How is rubber made?Charles Goodyear

How is rubber made?

Charles Goodyear

It takes several quite distinct steps to make a product out of natural rubber. First, you have to gather your latex from the rubber trees using a traditional process called rubber tapping. That involves making a wide, V-shaped cut in the tree's bark. As the latex drips out, it's collected in a cup. The latex from many trees is then filtered, washed, and reacted with acid to make the particles of rubber coagulate (stick together). The rubber made this way is pressed into slabs or sheets and then dried, ready for the next stages of production.

By itself, unprocessed rubber is not all that useful. It tends to be brittle when cold and smelly and sticky when it warms up. Further processes are used to turn it into a much more versatile material. The first one is known as mastication (a word we typically use to describe how animals chew food). Masticating machines "chew up" raw rubber using mechanical rollers and presses to make it softer, easier to work, and more sticky. After the rubber has been masticated, extra chemical ingredients are mixed in to improve its properties (for example, to make it more hardwearing). Next, the rubber is squashed into shape by rollers (a process called calendering) or squeezed through specially shaped holes to make hollow tubes (a process known as extrusion). Finally, the rubber is vulcanized (cooked): sulfur is added and the rubber is heated to about 140°C (280°F).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ยางทำอย่างไรชาร์ลส์กู๊ดเยียร์จะใช้เวลาหลายขั้นตอนที่แตกต่างค่อนข้างจะทำให้ผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ ครั้งแรก คุณต้องรวบรวมของน้ำยางจากต้นยางโดยใช้กระบวนการแบบดั้งเดิมที่เรียกว่ากรีดยาง ที่เกี่ยวข้องกับการตัดกว้าง รูป ตัว V ในเปลือกไม้ เป็นหยดน้ำยางออก มันจะถูกรวบรวมในถ้วย น้ำยางจากต้นไม้จากนั้นกรอง ล้าง และปฏิกิริยากับกรดจะทำให้อนุภาคยางจับตัวเป็น (ติดกัน) ยางที่ทำวิธีนี้คือกดลงไปในแผ่นคอนกรีตหรือแผ่น และอบ แห้ง พร้อมสำหรับขั้นต่อไปของการผลิตด้วยตัวเอง ยังไม่ได้ยางไม่มีประโยชน์ทั้งหมดที่ มันมีแนวโน้มจะเปราะเมื่อเย็น และเหม็น และเหนียวเมื่อมันอุ่นขึ้น การต่อไปจะใช้ในการแปรสภาพวัสดุมากหลากหลาย อันแรกเรียกว่า mastication (คำเรามักจะใช้เพื่ออธิบายวิธีเคี้ยวอาหารสัตว์) Masticating เครื่อง "เคี้ยวขึ้น" ยางดิบใช้กลไกลูกกลิ้งและกดให้นุ่ม การทำงานง่าย และเหนียวมากขึ้น หลังจากได้รับ masticated ยาง สารเคมีพิเศษผสมกันในการปรับปรุงคุณสมบัติของ (ตัวอย่างเช่น จะทำให้มันทนทานมากขึ้น) ถัดไป ยางถูกทับเป็นรูปร่าง โดยลูกกลิ้ง (การเรียกว่า calendering) หรือบีบผ่านรูปทรงลักษณะพิเศษรูกลวงท่อ (กระบวนการที่เรียกว่าอัดขึ้นรูป) ในที่สุด วัลคาไนยาง (สุก): เพิ่มกำมะถัน และยางจะร้อนถึงประมาณ 140° C (280° F)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วิธีการคือยางทำ?

ชาร์ลส์กู๊ดเยียร์

มันต้องใช้เวลาหลายขั้นตอนที่แตกต่างกันมากทีเดียวที่จะทำให้ผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ ครั้งแรกที่คุณต้องรวบรวมน้ำยางของคุณจากต้นยางพาราโดยใช้กระบวนการแบบดั้งเดิมที่เรียกว่าการกรีดยาง ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้กว้างรูปตัววีตัดเปลือกของต้นไม้ ในฐานะที่เป็นน้ำยางหยดออกก็เก็บไว้ในถ้วย น้ำยางจากต้นไม้จำนวนมากจะถูกกรองแล้วล้างและทำปฏิกิริยากับกรดจะทำให้อนุภาคของแข็งตัวยาง (ติดกัน) ยางที่ทำด้วยวิธีนี้จะอัดเป็นแผ่นหรือแผ่นแล้วแห้งพร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไปของการผลิต.

