PRESIDENTIAL PRIMARIESAn important

PRESIDENTIAL PRIMARIES
An important feature of the American political system is that the two major parties - the Democrats and the Republicans - hold a system of primaries to determine who will be their candidate in the general election. These primaries are particularly important when it comes to the four-yearly Presidential election.
The key point to understand is that formally the Democratic and Republican Parties choose their Presidential candidate through a vote of delegates at a national convention and not directly through the various ballots in the various primaries.
Each party allocates delegates to each state, roughly proportionate to its size in numbers of citizens. There are two types of delegates. The normal delegates are those who are chosen by voters to back a specific candidate. Technically these delegates are pledged to that candidate but there are circumstances in which they can switch their support. Then there are what the Democrats call super delegates and the Republicans call unpledged delegates who are notable figures in the party such as former presidents, state governors and members of the two houses of Congress who are free to back whichever candidate they wish. They can do this any time they like. They can also change their mind before the convention.
How the normal delegates are chosen is a matter for each party in each of the 50 states.
Some hold caucuses which require voters to turn up to discussions on the merits of the contending candidates. Most hold conventional-style elections. In the case of the Democrats in Texas, there is both a caucus and an election. Another variation is that, in some cases, one can only take part in a caucus or election if one is registered for that political party but, in other cases, anyone in the state - including those registered for another party or none - can vote.
How normal delegates are then allocated to the different candidates is also a matter for each party in each of the 50 states. In most of the Republican contests (but not all), the candidate who wins the most votes in that state's primary wins all the party's delegates for that state - a system known as 'winner takes all'. In all the Democrat contests, delegates are allocated roughly proportional to the vote secured by the candidate subject to a minimum performance. The allocation process varies, but typically it is based on the performance of the candidate in particular Congressional districts.
In practice, the parties have clearly decided on a candidate well before the holding of the convention which becomes more a coronation than a selection.
