Motivation theory which suggests fi

Motivation theory which suggests five interdependent levels of basic human needs (motivators) that must be satisfied in a strict sequence starting with the lowest level. Physiological needs for survival (to stay alive and reproduce) and security (to feel safe) are the most fundamental and most pressing needs. They are followed by social needs (for love and belonging) and self-esteem needs (to feel worthy, respected, and have status). The final and highest level needs are self-actualization needs (self-fulfillment and achievement). Its underlying theme is that human beings are 'wanting' beings: as they satisfy one need the next emerges on its own and demands satisfaction ... and so on until the need for self-actualization that, by its very nature, cannot be fully satisfied and thus does not generate more needs. This theory states that once a need is satisfied, it stops being a motivator of human beings. In personnel management, it is used in design of incentive schemes. In marketing, it is used in design of promotional campaigns based on the perceived needs of a market segment a product satisfies. Named after its originator, the US psychologist Abraham Harold Maslow (1908-70) who proposed it in 1954.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีแรงจูงใจที่แนะนำห้าจัดระดับของมนุษย์ค่ะ (motivators) ที่ต้องพอใจในลำดับอย่างเข้มงวดเริ่มจากระดับต่ำสุด สรีรวิทยาความอยู่รอด (การมีชีวิตอยู่ และสร้าง) และความปลอดภัย (จะรู้สึกปลอดภัย) เป็นความต้องการพื้นฐานที่สุด และกดปุ่มมากที่สุด พวกเขาตามความต้องการทางสังคม (ความรักและการเป็นสมาชิก) และความต้องการนับถือตนเอง (จะรู้สึกเคารพ คุ้มค่า และมีสถานะ) ระดับสูงสุด และสุดท้ายต้องเป็น self-actualization ความต้อง (self-fulfillment และสำเร็จ) ชุดรูปแบบของต้นแบบอยู่ที่มนุษย์จะ 'ต้อง' สิ่งมีชีวิต: เป็นพวกเขาตอบสนองความต้องการหนึ่ง ถัดไปบ่งบอกในตัวเอง และต้องการความพึงพอใจ...และจนต้อง self-actualization ที่ โดยลักษณะมาก ไม่พอใจทั้งหมดจึง สร้างความต้องการเพิ่มเติม ทฤษฎีนี้ระบุว่า เมื่อความพึงพอใจความต้องการ จะหยุดการ motivator ของมนุษย์ ในการบริหารบุคลากร มันจะใช้ในการออกแบบของแผนงานสิทธิประโยชน์ ในตลาด มันจะใช้ในการออกแบบของแคมเปญส่งเสริมการขายตามความต้องการรับรู้ของผลิตภัณฑ์เป็นไปตามตลาด ชื่อหลังจากผู้ริเริ่ม จิตวิทยาสหรัฐอับราฮัมฮาโรลด์มาสโลว์ (1908-70) ที่นำเสนอใน 1954

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีแรงจูงใจซึ่งแสดงให้เห็นห้าระดับการพึ่งพาซึ่งกันและกันของความต้องการขั้นพื้นฐานของมนุษย์ (แรงจูงใจ) ที่ต้องได้รับความพึงพอใจในลำดับที่เข้มงวดเริ่มต้นด้วยระดับต่ำสุด ความต้องการทางสรีรวิทยาเพื่อความอยู่รอด (จะมีชีวิตอยู่และทำซ้ำ) และการรักษาความปลอดภัย (รู้สึกปลอดภัย) เป็นความต้องการพื้นฐานที่สุดและเร่งด่วนที่สุด พวกเขาจะตามมาด้วยความต้องการของสังคม (สำหรับความรักและเป็น) และความต้องการความนับถือตนเอง (รู้สึกคุ้มค่าที่จะเคารพและมีสถานะ) สุดท้ายและความต้องการระดับสูงสุดเป็นความต้องการของตนเอง actualization (ตัวเองปฏิบัติตามและความสำเร็จ) รูปแบบพื้นฐานของมันคือมนุษย์ 'ที่ต้องการ' สิ่งมีชีวิต: ตามที่พวกเขาตอบสนองความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปโผล่ในตัวเองและความต้องการความพึงพอใจ ... และอื่น ๆ จนความจำเป็นในการ actualization ตนเองว่าโดยธรรมชาติของมันไม่ได้อย่างเต็มที่ ความพึงพอใจและจึงไม่ก่อให้เกิดความต้องการมากขึ้น รัฐทฤษฎีนี้ว่าเมื่อจำเป็นต้องเป็นที่พอใจจะหยุดการเป็นแรงผลักดันของมนุษย์ ในการบริหารงานบุคคลนั้นจะถูกใช้ในการออกแบบรูปแบบแรงจูงใจ ในด้านการตลาดนั้นจะถูกใช้ในการออกแบบของแคมเปญส่งเสริมการขายตามความต้องการรับรู้ของกลุ่มตลาดที่ตอบสนองสินค้า ตั้งชื่อตามริเริ่มของนักจิตวิทยาสหรัฐอเมริกาอับราฮัมมาสโลว์แฮโรลด์ (1908-1970) ผู้เสนอมันในปี 1954