Coffee has both harmful and benefic

Coffee has both harmful and beneficial effects on consumer health depending on how the coffee is prepared, and this is due to the presence of a variety of biological compounds. Epidemiological studies suggest that consumption of boiled coffee (e.g. the Scandinavian or Turkish style) is associated with an increased risk for cardiovascular disease. This is mainly due to the two diterpenes identified in the unsaponifiable fraction of the lipid phase of coffee grounds, cafestol and kahweol. These compounds promote high cholesterol in humans (Heckers et al., 1994). By contrast, these diterpenes have recently been receiving attention due to their beneficial health effects (Speer and Kölling-Speer, 2006). In fact, cafestol has been proven to have anti-inflammatory properties and together with kahweol could possess anticarcinogenic properties (Cavin et al., 2002).
Instant (or hydrosoluble) coffee is one of the most consumed coffee beverages and has been widely used for decades. The instant coffee production process comprises roasting the beans and extracting the soluble fraction with hot water at high pressure. From the green coffee beans (1 Kg) of Robusta coffee – the relevant type in the world manufacture of soluble coffee - about 0.33 to 0.45 kg of instant coffee (3% moisture) is produced. This process generates large amounts of a dark colored waste (550 to 670 g/Kg coffee beans) known as SCG, which contains 15.2-17.9% of lipids depending on the coffee species (Fan and Soccol,2005). Considering a soluble coffee consumption worldwide of 350,000 tons per year, about
700,000 tons of SCG could be generated per year. For the purpose of finding a suitable way
to dispose of this waste, several studies have evaluated a potential use of spent coffee
grounds. These could be used as a source for biodiesel production (Kondamudi et al., 2008)
and as composting material (Liu and Price, 2011). Ramalakshmi et al. (2009) found
biological activities of SCG such as antioxidant activity and anti-tumor activity. This study
demonstrated that coffee by-products could be a rich source of natural bioactive molecules.
Furthermore, the purpose of this study was to quantify oil and diterpenes (kahweol and
cafestol) contents in SCG by different extraction methods, together with determining the
polyphenolic composition and antioxidant capacities of SCG and defatted SCG.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กาแฟมีผลประโยชน์ และอันตรายต่อสุขภาพผู้บริโภคขึ้นอยู่กับวิธีเตรียมกาแฟ และนี้เนื่องจากสถานะของสารชีวภาพ ความแนะนำว่า การบริโภคกาแฟต้ม (เช่นสไตล์สแกนดิเนเวียหรือตุรกี) เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด นี้ส่วนใหญ่เนื่องจาก diterpenes สองถูกระบุอยู่ในเศษส่วนของเฟสไขมันกาแฟเหตุ cafestol และ kahweol unsaponifiable สารประกอบเหล่านี้ส่งเสริมสูงไขมันในมนุษย์ (Heckers et al., 1994) โดยคมชัด diterpenes เหล่านี้ได้เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับความสนใจเนื่องจากผลประโยชน์ต่อสุขภาพของพวกเขา (Speer และ Kölling-Speer, 2006) ในความเป็นจริง cafestol พิสูจน์แล้วว่ามีคุณสมบัติแก้อักเสบ และกับ kahweol อาจมีคุณสมบัติ anticarcinogenic (Cavin et al., 2002)กาแฟทันที (หรือ hydrosoluble) เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มกาแฟที่ใช้มากที่สุด และมีใช้อย่างแพร่หลายมานานหลายทศวรรษแล้ว กระบวนการผลิตกาแฟสำเร็จรูปประกอบด้วยถั่วคั่ว และแยกเศษส่วนละลายน้ำร้อนที่ความดันสูง จากการสีเขียวเมล็ดกาแฟ (1 กิโลกรัม) ของกาแฟโรบัสต้า – เป็นผลิตชนิดที่เกี่ยวข้องในการผลิตโลกละลายกาแฟ - ประมาณ 0.33-0.45 กิโลกรัมของกาแฟ (ความชื้น 3%) กระบวนการนี้สร้างจำนวนมากของความเข้มสีเสีย (g 550-670 กิโลกรัมเมล็ดกาแฟ) เรียกว่า SCG, 15.2-17.9% ของโครงการตามพันธุ์กาแฟ (พัดลมและ Soccol, 2005) ประกอบด้วย พิจารณาปริมาณกาแฟที่ละลายน้ำได้ทั่วโลกของ 350000 ตันต่อปี เกี่ยวกับสามารถสร้าง SCG 700000 ตันต่อปี เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมการกำจัดของเสียนี้ หลายการศึกษาได้ประเมินการใช้อาจใช้จ่ายกาแฟจาก เหล่านี้สามารถใช้เป็นแหล่งสำหรับการผลิตไบโอดีเซล (Kondamudi et al., 2008)และหมักวัสดุ (หลิวและราคา 2011) Ramalakshmi et al. (2009) พบกิจกรรมชีวภาพของ SCG เช่นกิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระและการต่อต้านเนื้องอก การศึกษานี้แสดงว่า สินค้าพลอยกาแฟอาจเป็นแหล่งอุดมของโมเลกุลธรรมชาติกรรมการกนอกจากนี้ วัตถุประสงค์ของการศึกษานี้คือการ กำหนดปริมาณน้ำมันและ diterpenes (kahweol และเนื้อหา cafestol) ในเอสซีจี โดยวิธีการสกัดต่าง ๆ ร่วมกับการกำหนดpolyphenolic องค์ประกอบและสารต้านอนุมูลอิสระผลิตของ SCG และ SCG สกัดไขมันทางการ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กาแฟมีทั้งผลกระทบที่เป็นอันตรายและเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภคขึ้นอยู่กับว่ากาแฟที่เตรียมไว้และนี่คือเนื่องจากการปรากฏตัวของความหลากหลายทางชีวภาพของสารที่ การศึกษาระบาดวิทยาชี้ให้เห็นว่าการบริโภคกาแฟต้ม (เช่นสไตล์สแกนดิเนเวียนหรือตุรกี) มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นสำหรับโรคหัวใจและหลอดเลือด นี้เป็นส่วนใหญ่เนื่องจากการที่ทั้งสอง diterpenes ที่ระบุไว้ในส่วน unsaponifiable ของเฟสไขมันของกากกาแฟ, cafestol kahweol และ สารเหล่านี้ส่งเสริมคอเลสเตอรอลสูงในมนุษย์ (Heckers et al., 1994) ในทางตรงกันข้าม diterpenes เหล่านี้ได้เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้รับการได้รับความสนใจเนื่องจากผลกระทบด้านสุขภาพที่เป็นประโยชน์ของพวกเขา (ยร์สและ Kolling-ยร์ส, 2006) ในความเป็นจริง cafestol ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีคุณสมบัติต้านการอักเสบและร่วมกับ kahweol อาจมีคุณสมบัติมะเร็ง (Cavin et al., 2002).
ทันที (หรือ hydrosoluble) กาแฟเป็นหนึ่งในการบริโภคมากที่สุดเครื่องดื่มกาแฟและมีการใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับ ทศวรรษที่ผ่านมา กาแฟสำเร็จรูปกระบวนการผลิตประกอบด้วยถั่วคั่วและการสกัดส่วนที่ละลายกับน้ำร้อนที่ความดันสูง จากเมล็ดกาแฟเขียว (1 กิโลกรัม) ของกาแฟโรบัสต้า - ประเภทที่เกี่ยวข้องในการผลิตทั่วโลกของกาแฟที่ละลายน้ำได้ - ประมาณ 0.33-0.45 กิโลกรัมของกาแฟสำเร็จรูป (ความชื้น 3%) ที่ผลิต กระบวนการนี้สร้างจำนวนมากของเสียสีเข้ม (550-670 กรัม / กิโลกรัมเมล็ดกาแฟ) ที่รู้จักกันเป็นเอสซีจีซึ่งมี 15.2-17.9% ของไขมันขึ้นอยู่กับชนิดกาแฟ (พัดลมและ Soccol 2005) พิจารณาการบริโภคกาแฟที่ละลายน้ำได้ทั่วโลก 350,000 ตันต่อปีประมาณ
700,000 ตันของเอสซีจีจะได้รับการสร้างขึ้นต่อปี สำหรับวัตถุประสงค์ของการหาวิธีที่เหมาะสมในการกำจัดของเสียนี้การศึกษาหลายแห่งมีการประเมินผลการใช้งานที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้จ่ายกาแฟบริเวณ เหล่านี้สามารถนำมาใช้เป็นแหล่งที่มาสำหรับการผลิตไบโอดีเซล (Kondamudi et al., 2008) และเป็นวัสดุทำปุ๋ยหมัก (หลิวและราคา 2011) Ramalakshmi et al, (2009) พบว่ากิจกรรมทางชีวภาพของเอสซีจีเช่นฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและป้องกันมะเร็งกิจกรรม การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากาแฟโดยผลิตภัณฑ์ที่อาจจะเป็นแหล่งอุดมไปด้วยโมเลกุลออกฤทธิ์ทางชีวภาพจากธรรมชาติ. นอกจากนี้จุดประสงค์ของการศึกษานี้คือการวัดปริมาณน้ำมันและ diterpenes (kahweol และcafestol) เนื้อหาในเอสซีจีโดยวิธีการสกัดที่แตกต่างกันพร้อมกับการกำหนดองค์ประกอบของโพลีฟี และความสามารถต้านอนุมูลอิสระของเอสซีจีและเอสซีจีสกัด