However, it is not unknown for a party to reach the convention with no clear choice. A deadlocked convention happens when no candidate arrives with a majority of votes. A second ballot takes place and delegates are then free to vote for whomever they want. This could include the other candidates or even people who are not candidates. Delegates keep on voting until someone wins a majority. The most famous deadlocked convention - it involved the Democrats - took place in 1924. It required 103 ballots to choose the Democratic candidate - who then lost to the Republican candidate in the general election.
For the 2008 convention, the Democrats had a total of 4,049 delegates including super delegates and so, to win the nomination, the Democratic front runner needed a total of 2,025 delegates. For the 2012 convention, the Republicans had a total of 2,226 delegates including unpledged delegates and so, to win the nomination, the Republican front runner needed a total of 1,114 delegates.
In 2016, the Republicans will have their convention in Cleveland, Ohio from 18-21 July, while the Democrats will hold their convention in Philadelphia, Pennsylvannia from 25-28 July.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประธานาธิบดี PRIMARIESคุณลักษณะสำคัญของระบบการเมืองแบบอเมริกันเป็นที่สองพรรคการเมืองใหญ่ -ประชาธิปัตย์และ Republicans นี้ - ค้างระบบ primaries เพื่อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้ที่สมัครในการเลือกตั้งทั่วไป Primaries เหล่านี้มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันมาถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดี 4 ปีจุดสำคัญเพื่อให้เข้าใจได้ว่า อย่างเป็นกิจจะลักษณะประชาธิปไตยและฝ่ายพลเลือกผู้สมัครประธานาธิบดีของพวกเขา ผ่านการลงคะแนนเสียงของผู้รับมอบสิทธิ์ที่ประชุมแห่งชาติ และโดยตรงไม่ ผ่านคะแนนต่าง ๆ ใน primaries ต่าง ๆแต่ละฝ่ายจัดสรรมอบให้แต่ละรัฐ หยาบ ๆ ตามขนาดตัวเลขของประชาชน มีสองประเภทของผู้รับมอบสิทธิ์ คนปกติคือผู้ที่ถูกเลือก โดยผู้ลงคะแนนกลับผู้สมัครเฉพาะ เทคนิคเหล่านี้ผู้รับมอบสิทธิ์จะบริจาคให้ผู้สมัครนั้น ได้มีสถานการณ์ที่พวกเขาสามารถสลับให้ แล้วมีอะไรประชาธิปัตย์เรียกผู้รับมอบสิทธิ์ซูเปอร์ และ Republicans นี้โทร unpledged ผู้ที่มีเลขโดดในพรรคเช่นอดีตประธานาธิบดี ผู้ว่าราชการรัฐ และสมาชิกของบ้านหลังที่สองของสภาที่สามารถสำรองผู้ใดพวกเขาต้องการ พวกเขาสามารถทำนี้ตลอดเวลาเหมือน นอกจากนี้พวกเขายังสามารถเปลี่ยนใจก่อนการประชุมวิธีเลือกผู้แทนปกติเป็นเรื่องสำหรับแต่ละบุคคลในแต่ละรัฐ 50บางค้าง caucuses ซึ่งจำเป็นต้องมีผู้ลงคะแนนต้องเปิดการสนทนาในบุญของผู้สมัคร contending ส่วนใหญ่ระงับการเลือกตั้งทั่วไปแบบ ในกรณีของประชาธิปัตย์ในเท็กซัส มีการคอคัสและการเลือกตั้ง การเปลี่ยนแปลงอีกคือ ว่า ในบางกรณี หนึ่งสามารถนำบางส่วนในคอคัส หรือเลือกตั้ง หากมีการลงทะเบียนสำหรับการที่พรรคการเมือง ในบางกรณี ทุกคนในรัฐ - รวมทั้งลงทะเบียนอีกฝ่ายหรือไม่ - สามารถลงคะแนนวิธีมอบปกติแล้วปันส่วนให้กับ ผู้สมัครอื่นเป็นยังเรื่องสำหรับแต่ละบุคคลในแต่ละรัฐ 50 ส่วนใหญ่แข่งขันพล (แต่ไม่ทั้งหมด), ผู้ที่ชนะการโหวตใน wins