Spoken language is one of the most

Spoken language is one of the most basic ways of human communication. We speak with each other in order to convey information about various things and to cooperate. In different cultures there are rules and norms that make people understand each other, and these rules apply not only to the way language is used; there are also rules and norms that regulate how conversation should be conducted. One set of rules for what constitutes a successful conversation among interlocutors is referred to as conversational maxims. These maxims were introduced by the philosopher of language Paul H. Grice (Maienborn 2011:18). These maxims are rules which are normally followed in a conversation in order for people to understand each other on a direct and basic level. However, maxims can be violated, which means that they are not adhered to. A violation of the maxims happens for instance when someone is liable to mislead someone, as in Paltridge’s example when a mother tells her children “Mummy's gone on a little holiday because she needs a rest” (Paltridge 2006:65). What she is really saying is that she is going away to consider whether or not she is going to divorce their father. In the example, the mother is deliberately misleading her children by lying, which violates the maxim of quality. Maxims can also be flouted. The difference between when a maxim is violated and when it is flouted is that when someone is flouting a maxim, they are not deliberately trying to deceive or mislead their interlocutors, but they are deliberately not observing the maxims, in order for the interlocutors to understand another set of meaning (Paltridge 2006:65). The flouting of a maxim can also be used for comic effect. In the following example, where a flouting of the maxims is used to create comedy, a husband complains about his wife's constant nagging and the wife replies to his comment.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ภาษาพูดเป็นวิธีพื้นฐานของการสื่อสารที่มนุษย์ เราคุยกัน เพื่อสื่อข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ และ ให้ความร่วมมือ ในวัฒนธรรมที่แตกต่าง มีกฎบรรทัดฐานที่ทำให้คนเข้าใจกัน และใช้กฎเหล่านี้ไม่เพียงแต่การใช้ภาษา ยังมีกฎและบรรทัดฐานที่กำหนดว่าควรจะดำเนินการสนทนา หนึ่งชุดสำหรับสิ่งที่ก่อการสนทนาที่ประสบความสำเร็จใน interlocutors เรียกว่าคำคมการสนทนา คำคมเหล่านี้ถูกนำมาใช้ โดยนักปราชญ์ของภาษา Paul H. Grice (Maienborn 2011:18) คำคมเหล่านี้เป็นกฎที่ถูกตามโดยปกติในการสนทนาเพื่อให้คนเข้าใจกันในระดับพื้นฐาน และโดยตรง อย่างไรก็ตาม คำคมสามารถจะละเมิด ซึ่งหมายความว่าพวกเขาไม่ปฏิบัติตาม คำคมการละเมิดเกิดขึ้นเช่นเมื่อบุคคลต้องเข้าใจคน ตัวอย่างของ Paltridge เมื่อแม่บอกลูก "มัมมี่ของไปในวันหยุดน้อย เพราะเธอต้องการพักผ่อน" (Paltridge 2006:65) อะไรเธอจริง ๆ พูดได้ว่า เธอกำลังจะไปพิจารณาว่า เธอจะไปหย่าพ่อ ตัวอย่าง แม่คือตั้งใจหลอกลวงลูก โดยโกหก ซึ่งละเมิดแม็กคุณภาพ คำคมสามารถยังสามารถ flouted ความแตกต่างระหว่างเมื่อมีละเมิดการแม็กและเมื่อมันเป็น flouted คือเมื่อคนมี flouting เป็นแม็ก พวกเขาไม่ตั้งใจพยายามหลอกลวง หรือเข้าใจ interlocutors ของพวกเขา แต่โดยเจตนาไม่สังเกตคำคม การ interlocutors เข้าใจชุดอื่น (Paltridge 2006:65) หมายถึง ยังสามารถใช้ flouting กับแม็กการ์ตูนลักษณะพิเศษ ในตัวอย่างต่อไปนี้ ที่เป็น flouting คำคมที่ใช้ในการสร้างหนังตลก