ด้วยตัวเองยางที่ยังไม่ได้ไม่ได้ทั้งหมดที่มีประโยชน์ที่ มันมีแนวโน้มที่จะเปราะเมื่อเย็นและมีกลิ่นเหม็นและเหนียวเมื่อมันอุ่นขึ้น กระบวนการต่อไปจะนำมาใช้เพื่อทำให้มันกลายเป็นวัสดุที่หลากหลายมากขึ้นมาก คนแรกที่เป็นที่รู้จักกันเคี้ยว (คำที่เรามักจะใช้เพื่ออธิบายวิธีการเลี้ยงสัตว์เคี้ยวอาหาร) เครื่อง masticating "เคี้ยว" ยางแผ่นดิบโดยใช้ลูกกลิ้งกลและกดที่จะทำให้มันนุ่มง่ายต่อการทำงานและเหนียวมากขึ้น หลังจากยางที่ได้รับการ masticated, สารเคมีพิเศษผสมเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของ (ตัวอย่างเช่นที่จะทำให้มันทนทานการใช้งานมากขึ้น) ถัดไปยางจะแบนเป็นรูปร่างโดยลูกกลิ้ง (กระบวนการที่เรียกว่า calendering) หรือบีบผ่านหลุมที่มีรูปร่างเป็นพิเศษเพื่อให้ท่อกลวง (กระบวนการที่เรียกว่าการอัดขึ้นรูป) สุดท้ายคือยางวัลคาไน (สุก): ซัลเฟอร์จะมีการเพิ่มและยางที่มีความร้อนถึงประมาณ 140 ° C (280 ° F)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทำไมยาง ?ชาร์ลส์ กูดเยียร์มันใช้เวลาหลายค่อนข้างแตกต่างขั้นตอนเพื่อให้ผลิตภัณฑ์จากยางธรรมชาติ แรกที่คุณต้องรวบรวมน้ำยางจากต้นยางที่ใช้กระบวนการแบบดั้งเดิมเรียกว่า กรีดยาง . ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้กว้าง , ยางตัดเปลือกของต้นไม้ เป็นยางหยดออกมา มันเก็บในถ้วย น้ำยางจากต้นไม้ แล้วกรอง ล้าง และทำปฏิกิริยากับกรด จะทำให้อนุภาคของยางแข็งตัว ( ติดกัน ) ยางทำวิธีนี้ถูกกดเป็นแผ่นคอนกรีต หรือแผ่นและอบแห้งแล้ว พร้อมสำหรับขั้นตอนต่อไปของการผลิตโดยตัวมันเองยังไม่ได้ยางไม่ทั้งหมดที่เป็นประโยชน์ มันมีแนวโน้มที่จะเปราะเมื่อเย็นและส่งกลิ่นเหม็น และเหนียว เมื่อมันอุ่นขึ้น ขั้นตอนต่อไปจะใช้ให้กลายเป็นวัสดุมากอเนกประสงค์มากขึ้น อันแรกเรียกว่าเคี้ยว ( คำที่เรามักจะใช้เพื่ออธิบายว่าสัตว์เคี้ยวอาหาร ) masticating เครื่องจักร " เคี้ยว " ยางดิบโดยใช้ลูกกลิ้งเครื่องจักรกล และกดให้มันเบาลง ง่ายต่อการทำงาน และเหนียวมากกว่า หลังยางได้รับเข้มขึ้นกว่านี้อีก ส่วนผสมพิเศษที่ผสมอยู่ในสารเคมีเพื่อปรับปรุงคุณสมบัติของ ( ตัวอย่างเช่นเพื่อให้มัน hardwearing มากกว่า ) หน้ายางมันแบนเป็นรูปร่างโดยลูกกลิ้ง ( กระบวนการที่เรียกว่า Calendering ) หรือบีบรูปร่างเป็นพิเศษเพื่อให้ผ่านรูท่อกลวง ( กระบวนการที่เรียกว่ารีด ) สุดท้าย ยางวัลคาไนซ์ ( สุก ) : กำมะถันเพิ่มและ ยางมันร้อนประมาณ 140 ° C ( 0 ° F )