2000 เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2003 หกผู้บริหารระดับสูงของซีร็อกซ์ที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงหลักทรัพย์ตัดสินปัญหาของพวกเขากับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และไม่ยอมรับหรือปฏิเสธการกระทำผิดกฎหมาย พวกเขาตกลงที่จะจ่าย $ 22,000,000 ในการลงโทษ disgorgement และความสนใจ บริษัท ได้รับการอนุมัติในการชำระคดีหลักทรัพย์ในปี 2008 [44] ที่ 29 มกราคม 2003 คณะกรรมการ ก.ล.ต. ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจสอบของซีร็อกซ์ที่ [45] เอพีอ้างสี่คู่ค้าใน "ห้า" บริษัท บัญชีรับอนุญาตซีร็อกซ์ " ปรุงอาหารหนังสือ "เพื่อเติม $ 3000000000" ช่องว่าง "ในรายได้และ $ 1400000000" ช่องว่าง "กำไรก่อนหักภาษี ในปี 2005 บริษัท เคพีเอ็เดือนเมษายนตกลงกับสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต. โดยจ่ายสหรัฐ $ 22,480,000 ดี. [46] ในขณะที่ซีร็อกซ์จ่ายโทษทางแพ่งของ $ 10,000,000. [47] เป็นส่วนหนึ่งของการตั้งถิ่นฐาน บริษัท เคพีเอ็ไม่ยอมรับหรือปฏิเสธการกระทำผิด ในระหว่างการตกลงกับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ซีร็อกซ์เริ่มที่จะปรับปรุงตัวเองอีกครั้ง ในฐานะที่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลงนี้มีขนาดที่สัมพันธ์กันของคำว่า "ซีร็อกซ์" ได้รับการเพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่ "บริษัท ฯ เอกสาร" ในลายเซ็นขององค์กรและหลังถูกทิ้งไปโดยสิ้นเชิงในเดือนกันยายนปี 2004 พร้อมกับเอ็กซ์ดิจิตอลอย่างไรก็ตาม ดิจิตอล X และ "บริษัท ฯ เอกสาร" ยังคงถูกนำมาใช้โดยฟูจิซีร็อกจนถึงเดือนเมษายนปี 2008

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

วันที่ 31 พฤษภาคม 2544 , Xerox Corporation ประกาศว่า บริษัท KPMG LLP มีผู้สอบบัญชีรับรอง ซีร็อกซ์ของงบการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2543 และการเงินรวมถึง restatements [ 40 ] บน 31 มีนาคม 2002 , ซีร็อกซ์หลังของการเงิน ที่สะท้อนถึงการจัดสรรของอุปกรณ์ในการขายรายได้มากกว่า $ 2 พันล้าน [ 41 ] ในวันที่ 11 เมษายน , 2002 , สหรัฐอเมริกา .คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อซีร็อกซ์ [ 42 ] ร้องเรียนกล่าวหาซีร็อกซ์หลอกประชาชนระหว่างปี 1997 และ 2000 โดยการประลองยุทธ์ " , " บัญชีหลายที่สำคัญที่สุดซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ซีร็อกซ์บันทึกรายได้จากการเช่าเครื่องถ่ายเอกสาร และตระหนักถึง " ขาย " เมื่อสัญญาเช่าแล้วแทนการรับรู้รายได้มากกว่าความยาวทั้งหมดของสัญญา ปัญหา คือ เมื่อรายได้ที่ได้รับการยอมรับ ไม่ใช่ความถูกต้องของรายได้ ซีร็อกซ์เป็นคำสอนเฉพาะเปลี่ยนปีอะไรเพิ่มขึ้นได้ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2002ซีร็อกซ์คอร์ปอเรชั่นรายงานว่าได้พบข้อผิดพลาดในการคำนวณของมันไม่เงินสด ดอกเบี้ยจ่ายที่เกี่ยวข้องกับตราสารหนี้ และสัญญาแลกเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยที่เกี่ยวข้อง ( หลังจากหักภาษีแล้วการพูดของดอกเบี้ยจ่ายประมาณ $ 5 ล้าน 6 ล้านเหรียญ หรือน้อยกว่าร้อยละ 1 ต่อหุ้นในแต่ละช่วงไตรมาสสี่ของปี 2001 และ สามไตรมาสแรกของปี 2002 [ 43 ]

ในการตอบสนองต่อ ก.ล.ต. ร้องเรียน , Xerox Corporation และยอมรับ หรือปฏิเสธการกระทำผิดเกิดขึ้น ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับ 10 ล้านเหรียญ และย้ำผลลัพธ์ทางการเงินสำหรับปี 1997 ถึง 2000 5 มิถุนายน , 2003 , หก Xerox ผู้บริหารระดับสูงถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงหลักทรัพย์จัดการปัญหาของพวกเขากับ ก.ล.ต. และไม่ยอมรับ หรือปฏิเสธการกระทำผิดเกิดขึ้น พวกเขาตกลงที่จะจ่าย $ 22 ล้าน ในโทษการสำรอก และความสนใจ บริษัทได้รับการอนุมัติให้ระงับคดีหลักทรัพย์ในปี 2008 [ 44 ]

ที่ 29 มกราคม , 2003 ก.ล.ต. ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อซีร็อกซ์ของผู้สอบบัญชี , [ 45 ] KPMG , กล่าวหาสี่พันธมิตรใน " ห้า " บริษัทบัญชีอนุญาตซีร็อกซ์ " ปรุงหนังสือ " เติมเต็ม " $ 3 พันล้าน ช่องว่าง " ในรายได้และ $ 1.4 พันล้าน " ช่องว่าง " ในกำไรก่อนภาษี .