The present research is a ‘snap sho

The present research is a ‘snap shot’ of Facebook users, and
further work should consider the possibility of researching
the development of use over time. In particular, it would be
of interest to see how people’s uses and gratifications of
Facebook develop, and if the frequency of visit is motivated
by ‘perpetual contact’ over time. There is, for instance,
considerable research in the field of habit formation that
could inform the study of social network site use. HCI
research should also consider ways in which the desire to
meet new people, and to allow oneself to be viewed by
strangers, can be accommodated in a privacy-protecting
manner [14]. At present, Facebook has reasonably nuanced
privacy controls. From the results of the present research, it
would seem that users are changing the default privacy
settings in a motivated manner. However, the present study
only collected reported privacy settings. It would be
prudent to complete research that actually examined
settings via automated querying of the site [e.g. 13], or by
studying a corpus of actual interactions [e.g. 11].

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิจัยปัจจุบันคือ 'ไกสแนปอิน' ของผู้ใช้ Facebook และการพิจารณาความเป็นไปได้ของการทำการวิจัยการพัฒนาใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มันจะน่าสนใจเพื่อดูวิธีใช้ประชาชน gratifications ของFacebook พัฒนา และความถี่ของแรงจูงใจโดย 'ถาวรติดต่อ' ช่วงเวลา มี เช่นวิจัยมากในด้านการก่อนิสัยที่สามารถแจ้งการศึกษาการใช้เว็บไซต์เครือข่ายสังคม HCIวิจัยยังควรพิจารณาลักษณะที่ต้องการพบคนใหม่ และให้ตัวเองดูคนแปลกหน้า สามารถอาศัยได้ในความเป็นส่วนตัวปกป้องลักษณะ [14] ปัจจุบัน Facebook ได้สมเหตุสมผลฉับการควบคุมความเป็นส่วนตัว จากผลการวิจัยปัจจุบัน มันดูเหมือน ว่า ผู้ใช้กำลังเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลเริ่มต้นการตั้งค่าในลักษณะแรงจูงใจ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันศึกษารวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลรายงานการตั้งค่าเท่า นั้น มันจะระมัดระวังการทำวิจัยที่ตรวจสอบจริงการตั้งค่าผ่านสอบถามอัตโนมัติ ของเว็บไซต์ [เช่น 13], หรือโดยเรียนคอร์พัสคริจริงโต้ตอบ [เช่น 11]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยในปัจจุบันเป็น 'สแน็ปยิงของผู้ใช้ Facebook และ
ทำงานต่อไปควรพิจารณาความเป็นไปได้ของการวิจัย
การพัฒนาของการใช้งานในช่วงเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะเป็น
ที่น่าสนใจเพื่อดูวิธีการใช้งานของผู้คนและความพึงพอใจของ
Facebook พัฒนาและถ้าความถี่ของการเข้าชมเป็นแรงบันดาลใจ
โดย 'ติดต่อตลอด' เมื่อเวลาผ่านไป มีตัวอย่างเช่น
การวิจัยมากในด้านของการสร้างนิสัยที่
จะแจ้งผลการศึกษาการใช้เว็บไซต์เครือข่ายสังคม HCI
วิจัยควรพิจารณาวิธีการที่ความปรารถนาที่จะ
พบกับผู้คนใหม่และจะอนุญาตให้ตัวเองจะดูได้โดย
คนแปลกหน้าสามารถอาศัยในความเป็นส่วนตัวปกป้อง
ลักษณะ [14] ปัจจุบัน Facebook มีพอสมควรที่เหมาะสมยิ่ง
ควบคุมความเป็นส่วนตัว จากผลการวิจัยในปัจจุบันก็
จะดูเหมือนว่าผู้ใช้มีการเปลี่ยนแปลงความเป็นส่วนตัวเริ่มต้น
การตั้งค่าในลักษณะที่เป็นแรงบันดาลใจ อย่างไรก็ตามการศึกษานี้
เก็บรวบรวมรายงานการตั้งค่าความเป็นส่วนตัว มันจะ
ไม่สมควรที่จะเสร็จสิ้นการวิจัยที่ตรวจสอบจริง
การตั้งค่าผ่านทางอัตโนมัติสอบถามของเว็บไซต์ [เช่น 13] หรือโดยการ
ศึกษาการสะสมของการมีปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นจริง [เช่น 11]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยปัจจุบันคือ ' ยิงตะครุบ ' ของผู้ใช้ Facebook และ
งานควรพิจารณาความเป็นไปได้ของการค้นคว้า
การพัฒนาใช้ตลอดเวลา โดยเฉพาะ มันจะน่าสนใจเพื่อดูว่าใช้

Facebook และความพึงพอใจของประชาชน พัฒนา และถ้าความถี่ของการเข้าชมเป็นแรงบันดาลใจ
' ติดต่อ ' อยู่ตลอดเวลา มีตัวอย่างเช่น
วิจัยมากในฟิลด์ของนิสัยการก่อตัวที่
สามารถแจ้งการใช้เว็บไซต์เครือข่ายทางสังคม โดย
วิจัยควรพิจารณาวิธีการที่ความต้องการ
พบคนใหม่และอนุญาตให้ตัวเองเพื่อจะดูได้โดย
คนแปลกหน้าสามารถอาศัยในลักษณะปกป้องความเป็นส่วนตัว
[ 14 ] ปัจจุบัน Facebook ได้พอสมควรโดย
การควบคุมความเป็นส่วนตัว . จากผลของการวิจัยปัจจุบันมันอาจดูว่าผู้ใช้มีการเปลี่ยนแปลง

เริ่มต้นการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในมีลักษณะ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการศึกษา
เพียงเก็บรายงานการตั้งค่าส่วนตัว มันคงจะ
สุขุมสมบูรณ์วิจัยที่จริงตรวจสอบการตั้งค่าผ่านทางอัตโนมัติ
สอบถาม เช่น เว็บไซต์ [ 13 ] หรือโดย
ศึกษาคลังข้อมูลจริงเช่นปฏิสัมพันธ์ [ 11 ]