หลักของรัฐที่มอบทั้งหมดของบุคคลที่รัฐ - ระบบที่เรียกว่า 'ผู้ชนะใช้เวลาทั้งหมด' ในทั้งหมดประชาธิปัตย์ประกวด ผู้รับมอบสิทธิ์จะจัดสรรสัดส่วนประมาณการการรักษาความปลอดภัย โดยผู้สมัครที่มีประสิทธิภาพต่ำสุด กระบวนการปันส่วนที่แตกต่างกันไป แต่โดยทั่วไปโดยมีประสิทธิภาพการทำงานของผู้สมัครในเขตตั้งเฉพาะในทางปฏิบัติ ฝ่ายได้ตัดสินใจในผู้สมัครเป็นอย่างดีก่อนการจัดประชุมซึ่งกลายเป็นเพิ่มเติมฉัตรมงคลกว่าเลือกอย่างชัดเจนอย่างไรก็ตาม ไม่รู้จักพรรคถึงประชุมกับทางเลือกที่ชัดเจนไม่ ประชุม deadlocked เกิดขึ้นเมื่อผู้สมัครไม่รับกับเสียงส่วนใหญ่ ลงคะแนนที่สองเกิดขึ้น และผู้ทำการลงคะแนน whomever ที่พวกเขาต้องการ นี้อาจรวมถึงผู้สมัครหรือแม้แต่คนที่ไม่มีผู้สมัครอื่น ๆ มอบให้ในลงคะแนนจนกว่าผู้ชนะส่วนใหญ่ ประชุม deadlocked ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด -มันเกี่ยวข้องกับประชาธิปัตย์ - เอาสถานที่ใน 1924 ต้องการ 103 คะแนนเลือกกรรมการประชาธิปไตย - ที่แล้ว แพ้ผู้สมัครพลในการเลือกตั้งทั่วไปคอนเวนชั่น 2008 ประชาธิปัตย์มีจำนวน 4,049 คนรวมทั้งผู้รับมอบสิทธิ์ซูเปอร์ และดังนั้น ชนะกรรมการสรรหา นักวิ่งหน้าประชาธิปไตยจำเป็นทั้งหมดคิดเป็น 2025 คน สำหรับ 2012 อนุสัญญา Republicans นี้มีจำนวน 2,226 คนรวม unpledged คน และอื่น ๆ ชนะกรรมการสรรหา นักวิ่งหน้าพลจำเป็นจำนวน 1,114 คนพ.ศ. 2559, Republicans ได้ประชุมของพวกเขาในคลีฟแลนด์ โอไฮโอจาก 18-21 กรกฎาคม ในขณะที่ประชาธิปัตย์จะระงับแผนการของพวกเขาในฟิลาเดลเฟีย Pennsylvannia จาก 25-28 กรกฎาคม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประธานาธิบดีพรรคคุณลักษณะที่สำคัญของระบบการเมืองอเมริกันว่าทั้งสองฝ่ายที่สำคัญ - เดโมแครและรีพับลิกัน - ถือระบบการทำงานของพรรคเพื่อตรวจสอบผู้ที่จะเป็นผู้สมัครในการเลือกตั้งทั่วไป
พรรคเหล่านี้มีความสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันมาถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสี่เป็นประจำทุกปี.
จุดสำคัญที่จะเข้าใจได้ว่าอย่างเป็นทางการประชาธิปไตยและภาคีรีพับลิกันเลือกสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพวกเขาผ่านการลงคะแนนจากผู้เข้าร่วมประชุมในการประชุมระดับชาติและไม่โดยตรงผ่านบัตรลงคะแนนที่ต่าง ๆ ใน พรรคต่างๆ.
แต่ละฝ่ายจัดสรรได้รับมอบหมายให้แต่ละรัฐประมาณสัดส่วนกับขนาดของมันในจำนวนของประชาชน มีสองประเภทของผู้ได้รับมอบหมายเป็น ผู้ได้รับมอบหมายตามปกติเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะกลับเป็นผู้สมัครที่เฉพาะเจาะจง เทคนิคเหล่านี้จะได้รับมอบหมายให้คำมั่นที่จะสมัครรับเลือกตั้งว่า แต่มีสถานการณ์ที่พวกเขาสามารถสลับการสนับสนุนของพวกเขา จากนั้นก็มีสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์เรียกผู้ได้รับมอบหมายสุดและรีพับลิกันเรียกรับมอบหมาย unpledged ที่มีเลขเด่นในพรรคเช่นอดีตประธานาธิบดี, การรัฐและสมาชิกของทั้งสองบ้านของรัฐสภาที่มีอิสระในการสำรองใดก็ตามที่ผู้สมัครที่พวกเขาต้องการ พวกเขาสามารถทำเช่นนี้เวลาที่พวกเขาต้องการใด ๆ พวกเขายังสามารถเปลี่ยนความคิดของพวกเขาก่อนการประชุม.
วิธีที่ได้รับมอบหมายตามปกติได้รับการแต่งตั้งเป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายในแต่ละ 50 รัฐ.
