ฝ่ายกุมารสินสมุทรสุดสวาท
ไม่ห่างบาทบิดาอัชฌาไสย
ความรักพ่อยิ่งกว่าแม่มาแต่ไร
ด้วยมิได้ขู่เข็ญเช่นมารดา
เห็นทรงธรรม์บรรทมสนิทนิ่ง
หนีไปวิ่งเล่นอยู่ในคูหา
โลดลำพองลองเชิงละเลิงมา
เห็นแผ่นผาพิงผนิดปิดหนทาง
หนักหรือเบาเยาว์อยู่ไม่รู้จัก
เข้าลองผลักด้วยกำลังก็พังผาง
เห็นหาดทรายพรายงามเป็นเงินราง
ทะเลกว้างข้างขวาล้วนป่าดง
ไม่เคยเห็นเป็นน่าสนุกสนาน
พระกุมารเพลินจิตต์พิศวง
ออกวิ่งเต้นเล่นทรายสบายองค์
แล้วโดดลงเล่นมหาชลาไลย
ด้วยหน่อนาถชาติเชื้อผีเสื้อสมุทร
ดำไม่ผุดเลยทั้งวันก็กลั้นได้
ยิ่งถูกน้ำกำลังยิ่งเกรียงไกร
เที่ยวเลี้ยวไล่ขี่ปลาในสาชล
ละลอกซัดพลัดเข้าในปากฉลาม
ลอดออกตามซีกเหงือกเสือกสลน
เห็นฝูงเงือกเกลือกกลิ้งมากลางชล
คิดว่าคนมีหางเหมือนอย่างปลา
ครั้นถามไต่ไม่พูดก็โผนจับ
ดูกลอกกลับกลางน้ำปล้ำมัจฉา
ครั้นจับได้ให้ระแวงแคลงวิญญา
เช่นนี้ปลาหรืออะไรจะใคร่รู้
ฉุดกระชากกลากหางขึ้นกลางหาด
แลประหลาดลักษณามีตาหู
จะเอาไปให้พระบิดาดู
แล้วลากลู่เข้าในถ้ำด้วยกำลัง
ถึงหุบห้องร้องบอกบิตุเรศ
พระลืมเนตรเหลียวหาทั้งหน้าหลัง
เห็นลูกลากเงือกน้ำแต่ลำพัง
จากบัลลังก์มาห้ามแล้วถามไป
เมื่อกี้เห็นเล่นอยู่ในคูหา
เงือกนี้เจ้าเอามาแต่ข้างไหน
พระลูกเล่าตามจริงทุกสิ่งไป
พระตกใจจึงว่าด้วยปราณี
แม้นแม่เจ้าเขารู้ว่าแรงนัก
กลัวจะลักลอบพาบิดาหนี
จะโกรธเกรี้ยวเคี้ยวเล่นเป็นธุลี
ไม่พอที่ชีวันจะบรรไลย ฯ