สามีบ่นเกี่ยวกับภรรยาของคงจู้จี้ และภรรยาตอบข้อคิดเห็นของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ภาษาที่พูดเป็นหนึ่งในวิธีพื้นฐานที่สุดของการสื่อสารของมนุษย์ เราพูดคุยกับแต่ละอื่น ๆ เพื่อที่จะนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่างๆและจะให้ความร่วมมือ ในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมีกฎระเบียบและบรรทัดฐานที่ทำให้คนเข้าใจซึ่งกันและกันและใช้กฎเหล่านี้ไม่เพียง แต่จะภาษาวิธีการที่จะใช้; นอกจากนี้ยังมีกฎระเบียบและบรรทัดฐานที่ควบคุมวิธีการสนทนาควรจะดำเนินการ หนึ่งชุดของกฎสำหรับสิ่งที่ถือว่าประสบความสำเร็จในการสนทนาในหมู่เป็นต้นจะเรียกว่าเป็นคำคมสนทนา คำคมเหล่านี้ถูกนำมาใช้โดยนักปรัชญาของภาษาพอลเอชกริช (Maienborn 2011: 18) คำคมเหล่านี้เป็นกฎที่มีการปฏิบัติตามปกติในการสนทนาในการสั่งซื้อสำหรับคนที่จะเข้าใจซึ่งกันและกันในระดับพื้นฐานโดยตรงและ แต่คำคมสามารถละเมิดซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะไม่ปฏิบัติตาม ละเมิดคำคมเกิดขึ้นเช่นเมื่อมีคนต้องระวางคนเข้าใจผิดเช่นในตัวอย่าง Paltridge เมื่อแม่บอกลูก ๆ ของเธอ "แม่หายไปในวันหยุดเล็ก ๆ น้อย ๆ เพราะเธอต้องการส่วนที่เหลือ" (Paltridge 2006: 65) สิ่งที่เธอเป็นจริงที่พูดคือว่าเธอกำลังจะออกไปที่จะต้องพิจารณาหรือไม่ว่าเธอจะไปหย่ากับพ่อของพวกเขา ในตัวอย่างแม่จะจงใจทำให้เข้าใจผิดลูก ๆ ของเธอโดยการนอนซึ่งฝ่าฝืนคำสอนที่มีคุณภาพ Maxims ยังสามารถละเมิด ความแตกต่างระหว่างความจริงเมื่อมีการละเมิดและเมื่อมีการละเมิดก็คือว่าเมื่อมีคนเยาะเย้ยความจริงพวกเขาจะไม่จงใจพยายามที่จะหลอกลวงหรือทำให้เข้าใจผิดเป็นต้น แต่พวกเขาไม่ได้มีเจตนาสังเกตคำคมเพื่อให้เป็นต้นที่จะเข้าใจ ชุดของความหมายอื่น ๆ (Paltridge 2006: 65) หยามของจริงนอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เพื่อให้เกิดผลการ์ตูน ในตัวอย่างต่อไปที่หยามของคำคมใช้ในการสร้างตลกสามีบ่นเกี่ยวกับภรรยาของเขาคงจู้จี้และภรรยาตอบกลับความคิดเห็นของเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พูดภาษา เป็นหนึ่งในวิธีที่พื้นฐานที่สุดของการสื่อสารของมนุษย์ เราพูดกับแต่ละอื่น ๆเพื่อถ่ายทอดข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ และให้ความร่วมมือ ในวัฒนธรรมที่แตกต่างกันมีกฎและบรรทัดฐานที่ทำให้คนเข้าใจกัน และกฎนี้ใช้ไม่เพียง แต่ทางภาษา ที่ใช้ นอกจากนี้ยังมีกฎระเบียบและบรรทัดฐานที่ควบคุมการสนทนาจะถูกดำเนินการหนึ่งชุดของกฎสำหรับสิ่งที่ถือเป็นความสำเร็จการสนทนาในหมู่ผู้ฟังจะเรียกว่าปากแม็กซิม . แม็กซิม เหล่านี้ถูกแนะนำ โดยปรัชญาของภาษา Paul H . กริช ( maienborn 2011:18 ) แม็กซิม เหล่านี้เป็นกฎที่เป็นปกติที่ใช้ในการสนทนาเพื่อให้ทุกคนเข้าใจกันในระดับตรงและพื้นฐาน อย่างไรก็ตาม แม็กซิม ได้สิทธิซึ่งหมายความว่าพวกเขาจะไม่ปฏิบัติตาม การละเมิดของแม็กซิม เกิดขึ้น เช่น เมื่อมีคนชอบให้ใคร อย่างตัวอย่าง paltridge เมื่อแม่บอกลูก " เธอแม่จากไปในวันหยุดน้อย เพราะว่าเธอต้องการพักผ่อน " ( paltridge 2006:65 ) สิ่งที่เธอจริงๆจะบอกว่าเธอจะไปพิจารณาหรือไม่ว่าเธอกำลังจะหย่ากับพ่อของพวกเขาในตัวอย่าง , แม่จงใจทำให้เข้าใจผิดเธอเด็กโกหก ซึ่งฝ่าฝืนภาษิตของที่มีคุณภาพ แม็กซิม ยังสามารถ flouted . ความแตกต่างระหว่างเมื่อ แม็กซิม ถูกละเมิด และเมื่อมัน flouted คือเมื่อมีคนหยามเป็น แม็กซิม พวกเขาไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงหรือทำให้เข้าใจผิดผู้ฟังของพวกเขา แต่พวกเขาจะจงใจไม่สังเกตแม็กซิม ,เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจความหมายอีกชุด ( paltridge 2006:65 ) การหยามของ Maxim ยังสามารถใช้สำหรับการ์ตูนผล ในตัวอย่างต่อไปนี้ที่หยามของแม็กซิม ถูกใช้เพื่อสร้างความตลกขบขัน สามีบ่นจู้จี้คงที่ของภรรยาของเขาและภรรยาตอบกลับความคิดเห็นของเขา .