บาง caucuses ถือที่ต้องใช้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จะเปิดขึ้นในการอภิปรายเกี่ยวกับประโยชน์ของผู้สมัครที่ยืนยัน ส่วนใหญ่มีการเลือกตั้งทั่วไปในรูปแบบ ในกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ในเท็กซัมีทั้งพรรคการเมืองและการเลือกตั้ง รูปแบบก็คือว่าในบางกรณีหนึ่งเท่านั้นที่สามารถมีส่วนร่วมในการเลือกตั้งพรรคการเมืองหรือหากมีการลงทะเบียนสำหรับการที่พรรคการเมือง แต่ในกรณีอื่น ๆ ทุกคนในรัฐ - รวมทั้งผู้ที่ลงทะเบียนสำหรับบุคคลอื่นหรือไม่มี - สามารถลงคะแนน
วิธีที่ได้รับมอบหมายตามปกติได้รับการจัดสรรจากนั้นไปที่ผู้สมัครที่แตกต่างกันนอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของแต่ละฝ่ายในแต่ละ 50 รัฐ ในส่วนของการแข่งขันรีพับลิกัน (แต่ไม่ใช่ทั้งหมด) ซึ่งเป็นผู้สมัครที่ชนะการโหวตมากที่สุดในหลักของรัฐที่ชนะได้รับมอบหมายทุกพรรคที่รัฐ - ระบบที่เรียกว่า 'ผู้ชนะจะใช้เวลาทั้งหมด' ในทุกการแข่งขันที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับมอบหมายได้รับการจัดสรรตามสัดส่วนประมาณออกเสียงลงคะแนนค้ำประกันโดยเรื่องที่ผู้สมัครเพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ต่ำสุด กระบวนการจัดสรรจะแตกต่างกัน แต่โดยทั่วไปแล้วมันขึ้นอยู่กับผลการดำเนินงานของผู้สมัครโดยเฉพาะในอำเภอรัฐสภา. the
ในทางปฏิบัติทั้งสองฝ่ายได้ตัดสินใจอย่างชัดเจนในผู้สมัครก่อนที่จะมีการถือครองของการประชุมที่จะมากขึ้นราชาภิเษกกว่าการเลือก.
อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้เป็นที่รู้จักสำหรับบุคคลที่จะไปให้ถึงการประชุมที่ไม่มีทางเลือกที่ชัดเจน ประชุมถกเถียงที่เกิดขึ้นเมื่อไม่มีผู้สมัครที่มาพร้อมกับเสียงข้างมาก การลงคะแนนเสียงที่สองจะเกิดขึ้นและผู้แทนก็มีอิสระที่จะลงคะแนนให้ใครก็ตามที่พวกเขาต้องการ ซึ่งอาจรวมถึงผู้สมัครคนอื่น ๆ หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่ได้เป็นผู้สมัคร ผู้ได้รับมอบหมายให้ลงคะแนนจนกว่าจะมีคนชนะเสียงข้างมาก การประชุมที่มีชื่อเสียงที่สุดถกเถียง - มันเกี่ยวข้องกับพรรคประชาธิปัตย์ - ที่เกิดขึ้นในปี 1924 มันต้อง 103 คะแนนในการเลือกผู้สมัครประชาธิปัตย์ -.
จากนั้นก็หายไปผู้สมัครรีพับลิกันในการเลือกตั้งทั่วไปสำหรับปี2008 การประชุมพรรคประชาธิปัตย์ได้รวมของ 4049 ผู้ได้รับมอบหมายรวมทั้งผู้ได้รับมอบหมายสุดและเพื่อที่จะชนะการเสนอชื่อที่วิ่งหน้าประชาธิปไตยที่จำเป็นรวมของ 2025 ได้รับมอบหมาย สำหรับปี 2012 การประชุมรีพับลิกันมีทั้งหมด 2226 ผู้ได้รับมอบหมายรวมทั้งผู้ได้รับมอบหมาย unpledged และเพื่อที่จะชนะการเสนอชื่อที่วิ่งหน้ารีพับลิกันที่จำเป็นทั้งหมด 1114 ผู้ได้รับมอบหมาย.
ในปี 2016 รีพับลิกันจะมีการประชุมของพวกเขาในคลีฟแลนด์โอไฮโอตั้งแต่วันที่ 18 -21 กรกฏาคมในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์จะถือการประชุมของพวกเขาในฟิลาเดล Pennsylvannia 25-28 กรกฎาคม