This study was designed in order to

This study was designed in order to verify whether the traditional use of SIO for skin care would have any impact on Staphylococcus aureus growth and skin adherence, as S. aureus is involved in many skin pathologies (impetigo, folliculitis, furuncles and subcutaneous abscesses) being one if the main pathogens that can be found on the skin. Therefore, our objective was to assess SIO bactericidal activity and interference with adherence to human skin explants and the keratinocyte cell line. Cytotoxicity on that cells was also determined. The activity of SIO was compared to coconut oil (CocO), which is widely used for skin care but has different unsaturated fatty acids contents.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษานี้ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบว่า การใช้ยืนยันตัว้ดั้งเดิมสำหรับการดูแลผิวจะมีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของหมอเทศข้างลาย Staphylococcus และยึดมั่นผิว เป็น S. หมอเทศข้างลายมีส่วนเกี่ยวข้องในหลายโรคผิวหนัง (โรคพุพอง folliculitis, furuncles และฝีที่ใต้ผิวหนัง) เป็นถ้าเชื้อหลักที่สามารถพบได้บนผิวหนัง ดังนั้น วัตถุประสงค์ของเราคือการ ประเมินกิจกรรมจากแบคทีเรียยืนยันตัว้และรบกวนผิวเฌลและสายเซลล์ keratinocyte หล่ ยังมีกำหนดเป็นพิษในเซลล์นั้น การยืนยันตัว้ถูกเปรียบเทียบกับน้ำมันมะพร้าว (CocO), ซึ่งถูกใช้สำหรับดูแลผิว แต่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวต่าง ๆ เนื้อหา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การศึกษาครั้งนี้ได้รับการออกแบบเพื่อที่จะตรวจสอบว่าการใช้งานแบบดั้งเดิมของ SIO สำหรับการดูแลผิวจะมีผลกระทบใด ๆ ต่อการเจริญเติบโต Staphylococcus aureus และยึดมั่นผิวหนังเช่นเชื้อ S. aureus มีส่วนเกี่ยวข้องในโรคผิวหนังจำนวนมาก (พุพอง, รูขุมขน, furuncles และฝีใต้ผิวหนัง) เป็น หนึ่งถ้าเชื้อโรคหลักที่สามารถพบได้บนผิวหนัง ดังนั้นวัตถุประสงค์ของเราคือการประเมิน SIO กิจกรรมฆ่าเชื้อแบคทีเรียและการรบกวนกับการยึดมั่นกับชิ้นผิวหนังของมนุษย์และสายเซลล์ keratinocyte ความเป็นพิษต่อเซลล์ที่ยังถูกกำหนด กิจกรรมของ SIO เมื่อเทียบกับน้ำมันมะพร้าว (COCO) ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการดูแลผิว แต่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวเนื้อหาที่แตกต่างกัน